ทุกวันนี้ไม่ว่าเราจะเดินไปทางไหนหรือเวลาอยู่บนรถยนต์ หากมองไปจะเห็นป้ายวันนี้วันพระ พร้อมพวงมาลัยสวยๆ เต็มไปหมด วันนี้เลยอยากชวนทุกคนมารู้จักที่มาและความสำคัญของวันพระกันสักนิด
วันพระ หมายถึงอะไร?
วันพระ หรือ วันธรรมสวนะ หมายถึง วันประชุมของพุทธศาสนิกชนเพื่อปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนา เช่น ถือศีล ,ฟังธรรม ,เข้าวัดเพื่อทำบุญ ,ถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ ไม่ควรทำบาปใดๆ ยิ่งในวันนี้เพราะถือว่าบาปยิ่งกว่าวันอื่น โดยกำหนดตามปฏิทินจันทรคติ โดยมีเดือนละ 4 วันได้แก่
- วันขึ้น 8 ค่ำ
- วันขึ้น 15 ค่ำ (วันเพ็ญ)
- วันแรม 8 ค่ำ
- วันแรม 15 ค่ำ (หากเดือนใดเป็นเดือนขาด ถือเอาวันแรม 14 ค่ำ)
ที่มาของวันพระ
ในสมัยพุทธกาลพระราชาพระนามว่า พระเจ้าพิมพิสาร ได้เข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในพระวิหารเชตวัน และได้กราบทูลว่า
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์แลเห็น ซึ่งนักบวชศาสนาอื่นอีก ได้มีวันกำหนดนัดหมายประชุมสนทนาเกี่ยวกับหลักธรรมคำสั่งสอนในที่ประชุมของเขาทั้งหลาย เหล่านั้น แต่ว่า ข้าแแต่พระองค์ผู้เจริญ ไฉนศาสนาพุทธของเราทั้งหลายย่อมมีวันกำหนดนัดหมายเพื่อประชุมกันหามิได้ ดังนี้.”
พระพุทธองค์จึงทรงอนุญาตให้ภิกษุสงฆ์ประชุมสนทนาและแสดงธรรมเทศนาแก่ประชาชน ในวัน ๘ ค่ำ ๑๔ ค่ำ และ ๑๕ ค่ำ
พุทธศาสนิกชนจึงถือเอาวันดังกล่าวเป็น วันธรรมสวนะ ( สำหรับวันธรรมสวนะนี้ เมืองไทยมีมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย )
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews