Home
|
ไลฟ์สไตล์

อนุสัญญาเจนีวา คำมั่นสัญญาแห่งสนามรบ

Featured Image

          อนุสัญญาเจนีวา ได้รับการพูดถึงอย่างมากหลังจากเหตุการณ์ชุมนุมในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา สาเหตุที่ อนุสัญญาเจนีวา ได้รับการพูดถึงเนื่องจากมีวิดีโอถูกปล่อยออกมาว่าหนึ่งในทีมของแพทย์อาสาถูกทำร้าย ซึ่งขัดต่อหลักสากล ในเวลาต่อมาก็มีการโต้เถียงกันถึงความถูกต้องและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งผลสรุปจะเป็นอย่างไรก็ต้องรอติดตามกันต่อไป ในตอนนี้เราจะมาพูดถึงที่มาและความสำคัญของ อนุสัญญาเจนีวา คำมั่นสัญญาแห่งสนามรบ

          อนุสัญญาเจนีวา(Geneva Conventions) คือ อนุสัญญาที่เหมือนเป็นคำมั่นสัญญาสำคัญในระดับโลก มีเนื้อหาสำคัญอยู่ที่กฏเกณฑ์ในการปฏิบัติเรื่องความรุนแรงในสงคราม การคุ้มครองผู้ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องในการสู้รบเช่น พลเรือน บุลลากรทางการแพทย์ หรือ กลุ่มผู้ทำงานเพื่อช่วยเหลือต่างๆ และยังครอบคลุมถึงผู้ที่ไม่สามารถร่วมการสู้รบได้อีกต่อไปเช่น ทหารที่บาดเจ็บ เชลยสงคราม โดยมีผู้ที่เกี่ยวข้องดูแลเป็นหลักคือ คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ ICRC (THE INTERNATIONAL COMMITTEE OF THE RED CROSS) ,สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ (The International Federation of Red Cross and Red Crescent Societies) หรือ IFRC  ,สภากาชาดประจำชาติ สภาเสี้ยววงเดือนแดงประจำชาติ The National Red Cross and Red Crescent Societies (National Societies) 

จุดเริ่มต้นของอนุญัญญาเจนีวา นั้นเริ่มในปี 2407 เป็นการประชุมที่จัดขึ้นโดยรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ร่วมกับประเทศต่างๆในยุโรป ร่างและลงนามร่วมกัน โดยมีทั้งหมด 4 ฉบับ มีใจความสำคัญดังนี้ 

  • อนุสัญญาฉบับที่ 1 สาระสำคัญว่าด้วยการปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของผู้บาดเจ็บ ผู้ป่วยในกองทัพที่อยู่ในสนานรบให้มี สภาพที่ดีขึ้น รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ บุคลากรทางศาสนา 
  • อนุสัญญาฉบับที่ 2 สาระสำคัญเน้นไปที่เจ้าหน้าที่ ทหารที่บาดเจ็บ ในทะเลไม่ว่าจะเรืออัปปางหรือเรือแตกในสงคราม ให้มีสภาพที่ดีขึ้น
  • อนุสัญญาฉบับที่ 3 สาระสำคัญเน้นไปที่เชลยศึกสงคราม การปฏิบัติต่อเชลยสงคราม เช่น ที่คุมขังต้องชี้แจ้งชัดเจน ได้รับกระบวนการพิจารณาคดี ข้อกำหนดให้ปล่อยตัวและส่งกลับหลังจากสงครามยุติ
  • อนุสัญญาฉบับที่ 4 สาระสำคัญเน้นไปที่พลเรือน ผู้ที่อยู่ในดินแดนที่ถูกยึดครองหรือมีสงคราม สัญญาเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญหลังช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ในช่วงแรกอนุสัญญาเน้นไปที่ทหารหรือกองกำลัง แต่หลังสงครามโลกครั้งที่  2 ทุกคนได้เห็นผลกระทบต่อพลเรือนแล้วว่าหนักขนาดไหน ใจความหลักของสัญญาฉบับนี้คือ การรักษาพยาบาลแก่เพื่อนและศัตรูโดยเท่าเทียบ เคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ 

          สรุปสาระสำคัญของอนุสัญญาเจนีวา 

          ทางสำนักงานยุวกาชาด สภากาชาดไทยได้สรุปสาระสำคัญของอนุสัญญาเจนีวาไว้ดังนี้ 

  • ผู้บาดเจ็บต้องไม่ถูกทอดทิ้ง
  • ผู้ป่วยต้องได้รับการรักษา ผู้เสียชีวิตต้องถูกค้นหา
  • พาหนะเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บต้องได้รับการคุ้มครอง 
  • โรงพยาบาลต้องไม่ถูกคุกคาม
  • เชลยศึกต้องได้รับการปลดปล่อยและส่งกลับ
  • ห้ามการปล้นสะดม 
  • หีบห่อยาและเวชภัณฑ์มีเส้นทางลำเลียงที่ปลอดภัย
  • เป็นหลักของกฏหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ        

          หลังจากที่มีอนุสัญญาเจนีวาแล้ว ก็ได้มีการขยายเพิ่มเติมเรียกว่า กฏหมาย IHL หรือกฏหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ เป็นการคุ้มครองพลเรือนที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม ความขัดแย้งภายในไม่ว่าจะเป็น สงครามกลางเมือง การขัดแย้งระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายกบฏ สรุปเรื่องหลักๆที่กล่าวถึงคือ 

  • จำกัดวิธีในการทำสงคราม 
  • แยกพลเรือนออกจากผู้ที่ทำการรบ เคารพชีวิตทหาร พลเรือน
  • ห้ามทำลายสิ่งที่จำเป็นต่อความอยู่รอดของพลเรือน 
  • เคารพสัญลักษณ์กาชาด (หรือที่ได้ยินกันบ่อยๆว่าห้ามทำร้ายบุคลากรทางการแพทย์ ไม่ยิงหมอ) 
  • ห้ามทำร้ายคนที่วางอาวุธ
  • ช่วยเหลือคนบาดเจ็บ รักษาพยาบาล

          ที่ไหนใช้อนุสัญญาเจนีวาบ้าง?

          อนุสัญญาเจนีวาได้รับการสัตยาบันโดยหลายประเทศ หลายรัฐบาล ประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกันโดยอยู่ใน พระราชบัญญัติ บังคับการให้เป็นไปตามอนุสัญญาเจนีวาเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อเชลยศึก พ.ศ.2498  สามารถดูรายชื่อประเทศที่สัตยาบันเจนีวาได้ที่นี้ รายชื่อประเทศที่เข้าร่วมอนุสัญญาเจนีวา

          อนุสัญญาเจนีวากับบุคลากรทางการแพทย์ 

          แน่นอนว่าในรายละเอียดสัญญานั้นมีระบุเกี่ยวกับทั้งพลเรือน ทหาร เจ้าหน้าที่ ตามที่ระบุไป แต่ในตอนนี้จะมาดูตัวอย่างข้อที่น่าสนใจเกี่ยวกับบุคลากรทางการแพทย์กันที่มีตั้งแต่อดีตกัน 

          อนุสัญญาเจนีวา(1864)

          มาตราที่ 2 อนุสัญญาเจนีวาปี 1864 ใจความสำคัญระบุไว้ว่า 

          เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล การหน้าที่บริการทางการแพทย์ รถพยาบาล ต้องได้รับประโยชน์ การอำนวจความสะดวกอย่างเป็นกลาง หรือกล่าวง่ายๆว่า ไม่ถูกโจมตีหรือขัดขวางจากทุกฝ่าย

          อนุสัญญาเจนีวา(1906)

          มาตราที่ 9 อนุสัญญาเจนีวาปี 1906 ใจความสำคัญระบุไว้ว่า 

          บุคลากรที่ทำหน้าที่ขนส่ง รักษาผู้ป่วย ผู้บาดเจ็บ ตลอดจนบริหารงานสุขาภิบาล จะได้รับการเคารพและคุ้มครองในทุกสถานการณ์ 

          อนุสัญญาเจนีวา(1949)

          มาตรา 36 อนุสัญญาเจนีวาปี 1949 ใจความสำคัญระบุไว้ว่า 

          บุคลากรทางการแพทย์และโรงพยาบาลต้องได้รับการเคารพและคุ้มครอง 

          นอกจากนี้ยังมีอีกหลายฉบับใจโดยเน้นย้ำไปที่ บุคลลากรทางการแพทย์ต้องได้รับความเคารพและคุ้มครอง

          คงได้รู้ข้อมูลกันแล้วว่า สัญญาเจนีวา ที่พูดถึงกันนั้นมีที่มาและความสำคัญอย่างไร ในหลายประเทศที่เกิดสงครามหรือความขัดแย้งก็จะมีการพูดถึงอนุสัญญาเจนีว่าเสมอๆ และส่วนใหญ่ก็มักที่จะโดนละเมิด อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเห็นต่างกันขนาดไหน ทุกฝ่ายควรปฏิบัติตามหลักอย่างถูกวิธี มีความเป็นมนุษยธรรม ยึดมั่นคำมั่นสัญญาแห่งสนามรบไว้เสมอ 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก 

wikipedia

สภากาชาดไทย

icrc

IHL DATABASE 

history 

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube