นายกฯเสียใจน้ำท่วมนครศรีฯตาย19ย้ำมีงบช่วย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางด้วยรถรถยนต์ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. เลขทะเบียน 1 นข 2940 กรุงเทพมหานคร เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัย และตรวจเยี่ยมให้กำลังใจประชาชน โดยระหว่างทางนายกรัฐมนตรี ได้หยุดรถทักทายและสอบถามประชาชนผู้ประสบอุทกภัยบริเวณข้างทาง ก่อนจะเดินทางถึงศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง ต.แม่เจ้าอยู่หัว อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช โดยมีนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์และประชาชนมาร่วมต้อนรับ ซึ่งเมื่อนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงได้ตรวจเยี่ยมโรงครัวพระราชทาน ก่อนร่วมปรุงอาหารเพื่อแจกจ่ายประชาชนผู้ประสบอุทกภัย จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับประชาชน ว่า วันนี้มาจังหวัดนครศรีธรรมราช ดีใจจังฮู้ เมื่อสักครู่มีประชาชนเอาข้าวกับแกงคั่วกลิ้งมาให้ชิม ดีใจอย่างที่บอกได้มาเยี่ยมชาวนครฯ และฝากถึงชาวจังหวัดอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบด้วย วันนี้รัฐบาลได้วางมาตรการเป็นระดับๆ ซึ่งหลายจังหวัดได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมซึ่งมีสาเหตุหลักจากปริมาณน้ำฝนมาก 7 วัน มีฝนตก ถึง 900 มิลลิเมตร เทียบกับปกติทั้งปีในตกไม่เกิน 2,000 มิลเมตร ทำให้สภาพลำคลองธรรมชาติรับไม่ไหวและอ่างเก็บน้ำเต็ม ทั้งนี้รัฐบาลมาเยี่ยมให้กำลังใจ และที่มาช้าเพราะต้องการข้อมูลจากข้างล่าง ว่ามีปัญหาตรงไหน โดยต้องแก้เชิงระบบเชิงโครงสร้าง เท่าที่ทราบมีผู้ได้รับผลกระทบมาก ที่แย่คือมีผู้เสียชีวิต 19 ราย นายกฯและรัฐบาลขอแสดงความเสียใจกับทุกคน ยืนยันรัฐบาลจะดูแลให้มากที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทั้งนี้การช่วยเหลือระยะแรกการแจกถุงยังชีพ อีกทั้งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานถุงยังชีพจำนวน 10,000 ถุง และยังทรงรับสั่งว่าหากไม่เพียงพอก็พร้อมมอบให้อีก นี่คือสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะพระองค์ท่านทรงทำหลายอย่างและทรงพระราชทานความช่วยเหลือ ดังนั้นทุกอย่างต้องแก้เป็นระยะๆ ต่อไปรัฐบาลก็ทบทวนโครงการที่ลงมายังจังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดใกล้เคียง อยากขออย่างเดียวขอประชาชนช่วยมีส่วนร่วมในการทำประชาพิจารณ์ หลายพื้นที่ยังมีปัญหาอยู่ เพราะไม่ผ่านประชาพิจารณ์ ให้นโยบายไปแล้วขอให้ทุกคนช่วยกันไม่เช่นนั้นแก้ไม่ได้ ซึ่งวันนี้โลกกำลังเปลี่ยนแปลง สิ่งสำคัญที่สุดคือให้คนอยู่กับน้ำได้โดยไม่ขาดแคลนสิ่งอุปโภคบริโภค และวันนี้เร่งระบายน้ำถังเครื่องสูบน้ำกันน้ำโดยมีทั้งพลเรือนตำรวจและทหารมาช่วยเต็มที่ นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งในระหว่าพบปะ ให้กำลังใจประชาชนที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วม จ.นครศรีธรรมราช ว่า เรื่องถนนขวางทางน้ำ ได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมดูแลแล้ว ต้องทำเป็นระบบ ทำคนเดียวไม่ได้ถ้าประชาชนไม่ร่วมมือ เพราะเป็นเรื่องกฎหมาย และรัฐธรรมนูญ วันนี้หลายอย่างเริ่มดีขึ้น เศรษฐกิจในพื้นที่หลายโครงการได้รับผล ตอบรับเป็นอย่างดีโดยเฉพาะโครงการคนละครึ่ง และโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ดีใจหลายคนมากราบไหว้วัดไอ้ไข่ และสักการะพระธาตุ ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งการท่องเที่ยววันนี้ถ้าไม่มีไอ้ไข่ก็ลำบาก อย่างไรก็ตามดีใจเห็นรอยยิ้มประชาชน พร้อมย้ำว่าห่วงทุกคน หลายบ้านยังอยู่ในน้ำ ขอให้ทุกคนช่วยกัน สำหรับการช่วยเหลือจะเร่งรัดแจกจ่ายให้เร็วขึ้นและยังมีงบฯบริจาคด้วย ยืนยันว่ารัฐมีงบประมาณอยู่แล้ว ขออย่างเดียวคือความเข้าใจ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล้าวด้วยว่าวันนี้มี ส.ส.มาด้วย 5 คน พรรคพลังประชารัฐ 3 และประชาธิปัตย์ 2 ไม่ว่าใครพรรคอะไรก็เหมือนกัน วันนี้ต้องร่วมมือกัน และวันนี้ไม่ได้มาหาเสียง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นอกจากน้ำท่วมแล้วอีกเรื่องที่เป็นห่วงคือโควิด-19 วันนี้ยังประมาทไม่ได้จนกว่าจะมีวัคซีนป้องกัน ซึ่งคาดว่าเป็นกลางปีหน้า ขอเตือนคนที่ข้ามไปมาตามแนวชายแดนที่ไม่ผ่านช่องทางปกติ ได้สั่งเพิ่มใช้โดรนตรวจจับได้ถึงบ้าน ยืนยันว่าสถานการณ์วันนี้ ยังไม่ใช่ซุปเปอร์สเปรดเดอร์ เพราะยังรู้ที่มา รู้ตัวคน แต่อย่าประมาท หลายประเทศยังติดเชื้อ แต่เรามีหมอ แพทย์ พยาบาลและยาเตรียมไว้พร้อม ถ้ามีปัญหาอีกรัฐบาลก็ทุ่มเท รวมทั้งพัฒนาวัคซีน ก็คิดว่าจะสำเร็จ โดยต้องพัฒนาในประเทศเราด้วย ซึ่งเรื่องนี้นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอีกเรื่องที่ทรงพระราชทานบริษัทสยามไบโอ ที่ทรงพระราชทานสนับสนุนรัฐบาล อย่างไรก็ตาม นายกฯ กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า สิ่งสำคัญที่สุด ประเทศชาติของเราอยู่ด้วย 1.ชาติ 2.ศาสนา แม้แตกต่างกันแต่อยู่ร่วมกันได้ 3.สถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งทุกพระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อคนไทย ขอให้กำลังใจทุกคน ตนเองกลับไปแต่ก็สั่งไว้หมดแล้ว พร้อมนำประชาชนตะโกนว่า “สู้ไม่สู้ เหนื่อยไม่เหนื่อย รักไหม ไม่รักฉันไม่เป็นไร ฉันรักเธอ ไม่ได้มาหาเสียง ใครไม่รักผมไม่เป็นไร ผมยิ่งต้องรักท่าน เราเกลียดชังกันไม่ได้เพราะเป็นคนไทย คนไทย ต้องรักชาติศาสนาพระมหากษัตริย์และเคารพกฎหมายเท่านั้น รัฐบาลจะได้ทำงานได้” ขณะที่ประชาชนก็พากันตะโกน “รักนายกฯ ” นายกฯ จึงกล่าวว่า ไปไม่ได้แล้ว รักจังฮู้! และ มีประชาชนถามเลขทะเบียนรถนายกฯ เพื่อนำไปตีตัวเลข นายกฯ จึงกล่าวแซวว่าตนเองไม่สนับสนุนแต่ไม่ขัดข้องแต่ขอให้พอเพียง