กกท.จัดงานเชิดชูเกียรติฯบุคคลวงการกีฬามวยฯ 27 ก.ย. นี้
กกท. จัดงานยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคลในวงการกีฬามวย วันที่27 ก.ย. นี้ ที่อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก เพื่อเป็นการให้กำลังใจทุกภาคส่วนในการร่วมผลักดันกีฬามวยให้เติบโต
นายเขมพล อุ้ยตยะกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงานยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคลในวงการกีฬามวย ประจำปีงบประมาณ 2565
โดยมี ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, นายพลัฏฐ์ สุวรรณาเมธากร ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย, ผู้บริหาร กกท. และบุคคลในวงการมวย ร่วมงาน ณ บริเวณห้องโถงชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา กกท. เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา
เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า “มวยไทย” ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศไทย ซึ่งการผลักดันกีฬามวยไทยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเป็นเรื่องท้าทายของประเทศไทย ในฐานะประเทศต้นแบบ
ซึ่งรัฐบาลโดย พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนกีฬามวยไทยไปสู่โอลิมปิก ได้ให้แนวทางสำคัญในการส่งเสริมสินค้าและบริการทางวัฒนธรรมที่เป็น “ซอฟท์เพาเวอร์” ของไทย
โดยมอบหมายให้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับภาครัฐและเอกชน พัฒนามวยไทยให้มีมาตรฐานสากลและเป็นที่ยอมรับในการจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ และเพื่อเป็นการสร้างมูลค่าและความยั่งยืนทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศไทยอีกด้วย
“การพัฒนาและความสำเร็จของวงการกีฬามวยไทยในแต่ละมิติจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากปราศจากบุคลากรผู้ทรงเกียรติในการนำพา “มวยไทย” ไปสู่เป้าหมายดังกล่าว และเพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติบุคลากรผู้อยู่เบื้องหน้าและเบื้องหลังของวงการกีฬามวยไทย ตลอดจนกีฬามวยสากลของประเทศไทย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)
ในฐานะหน่วยงานที่ให้การส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาการกีฬาของชาติ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นประเทศชั้นนำด้านกีฬาในระดับนานาชาติ ทั้งกีฬาเพื่อมุ่งสู่ความเป็นเลิศ และกีฬาเพื่อมุ่งสู่การสร้างอาชีพ
จึงได้จัดให้มีการมอบรางวัลยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคลในวงการกีฬามวย ครั้งที่ 10 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ขึ้นในวันอังคารที่ 27 กันยายน 2565 ณ อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก
เพื่อเป็นการให้กำลังใจทุกภาคส่วนในการร่วมผลักดันกีฬามวยให้เติบโตต่อไปให้สมกับการเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศ และเพื่อเป้าหมายสำคัญคือการบรรจุกีฬา “มวยไทย” เข้าสู่กีฬาโอลิมปิกเกม โดยจะมอบรางวัลให้แก่บุคลากรในช่วงปี พ.ศ.2563 และปี พ.ศ. 2564 รวมทั้งสิ้น 67 รางวัล”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews