“เฉลิมชัย” ควงกรมชลดูเจ้าพระยายันไม่มีน้ำการเมือง
“เฉลิมชัย”ควงอธิบกรชลประทาน ลงเรือดูสถานการณ์น้ำเจ้าพระยา ยันระดับน้ำ ณ ปัจจุบันยังอยู่ในสถานการณ์ปกติ ขอประชาชนสบายใจคลายกังวล “ไม่มีน้ำการเมือง”
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน และคณะ ลงเรือตรวจติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาโดยนายเฉลิมชัย กล่าวว่า วันนี้มาดูสถานการณ์น้ำจาก กทม. ถึงปทุมธานี หลังจากปล่อยท้ายเขื่อนอยู่ที่ 1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ว่าระดับน้ำสูงขึ้นแค่ไหน
หากเปรียบเทียบกับปีที่แล้วปล่อย 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที พบระดับน้ำสูงสุดของปี 2564 กับปี 2565 ยังต่ำกว่าระดับสูงสุดมากกว่า 1 เมตร พร้อมยืนยันว่า ระดับน้ำ ณ ปัจจุบันยังอยู่ในสถานการณ์ปกติแต่กำลังเร่งบริหารจัดการน้ำทุกวัน โดยประสานงานร่วมกับทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง จึงอยากให้ประชาชนสบายใจและคลายกังวล
ขณะเดียวกัน นายเฉลิมชัย ย้ำถึงการทำงานแบบบูรณาการร่วมกัน ทุกครั้งที่จะมีการปล่อยน้ำ จะเสนอไปที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ก่อนประกาศแจ้งเตือนให้ทุกพื้นที่ทราบอีกทั้งยังได้เพิ่มจุดวัดระดับน้ำทำให้รู้ละเอียดมากขึ้นเพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมสำหรับการรับมือ
ทั้งนี้เชื่อว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นนั้น มาจากปริมาณฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องเพราะมวลน้ำจากภาคเหนือได้ระบายออกด้านข้างทั้งหมด และเขื่อนขนาดใหญ่ยังสามารถรองรับน้ำได้อีกมาก และจะไม่เหมือนเหตุการณ์เหมือนปี 2554 อย่างแน่นอน
ส่วนกรณีกระแสข่าวว่า เป็นน้ำท่วมการเมืองหรือไม่ นายเฉลิมชัย ยืนยันหนักแน่นว่า “เรื่องนี้แค่คิดก็เลวแล้ว ส่วนตัวคิดว่าไม่มีใครเอาความเดือดร้อนของประชาชน มาเป็นตัวประกันเหตุที่น้ำท่วมมาจากฝนที่ตกหนัก
ด้านอธิบดีกรมชลประทาน ยืนยันว่า การระบายน้ำของกรมชลประทานเป็นไปอย่างปกติ เช่น น้ำในคลองรังสิต ก็ระบายในอัตราเพื่อรักษาระบบนิเวศ และการอุปโภคของประชาชนแต่ด้วยสถานการณ์ฝนที่ตกหนัก มากกว่า 100 มิลลิเมตร ติดต่อกันหลายวัน ทำให้เกิดน้ำท่วมขัง ซึ่งกรมชลประทานพร้อมสนับสนุนการระบายน้ำแก้ไขในทุกจุด ก่อนยืนยันว่า”ไม่มีน้ำการเมือง” หรือการรับน้องแต่อย่างใด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
