นายกฯคนละครึ่ง อุ้มลุงฉุดเศรษฐกิจ
น่าติดตามเป็นอย่างยิ่งกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยโค้งสุดท้ายปี 2565 ซึ่งเป็นห่วงจังหวะที่มีทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยลบรุมเร้า
ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจโลกถดถอย ธนาคารกลางสหรัฐขึ้นดอกเบี้ย เงินบาทผันผวนอ่อนค่า สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัด ที่สร้างความเสียหายไม่น้อยกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท รวมไปถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่ร้อนฉ่า
สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ถามอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง “นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช” ถึงมุมมองเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 โดยเขามองว่า ตอนนี้เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญกับผลกระทบของเศรษฐกิจโลกถดถอย การเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งละมากๆ ของเฟด รวมถึง ธนาคารกลางในยุโรป ซึ่งทุกปัจจัยต่างเชื่อมโยงต่อเศรษฐกิจไทย
“ตอนนี้เศรษฐกิจโลกกำลังชะลอตัวด้วยการขึ้นดอกเบี้ยที่ละมากๆ ของสหรัฐอเมริกา แล้วบางแห่งในยุโรป ดังนั้นไตรมาส 4 เศรษฐกิจไทยก็จะเจอปัญหาผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกประการที่ 1 ประการที่ 2 เศรษฐกิจไทยเองก็ยังต้องเข้มงวดเรื่องนโยบายการเงิน คงจะต้องมีการขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งหนึ่ง อันนี้ก็จะมีผลต่อภาคการเงิน ตลาดหุ้น ตลาดทุน ยังอยู่ในระดับต่ำอยู่ อันนี้ก็จะเกิดขึ้น ทีนี้ก็ในภาพเศรษฐกิจจริงค่อนข้างใช้ได้แล้ว”
นายสุชาติ กล่าวอีกว่า แต่เหนืออื่นใด ปัจจัยเรื่องการเมืองย่อมมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ทั้งในด้านความเชื่อมั่น ดั่งจะเห็นได้จากการลงทุนจากต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับประเทศเวียดนามพบว่าไทยมีสัดส่วนที่น้อยกว่าเวียดนาม
“ปัญหาของการเมืองไทยก็มีปัญหาอยู่ คือปัญหาเรื่องความไม่เชื่อมั่นในตัวรัฐบาล ทำให้การลงทุนน้อยมากในช่วง 7-8 ปี ที่ผ่านมา การลงทุนเทียบกับเวียดนาม การลงทุนจากต่างประเทศ น้อยกว่าเวียดนาม อันนี้ก็เป็นเรื่องที่จะต้องสร้างความเชื่อมั่น”
ส่วนสมการทางการเมือง นายกฯคนละครึ่ง “บิ๊กตู่” กับ “บิ๊กป้อม” ที่กำลังถูกพูดถึงกันในขณะนี้นั้น “นายสุชาติ” มองว่า ไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ เพราะความน่าเชื่อถือของผู้นำ ย่อมมีผลต่อเศรษฐกิจกว่า 50%
“นายกฯคนละครึ่งแบบนี้ จะลงเลือกตั้งก็คง ใครเขาจะไปเลือก ไม่มีประโยชน์สำหรับการหาเสียง คือคนเขาต้องการผู้นำ เรื่องอิชชูใหญ่ ก็คือ ใครจะมาเป็นผู้นำประเทศน่าเชื่อถืออันนี้มีผลต่อเศรษฐกิจกว่า 50%”
ขณะที่ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส เผยมุมมองต่อเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องจาก 3 เหตุผลหลัก ดังนี้
1. การลงทุนโดยตรง (Foreign Direct Investment-FDI) ในภูมิภาคอาเซียนและไทยเพิ่มขึ้นชัดเจน หลังคลายล็อกดาวน์
2. นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล อาทิ คนละครึ่งเฟส 6, เราเที่ยวด้วยกัน ที่จะเสนอต่อ ครม. ภายในวันที่ 29 พฤศจิกายน
3. สถานการณ์น้ำท่วมมีแนวโน้มดีขึ้น คาดการท่องเที่ยวจะกลับมาครึกครื้น โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดว่า ปริมาณที่นั่งโดยสารเครื่องบินที่เดินทางจากต่างประเทศมายังประเทศไทยในช่วงฤดูหนาวของปีนี้ มีจำนวน 573,538 ที่นั่งต่อสัปดาห์ เพิ่มขึ้น 74.2% เมื่อเทียบกับช่วงตารางบินฤดูร้อน ซึ่งมีจำนวน 329,288 ที่นั่งต่อสัปดาห์
และนี่ก็เป็นมุมมองเศรษฐกิจ ซึ่งจากนี้ต่อไปจะต้องติดตามการขับเคลื่อนของรัฐบาลอย่างใกล้ชิด เพราะทุกย่างก้าวย่อมส่งผลต่อการจับจ่ายใช้สอย ที่เชื่อมโยงกับคะแนนนิยมของรัฐบาลและลุงตู่นั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews