@เปิดฉาก”ศึกซักฟอก”นายกฯพร้อม 9 รัฐมนตรี วันแรก แม้ถ้อยคำในญัตติที่อ่าน ”จะดูแรง” สำหรับ ”ลุง” แต่ดูทรงจากท่าที ”ลุงทำเนียบฯ” ที่เดินทางมาสภาช่วงเช้า ด้วยท่าทีผ่อนคลาย และบอกนักข่าวว่า พร้อมรับฟังข้อมูลการอภิปรายด้วยความนิ่งและให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องชี้แจง หากมีการพาดพิง ไม่รู้สึกกังวลอะไรแล้ว ก็น่าจะเป็นไปดังที่หลายฝ่ายคาดว่า”จุดโฟกัส”ที่ฝ่ายค้านระดม”ขุนพล”ราว10 คน รวม”ตู่ใหญ่”เสรพิสุทธิ์ เตมียเวส น่าจะไม่ ”ระคายผิว” หาก “ลุง” ยึดแนว ”นิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว” ไม่ไหลอารมณ์ไปเข้าทางกลายเป็น ”ลุงฉุน” แต่ให้ “รัฐมนตรี” ที่รับผิดชอบชี้แจงไป ที่ “ฝ่ายค้าน” ในรอบ ”แก้ตัว” ครั้งนี้ด้านหนึ่งก็ต้อง “ประคองเกม” ให้ไปได้ตลอดลอดฝั่ง 4 วัน โดยมุ่งไปที่การตรวจสอบ “ปมทุจริตคอรัปชั่น” ประสิทธิภาพ ความบกพร่อง ส่งผลกระทบประชาชน เช่นเรื่องโควิด และ ปากท้อง ไม่ให้ “เข้าทาง” แบบที่ “ทีมองครักษ์ลุง” เคยขู่ไว้แล้วว่าหาก มีประเด็น “หมิ่นเหม่” ก้าวล่วงสถาบันฯนอกจากการประท้วงแล้วยังอาจเข้าโซนอันตรายแบบที่ ”ไพบูลย์” ยื่นญัตติให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความญัตติดักไว้ก่อนหน้านี้
@กระนั้นก็มีความน่าสนใจในปรากฎการณ์เคลื่อนไหว ”คู่ขนาน” ระหว่าง ”ศึกฟอกลุง” หนนี้ ที่ต่างจากครั้งก่อน กับร่องรอบการบริหารจัดการสถานกานการณ์ของฝ่ายอำนาจ โดยเฉพาะแรงกระเพื่อมจาก“นอกสภา”ที่เคย”ลิงค์”กับ”ภายใน” ที่มีการกำหนด”หมุดหมาย”ในการชุมนุมวันที่ 20 ก.พ.จาก ”ม็อบเด็ก” ”ราษฎร” ที่มีการ ”จับสัญญาน” ความน่าห่วงปรากฎการณ์ ”น้ำผึ้งหยดเดียว” ที่อาจเกิดขึ้นถึงขั้นอาจมีการ ”เลือดตกยางออก” จากการวิเคราะห์ของ “ตู่ จตุพร พรหมพันธ์” วันก่อน โดยเฉพาะมีการประเมินจาก ”ความแรง” ผ่านเหตุการณ์ ”ม็อบ13ก.พ.” ที่ยัง “คาใจ” กันระหว่าง ฝั่งม็อบและตำรวจ ที่ผ่านมา ว่าจะสะสมและระเบิดออกในวันที่ 20 ก.พ.
@ที่แม้ว่า 8 ผู้ต้องหาในคดี “ม็อบวันที่13ก.พ.” จะได้รับการประกันตัวไปเมื่อวาน แต่พรุ่งนี้ (17ก.พ.) คดีที่ ”แกนนำม็อบ” แถวหนึ่งและสองที่เหลือ13คนที่โดนทั้งม.112 และ ม.116 ไม่รับรวม “เอกชัย พงษ์กังวาล” ที่โดน ม.110 และมีคิวส่งฟ้อง25ก.พ. จะทยอยถูกส่งฟ้องต่ออัยการนั้น ว่ากันว่า มีการ “ส่งสัญญาน” มาแล้ว ว่า ”ทิศทาง” จะเป็นตาม ”โมเดล” คดี ”4แกนนำ” “อานนท์-เพนกวิน-สมยศ และ หมอลำแบงค์” ที่ถูกส่งฟ้องคดีม.112 และ ม.116 และถูกคุมขังโดยไม่ได้รับการประกันตัวจากเหตุผลศาลเกรงจะออกมาทำความผิดซ้ำซาก ดังที่ ”รุ้ง ปนัสยา” ที่ไปยื่น จม.เปิดผนึก 5 หน่วยงานยุติธรรม เรียกร้องปล่อยตัว 4 ผู้ต้องหา ม.112 บอกว่า “เตรียมใจ” ว่าอาจไม่รอดจาก ”โมเดล” เดียวกันในวันพรุ่งนี้ (17ก.พ.) แต่ก็ยังยืนยันว่า “ม็อบ20ก.พ.” ยังมี
@ที่ประเด็นเด็ดปีกแกนนำ ”แถวหนึ่ง-สอง” ที่ยังไม่นับรวมว่า ยังมีคดี หุ้นสื่อ ”ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ที่ถูกมองว่า “สัมพันธ์เชื่อมโยง” ที่ กกต.ดำเนินคดีอาญา แจ้งความสน.ทุ่งสองห้อง และ พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 4 ได้นัดฟังคำสั่งคดี ในวันที่ 19 ก.พ. 2564 ที่ทั้งหมด ถูกประเมินจาก ”นักสังเกตการณ์” ว่า ด้านหนึ่งจะเป็น ”อัตราเร่ง” ทำให้ ”เร้าอุณภูมิ” ให้ไปสู่ “จุดสิ้นสุด” การเคลื่อนไหวของ “ม็อบราษฎร” หลังจากนี้ในวันที่ 20 ก.พ. ในแนวทางที่ สถานการณ์กระทบกระทั่งแบบแรงขึ้น ที่อาจจะมี “มือที่สามเท้าที่สี่” ช่วยเร่งดังที่ ”จตุพร” เตือนว่ามีสัญญานแปลกๆเหมือนจะให้มีการ “ปิดจ๊อบม็อบ” ที่เหตุการณ์ความบานปลาย อาจจะแรงร้ายไปกว่าภาพที่เห็น จากเหตุการณ์ ”ม็อบ13ก.พ.” หรือไม่ ที่หากเป็นเช่นว่า ด้านหนึ่งย่อมส่งผลกระทบกับรัฐบาล “3ป.” ไม่น้อยในสถานการณ์วุ่นวาย และปรากฎการณ์แทรกซ้อนจาก ”ภายนอกประเทศ” ที่จะเกิดขึ้นถัดไปเช่นกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news