@แม้ในโลกออนไลน์จะมองว่าเป็นประเด็น “ดราม่า” กับ กรณี ปรากฏการณ์ “เดี่ยว13” ของ “โน้ต อุดม แต้พานิช”
ที่ความจริงเปิดเวทีเดี่ยว13 มาตั้งหลายเดือนที่แล้วตั้งแต่ก่อน “นายกฯลุงตู่” จะถูก “ศาลรัฐธรรมนูญ” สั่งพักงาน38วัน ในคดี “ปมนายกฯ8ปี” จนได้กลับมาทำงานเป็น “นายกฯตัวจริง” หลังศาล รธน.วินิจฉัย (30ก.ย.) แต่“เน็ตฟิก” เพิ่งนำมาออนแอร์ในแพลตฟอร์มให้คนรับชมได้ เมื่อวันที่ 11 ต.ค.65 ที่ผ่านมา กระทั่งกลายเป็น
กระแสไวรัลติดเทรนต์ทวิตและมียอดวิวนับล้าน โดยเฉพาะ จากประเด็นเนื้อหาช่วงท้ายของการแสดง ที่“โน้ต” มีการเสียดสีการเมือง พุ่งเป้าไปที่รัฐบาลโดยเฉพาะ “นายกฯลุงตู่” สร้างความไม่พอใจให้กับ “กองเชียร์” “กองหนุน” ของ “นายกฯลุงตู่” ที่ออกมาแสดงความไม่พอใจและแสดงออกถึงการ แบนไม่สนับสนุน “โน้ต”
@ในขณะที่ก็มีผู้คนจำนวจมากเช่นกันที่เห็นด้วยกับเนื้อหาที่โน้ตนำมาพรีเซ้นท์ผ่านการแสดงว่าตรงกับใจของผู้คนทั้งในประเด็น การเป็น “นายกฯ8ปี” ของ “นายกฯลุงตู่” ที่ถูกวิจารณ์ว่า กลายเป็นว่า เดี๋ยวยังไม่ครบ8ปี ยังเหลืออีก2ปีคือปี68 ในขณะที่ “โน้ต” ก็ “โนสนโนแคร์” โพสต์โต้ทำนอง “สะดวกแบบนี้”จน “พี่ศรี” นักร้อง เตรียม “จัดให้” ด้วยการจะไปแจ้งตำรวจ ปอท.ดำเนินคดีกับ “โน้ต” ฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จทางคอมพิวเตอร์ในสัปดาห์หน้าฃ
@ที่ประเด็นกระแสความคิดความเห็นแบบ “สองขั้ว” ระหว่างฝ่ายที่ “เอาลุงตู่” และ “ไม่เอาลุงตู่”ที่ส่งสะท้อนผ่านอารมณ์จากเคส “เดี่ยว13” นั้นถูกจับจากหลายฝ่ายถึงการแยกเป็น “Generation”โดยฝ่ายกองหนุน “ลุงตู่” ถูกมองว่าส่วนใหญ่เป็น “Genผู้ใหญ่” ส่วน ฝ่ายเห็นด้วยกับ “โน้ต”ส่วนใหญ่เป็น “Genเด็กคนรุ่นใหม่” ที่ผสมกับคนGen X ที่เข้าข่าย “เบื่อลุง” ที่อยู่มานาน8ปีส่วนหนึ่ง ในขณะที่ฟากฝั่งฝ่ายการเมือง ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์และวิเคราะห์ถึงผลกระทบ“ปรากฏการณ์เดี่ยว13” ที่ฝ่ายตรงข้าม “ลุงตู่” มองว่าถือเป็นเสียงสะท้อนจากประชาชนที่ “ลุงตู่” ควรใจกว้าง รับฟังว่าประชาชนรู้สึกอย่างไรกับ “ผู้นำ” ในขณะที่ฝ่ายรัฐบาล มองว่าเป็นการเกินเลยของ “โน้ต” ที่วิจารณ์นายกฯ
@อย่างที่ “รมต.อนุชา” มองว่า หากเป็นคำวิจารณ์ที่ตรงไปตรงมาไม่ประกอบด้วยอคติ เอาสนุกอย่างเดียว ก็คิดว่าไม่มีปัญหา แต่หากคำวิจารณ์นั้น ประกอบด้วยอคติ และใส่เจตคติบางอย่างก็ทำให้สังคมเกิดความเคลือบแคลงย่อมเป็นไปได้ เพราะเป็นศิลปิน ที่ส่วนตัวมองว่าเป็นเซเลบและสังคมติดตามให้ความสนใจ โดยเรื่องนี้ส่วนมากศิลปินจะไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมือง เพราะเป็นผู้ทรงอิทธิพลทางความคิด ก็ต้องไปพิจารณาว่าอะไรเกิดขึ้นอย่างไรแต่สิ่งที่ตนกล่าวไป ทุกคนที่มีเจตนาบริสุทธิ์ เป็นเรื่องของประชาธิปไตยซึ่ง เห็นว่า มีหลายส่วนที่คิดว่าไม่เหมาะสม ในฐานะที่เรามีรัฐบาล มีผู้นำ บางอย่างคิดว่าก็เกินเลยไป
@ในขณะที่ “น.ต.ศิธา” จาก พรรคไทยสร้างไทย มอง กรณี “เดี่ยว13” ว่า เป็นเรื่องบวก เพราะในระบอบประชาธิปไตยต้องพูดคุยได้ วิจารณ์ผู้มีอำนาจได้ ผู้นำต้องใจกว้าง เช่นเดียวกับกรณีของนักร้อง4 คน (“คอนเสิร์ต” สี่แยกปากหวาน ตอน Will survive # สู้ตายเราต้องรอด 17-18ก.ย.65)ที่ร้องเพลงเสียดสีนายกรัฐมนตรี ถ้าเอาคดีความมาปิดปากไม่ให้เขาพูด จากสิบจะเป็นหมื่นเป็นแสนดังนั้นต้องเปิดเสรีภาพในการแสดงความเห็น และเปิดใจรับฟัง บางคนพูดแล้วมีเหตุผลมากกว่าผู้นำประเทศบางคน พร้อมยืนยันว่า เรายืนอยู่ข้างประชาชนตลอด
@เรียกว่าแม้จะยังไม่มีท่าทีใดมาจาก “นายกฯลุงตู่” กับกรณี “เดี่ยว13” แต่ในด้านของการเป็น “กระจกสะท้อน” ทิศทางทางการเมืองนั้น มีความสอดรับเชิงคู่ขนานในข้อเท็จจริง ที่ ฝ่ายการเมืองโดยเฉพาะใน พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ของ “พี่ใหญ่” ย่อมทราบดี ถึง “เรตติ้ง” ของ “นายกฯลุงตู่”ว่าอยู่ในภาวะใดกับทั้งผลสำรวจโพลหลายครั้งที่ผ่านมา และกับทั้ง“โพลลับ” ที่ “ผู้กองนัส” ครั้งที่เคยอยู่ พปชร.เคยมีการสำรวจ ที่ทั้งหมดยังไม่นับรวม “ข้อเท็จจริงทางกายภาพ”
อย่างที่ “ลุงตู่”สัมผัสได้เองจนถึงขนาดบ่นเปรยดัง จากการลงพื้นที่ดูน้ำท่วมที่เมืองนนท์เมื่อวาน (13ต.ค.)ที่ต้องเลี่ยงไม่เผชิญหน้ากับม็อบที่มาดักรอปาอุจจาระใส่ของ “ใบร์ท” โดยเฉพาะใน “ปัจจัยตกกระทบ” ปม “เดี๋ยว8ปี” ของ “ลุงตู่” ที่ส่งผลในทางการเมือง “อีกเด้งหนึ่ง”กับทิศทางอันคลุมเครือของ พปชร. ในการเสนอชื่อ “แคนดิเดตนายกฯ” ที่ “ลุงตู่” ถูกมองเป็น“จุดอ่อน” เนื่องจาก “มีฉลากหมดอายุปี68” ที่ส่งผลกระทบเป็นภาพ ข่าวลือ “พปชร.เลือดไหล” ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ประเด็นดังกล่าวโยงถึงภาพความขัดแย้งทางความคิดของ“น้องเล็ก” และ “พี่ใหญ่ป้อม” .
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews