กรมอุตุนิยมวิทยา ตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์ พายุไต้ฝุ่น “โนรู (NORU)” ที่คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลางในคืนวันที่ 27 กันยายน 2565 คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนก่อนเข้าสู่ประเทศไทยในช่วงเช้ามืดของวันที่ 28 ก.ย.
โดยในวันนี้ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส เป็นประธานเปิดศูนย์อำนวยการติดตามสถานการณ์ พายุไต้ฝุ่น “โนรู (NORU)” เพื่อติดตาม ประเมิน และรายงานสถานการณ์พายุ พร้อม กล่าวว่า การทำงานของศูนย์อำนวยการฯ จะมีการ Conference กับสถานีอุตุนิยมวิทยาที่ตั้งอยู่ในจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ หรือบริเวณที่พายุจะเคลื่อนผ่าน จะร่วมกันประเมินสถานการณ์ของพายุ และหากมีความรุนแรงจะมีการสั่งการให้ตรวจวัดสภาพอากาศและปริมาณฝนให้ถี่ขึ้นในพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ เพื่อจะได้ข้อมูลช่วยในการประเมินสถานการณ์ให้มีความแม่นยำมากขึ้น
“เพราะฉะนั้นเราต้องติดตามเพื่อแจ้งเตือนประชาชนว่าพื้นที่ไหนที่มีปริมาณฝนตกมาก โดย ใช้เครื่องมือของกรมอุตุฯ ใช้เรดาร์ตรวจสอบเรื่องกลุ่มเมฆ ปริมาณฝนที่ตก แล้วก็มีตัวตรวจวัดในภาคพื้นดินด้วย แต่ละจังหวัดแต่ละจุด จุดไหนที่มีปริมาณฝนมาก ต้องรีบแจ้งเตือนพี่น้องประชาชน ผ่านทั้งระบบออนไลน์ต่างๆของเราแล้วก็ ประสานกับกระทรวงมหาดไทยสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กรมชลประทาน ก็คือจะติดตามสถานการณ์ ช่วยกันแก้ ปัญหาเรื่องการระบายน้ำในการแจ้งเตือนประชาชน”
นายธนะสิทธิ์ เอี่ยมอนันต์ชัย รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า พายุจะเคลื่อนเข้าไทยในวันที่ 28 กันยายน โดยจังหวัดที่ได้รับผลกระทบเป็นด่านแรกคือจังหวัดอุบลราชธานีรวมถึงอีสานล่างและภาคตะวันออกของไทย จากนั้นวันที่ 29 กันยายนพายุจะเคลื่อนเข้าสู่ตอนกลางของประเทศและวันที่ 30 กันยายน จะเคลื่อนขึ้นสู่ภาคเหนือก่อนจะออกนอกประเทศไทยไป แต่ก็ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องเพราะอิทธิพลจากร่องมรสุม
“ความจริงแล้วตอนเคลื่อนเข้าสู่ประเทศลาวมันเป็นแค่พายุโซนร้อนแต่เมื่อเข้าสู่ประเทศไทยจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่นกำลังลมก็ลดลงแต่ฝนจะตกเป็นบริเวณกว้าง ในพื้นที่ภาคอีสานโดยเฉพาะทานตอนกลางและตอนล่างของภาค อันนี้ประชาชนขอให้ติดตามพายุลูกนี้อย่างใกล้ชิด”
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและ อ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 27 กันยายน – 1 ตุลาคม 2565
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews