รมว.พาณิชย์ ชี้ เศรษฐกิจโลกถดถอย แต่ยังมีช่องทาง เชื่อส่งออกไทยเติบโตได้ บาทอ่อนเพิ่มรายได้ภาคเกษตร
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น. ว่า เศรษฐกิจโลกเวลานี้มีความผันผวนและเปราะบางมาก แต่ก็ไม่น่ากังวลจนเกินไปสำหรับการค้าระหว่างประเทศของไทย โดยเชื่อว่าการส่งออกของไทยในครึ่งปีหลังของปีนี้ยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง แม้จะในอัตราที่ชะลอลง เนื่องจากมีปัจจัยกดดันการส่งออกของไทย เช่น กำลังซื้อที่ลดลง ความกังวลของผู้บริโภคต่อสถานการณ์โลก ซึ่งเป็นผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกในภาพรวม และเศรษฐกิจของตลาดส่งออกสำคัญ การประเมินของ IMF ล่าสุดในเดือนตุลาคม 2565 มองว่า แนวโน้มเศรษฐกิจโลก จะมีอัตราการเติบโตที่ ร้อยละ 3.2 ในปี 2565 และในปี 2566 ได้ปรับลดคาดการณ์ลงเล็กน้อยจากเดิม ที่ร้อยละ 2.9 เป็นร้อยละ 2.7 อย่างไรก็ดี IMF คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อโลก จะมีการปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น โดยลดลงจาก ร้อยละ 8.8 ในปีนี้ เป็น ร้อยละ 6.5 ในปีหน้า
และสำหรับการอ่อนค่าของเงินบาท ผู้ส่งออกได้รับผลกระทบในระดับต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าผู้ส่งออกมีการพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบในการผลิตมากน้อยเพียงใด โดยผู้นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ เช่น เครื่องจักร วัตถุดิบ น้ำมัน พลังงานจะต้องจ่ายในราคาที่แพงขึ้น จึงกระทบต่อต้นทุนการผลิต ส่วนผู้ส่งออกที่ได้รับผลกระทบน้อยหรือได้รับประโยชน์ คือ กลุ่มผู้ผลิตสินค้าส่งออกที่ใช้วัตถุดิบในประเทศในสัดส่วนสูง เนื่องจากได้รับรายได้จากการส่งออกสูงขึ้น โดยเฉพาะสินค้าเกษตรกรรม ทำให้รายได้จากการส่งออก ซึ่งอยู่ในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อนำมาแลกเป็นเงินบาท จะได้เงินบาทมากขึ้น ซึ่งในภาพรวมแล้วมองว่า ช่วงเวลานี้ไม่ใช่ช่วงเวลาของการรับมือ แต่เป็นช่วงเวลาของการเดินหน้า เร่งแสวงหาโอกาส โดยการผลักดันการส่งออกเชิงรุกและเชิงลึกมากขึ้น
และสำหรับการส่งออกในปีหน้า คาดว่าจะยังสามารถช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยต่อไปได้ เนื่องจากตลาดสำคัญ 10 อันดับแรก ในกลุ่มที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มกลับมาฟื้นตัว และกลุ่มที่ยังเติบโตได้ดี (จีน ฮ่องกง เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย อินเดีย) รวมกันมีสัดส่วนถึง ร้อยละ 32.3 ของการส่งออกของไทยไปตลาดโลก ส่วนตลาดสหรัฐ ซึ่งเป็นตลาดอันดับ 1 ของไทย มีสัดส่วนการส่งออกร้อยละ 16 แม้ว่า คาดการณ์แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจจะต่ำมากในปีนี้และปีหน้า แต่จากการประเมินร่วมกันล่าสุด ระหว่างทูตพาณิชย์ในสหรัฐฯและภาคเอกชน เห็นตรงกันว่า สหรัฐฯมีการหาแหล่งนำเข้าสินค้าทดแทนการนำเข้าจากจีนจำนวนมาก และมีคำสั่งซื้อสินค้าจากไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงถือเป็นโอกาสของประเทศไทยที่การส่งออกจะยังขยายตัวได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews