นายกฯ เชื่อมั่นแนวทาง”เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” เจาะตลาดส่งออกซาอุฯ เพิ่มมูลค่าการค้าเป็น 1 หมื่นล้าน ใน1 ปี
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบการมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของ นายอับดุลเราะห์มาน บิน อับดุลมุห์สิน อัลฟัฎลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อม น้ำ และการเกษตร แห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย
ซึ่งได้หารือกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 30 ก.ย ที่ผ่านมา เป็นการต่อยอดความร่วมมือระหว่างสองประเทศ ภายหลังการปรับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันให้กลับเป็นปกติโดยสมบูรณ์ ผลจากการไปเยือนซาอุดีอาระเบียของนายกรัฐมนตรี เมื่อเดือนมกราคม 2565
ทั้งนี้ นายเฉลิมชัย กล่าวถึงผลการหารือว่า ไทยและซาอุดีอาระเบียเห็นพ้องให้มีกลไกความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างกัน โดยฝ่ายซาอุฯ เสนอให้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding: MOU) ที่จะครอบคลุมหลายด้าน เช่น ด้านการประมง
เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เทคโนโลยี และกฎระเบียบการลงทุนด้านกิจการประมงในซาอุดีอาระเบีย และด้านการค้าสินค้าเกษตร ซึ่งซาอุฯเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง จะมีการขยายความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนในลักษณะ Business to Business (B2B) และการจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching) เพื่อเพิ่มโอกาสการค้าและการลงทุนด้านเกษตรและอาหาร
โดยสำนักการเกษตรต่างประเทศจะเป็นผู้ประสานงานในเรื่องดังกล่าวต่อไป มากไปกว่านั้น ทางซาอุฯ ยังได้เชิญชวนภาครัฐและภาคเอกชนของไทยเข้าร่วมงานแสดงสินค้าด้านการเกษตร ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนตุลาคมนี้ด้วย
ควบคู่ไปกับการสานสัมพันธ์ระหว่างกระทรวงเกษตรฯ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ขับเคลื่อนเรื่องการตลาดคู่ขนานกันไป จากการไปเยือนซาอุฯ ก่อนหน้านี้ อาทิ 1) จัดทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างสภาเอกชนของไทยกับสภาเอกชนของซาอุฯ พร้อมจัดตั้งสภาธุรกิจไทย-ซาอุดีอาระเบียขึ้น ตั้งเป้ามูลค่าการค้าร่วมกันไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ภายใน 1 ปี
2) ทำสัญญาซื้อขายนำเข้าปุ๋ยจากซาอุดีอาระเบียทั้งหมด 425,000 ตัน ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าฟอสฟอรัส กับยูเรีย ซึ่งจะสามารถช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนปุ๋ยภายในประเทศได้ และ 3) การพัฒนาความร่วมมือด้านวิชาการการผลิตสินค้าฮาลาลกับประเทศไทย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ติดตามการดำเนินการต่อยอดความสัมพันธ์ระหว่างไทยและซาอุดีอาระเบียมาโดยตลอด และเชื่อมั่นว่าจะมีสิ่งดีๆ เป็นประโยชน์แก่ประชาชนทั้งสองประเทศเกิดขึ้นอีกมาก อันเป็นผลจากความร่วมมือในทุกมิติ และที่คาดว่าจะเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมคือโอกาสทางธุรกิจ ที่ปัจจุบันตัวเลขการค้าระหว่างสองประเทศมีแนวโน้มที่ดี
เฉพาะ 7 เดือนแรกของปีนี้ สามารถส่งออกสินค้าได้เพิ่มขึ้นถึง 26% อีกทั้ง การกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกระทรวงของทั้งสองประเทศ จะส่งผลถึงการขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนด้านการเกษตรและอาหารในอนาคตต่อไป รวมถึงการขยายตลาดสู่ประเทศอื่น เพราะซาอุฯเป็นประตูไปสู่ประเทศแถบตะวันออกกลางซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง และมีความต้องการสินค้าไทยเช่นกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews