“ชลน่าน” อภิปราย 3 ป. บริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว มีกระบวนการส่วยนำแรงงานเข้าไทย ทำโควิดระบาด มอง ตรวจเชื้อเชิงรุกต่างด้าวไม่ถูกต้อง
นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปราย ไม่ไหววางใจ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความล้มเหลว ในการบริหารราชการแผ่นดินโดยเฉพาะการบริหารโควิด-19 ว่า นายกฯ เป็นโรค NPD หรือ เป็นโรคหลงกลเองมี 17 สัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่าเป็นโรคนี้เช่นไม่ยอมรับความผิดกลับหาว่าเป็นความผิดของบุคคลอื่น
การที่นายกฯ บอกว่าการจัดซื้อเรือดำน้ำเป็นเรื่องจำเป็น แต่กลับยกเรื่องจำนำข้าวไปถึง นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร บอกว่าไม่เหมือนกับการจำนำข้าวที่ต้องใช้หนี้สินถึง 12 ปี ซึ่งย้อนถามว่าเรือดำน้ำกับการจำนำข้าวเหมือนกันอย่างไร ซึ่งความผิดของตัวเองไม่เห็นกับโบ้ยใส่คนอื่น ทั้งที่สองเรื่องนี้คนละประเด็น ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ไม่เหมาะสมในการดำรงตำแหน่งเพราะเป็นคนไม่ปกติ จึงทำให้ประเทศชาติเสียผลประโยชน์ ซ้ำยังรวบอำนาจบริหารสถานการณ์โควิด แต่เพียงผู้เดียวดังนั้นความผิดพลาดทั้งหมดนี้เป็นของนายกรัฐมนตรี เพียงผู้เดียว และบอกว่าฟังทุกฝ่ายถ้าฟังคงไม่เป็นแบบนี้ “คงคุ้นชินกับการเสพติดอำนาจ” ไม่สนใจเสียงประชาชน ไม่สนใจการมีส่วนรวมภาพทุกอย่างจึงออกมาเป็นแบบนี้
ซึ่งความผิดพลาดล้มเหลวนั้น สุดที่จะทน เหมือนดีใจได้ไม่นานว่าเป็นประเทศที่คุมโควิดได้ แต่ไม่นานเมื่อมีการระบาดในละลอกใหม่ ซึ่งความผิดพลาดตรงนี้
หรือมีผลประโยชน์ร่วมด้วย ทำให้เกิดการระบาดรอบสอง ปล่อยให้แรงงานข้ามชาติไหลทะลักเข้ามาประเทศไทย รวมกันในบ่อน และมีการแพร่กระจายออกไปทั่วประเทศ นายกฯและรัฐมนตรี เอง ก็ยอมรับจากสภาฯ ว่า มีบ่อน ซึ่งเกิดจากการปล่อยประละเลย ไม่ล็อกดาวน์ 28 จังหวัด แต่อ้างเป็นพื้นที่ควบคุมสูง มีการลักลอบเข้ามาอย่างไม่ถูกกฎหมาย 2แสน1หมื่นล้านเป็นเงินกู้
นายแพทย์ชลน่าน ระบว่า มีกระบวนการส่วยนำแรงงานเข้าไทยจนทำให้เกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 พร้อมฉายแผนภูมิ ผู้ที่เกี่ยวข้อง 12 กลุ่ม ซึ่งเป็นส่วยในกลุ่มคนจีนที่เข้ามาทำคาสิโนและคอลเซ็นเตอร์ พร้อมระบุอักษรย่อบิ๊ก ป.และมีรุ่นเตรียมทหาร และอักษรย่อ ระบุไว้อย่างชัดเจน ส่วนส่วยแรงงานต่างด้าวและโรฮิงญา มีการวางรากฐานมาตั้งแต่ ปี 2557 โดยส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม และสมุทรปราการ
โดยนำเข้ามาจากพื้นที่จังหวัดตาก มากกว่า 2 ล้านคน แล้วจะปล่อยให้คนเหล่านี้บริหารประเทศได้อย่างไร และเป็นที่น่าสังเกตว่า เมื่อเวลาจับกุมดำเนินคดีได้บุคคลเหล่านี้มักจะคดีเงียบหาย ถ้าระดับบนไม่รู้เห็นเป็นใจคดีเหล่านี้จะเงียบหายได้อย่างไร พร้อมมองว่าการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกที่ทำอยู่ ในกลุ่มแรงงานต่างด้าวไม่ถูกต้อง ในการใช้ระบบบับเบิ้ลซีลห้ามเข้าออกพื้นที่ และทำการตรวจค้นหาเชื้อเชิงรุก แต่กลับพบว่าไม่ตรวจเชื้อเนื่องจากกลัวเสียงบประมาณกว่า 20 ล้าน
ทั้งนี้ มองว่า การบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินภายใต้ความกลัวนั้นล้มเหลว แต่สิ่งที่ล้มเหลวที่สุดในช่วงที่ผ่านมาคือการสร้างความกลัวให้กับประชาชน โควิดเป็นโรคที่ติดง่ายแต่ตายยาก ซึ่งศักยภาพทางการแพทย์รักษาได้
“ชลน่าน” ชี้ ระบอบ”ประยุทธ์”ตัดตอนประชาธิปไตย ยึดครองประเทศแบบเบ็ดเสร็จ เอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง
นายแพทย์ชลน่าน ระบุ ว่า ระบอบประยุทธ์ ตัดตอนประชาธิปไตย ยึดครองประเทศแบบเบ็ดเสร็จโดยขบวนการ 3 ป. เขียนรัฐธรรมนูญเพื่อสืบทอดอำนาจ จัดการเลือกตั้งโดยใช้กลไกที่วางไว้ในโครงสร้างรัฐธรรมนูญ ทำให้ตัวเองและพวกพ้องเข้ามาในสภาได้มากที่สุด ใช้อำนาจผูกขาดกระจายขุนกำลัง 3 ป. แบ่งหน้าที่กันยึดครองประเทศ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผ่านไปที่องค์กรอิสระ และสมาชิกวุฒิสภาหรือ ส.ว. พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง และ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา ดูแลองคาพยพส่วนราชการส่วนภูมิภาค ประเทศที่อยู่ภายใต้ 3 ป.แล้วจะกระดิกกระเดี้ยไปไหน พยายามแก้รัฐธรรมนูญ แต่สุดท้ายก็ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ จะตรวจสอบการทำหน้าที่ก็ทำไม่ได้กลับไม่มาตอบกระทู้ถาม แม้แต่การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งที่ผ่านมา ก็ถูกพรรคร่วมฝ่ายค้านประณาม ในเรื่องการใช้เวลาในการอภิปราย
พร้อมกับมองว่า เจตนาคติสำนึกทางการเมืองไม่มี ดูถูกสภา ไม่เคยมีนายกรัฐมนตรี ที่มาจากการเลือกตั้งคนใด ที่ปฏิเสธสภา อาจจะกลัวแต่ต้องให้เกียรติแต่นายกฯ คนนี้ พูดใส่หน้าพวกตนว่า “จะเปิดสภาให้ด่าผมอีกทำไม” ขณะนี้หมดเวลาของนายกรัฐมนต รีแล้ว ขอให้คืนเวลาให้กับประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจประชาธิปไตย อย่าทำร้ายประเทศชาติต่อไปตนไม่ไว้วางใจให้ทั้ง 3 คนบริหารประเทศชาติบ้านเมืองต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news