วันนี้นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพ ได้เดินทางมาร่วมปลูกต้นไม้ในกิจกรรม “ปลูกต้นไม้มอบพื้นที่สีเขียวและกำแพงกรองฝุ่น เขตบางกะปิ ณ บริเวณวงเวียนข้ามแยกกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่-ศรีนครินทร์
ก่อนที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ชี้แจงกรณีที่นายชัชชาติเปิดพื้นที่ลานคนเมืองให้มีการชุมนุมม็อบหยุดเอเปก จนกระทั่งมีเหตุการณ์ปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและกลุ่มผู้ชุมนุมว่า ตนมองเป็นเรื่องธรรมดา ทางกทม. พยายามทำดีที่สุด มีการจัดพื้นที่ให้ประชาชนได้แสดงออก มีการตั้งเวทีที่ลานคนเมือง มีการปราศรัย ส่วนเรื่องการปะทะที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่น่าเสียใจที่มีผู้บาดเจ็บทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายตำรวจแล้วก็ฝ่ายประชาชน ส่วนเรื่องขั้นตอนการปฏิบัติต้องไปดูรายละเอียดอีกที กทม.ไม่ได้เกี่ยวข้องตรงนั้น คงต้องดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นถึงได้มีการปะทะกันหรือบาดเจ็บ จะได้เป็นบทเรียนในการปรับปรุงให้ดีขึ้นต่อไป
เรื่องที่ม็อบปักหลักค้างคืนนั้น ตนไม่อนุญาตให้ค้างคืน จริงๆแล้วที่อยู่กันไม่ได้อนุญาตให้อยู่ เพราะตามหลักพื้นที่ราชการไม่สามารถอนุญาตได้ ซึ่งจะต้องมีการดูสถานการณ์ ดูหน้างาน ถ้าผลักดันแล้วผู้ชุมนุมไหลไปที่อื่น แล้วสร้างความเดือดร้อน เราดูตามบริบทหน้างานทั้งนี้ ตนว่าตรงนี้ไม่ได้ตายตัว ต้องดูสถานการณ์หน้างาน แล้วเอาผลสำเร็จของตัวงานเป็นหลักมากกว่า
ส่วนกรณีที่ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบันจะเดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อกระทรวงมหาดไทย ในวันที่ 22 พฤศจิกายน ให้ตรวจสอบผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครนั้น ตนถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะมีการตรวจสอบกัน เราก็ทำหน้าที่เต็มที่ หากมีส่วนใดผิดพลาดก็ตรวจสอบได้ให้เป็นความโปร่งใส หากมีความผิดก็ปลดได้ ก็ว่าไปตามกฎหมาย ทุกคนตรวจสอบได้ทั้งนั้น
“เรื่องม็อบก็มองเป็นเรื่องธรรมดาทางกทม.ก็ทำดีที่สุด มีการจัดพื้นที่ให้ประชาชนได้แสดงออก มีการตั้งเวทีที่ลานคนเมืองทั้ง 2 วันไม่มีเหตุการณ์อะไรก็มีการปราศรัย ส่วนเรื่องการปะทะที่เกิดขึ้นก็มาเรื่องที่น่าเสียใจที่มีผู้บาดเจ็บทั้งสองฝ่ายทั้งฝ่ายตำรวจแล้วก็ฝ่ายประชาชน ส่วนเรื่องขั้นตอนการปฏิบัติต้องไปดูรายละเอียดอีกทีหนึ่ง เราไม่ได้เป็นข้องเกี่ยวตรงนั้น คงต้องดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นถึงได้มีการประทะกันหรือบาดเจ็บ
จะได้เป็นบทเรียนในการปรับปรุงให้ดีขึ้นต่อไป กทม. เองในอนาคตเราอาจจะทำให้ดีขึ้นได้ ผมก็เชื่อว่าการเปิดลานคนเมืองเรามีการคุยกันมาตลอดเราไม่ได้ทำเองเราคุยกับฝ่ายตำรวจปรึกษาหารือกันตลอด ซึ่งคิดว่าเป็นสิ่งดีดีให้ผู้คนได้มีพื้นที่แสดงออกและไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับการประชุมซึ่งใน2วัน ที่ผ่านมา 16 -17-18 การตั้งเวที ส่วนเรื่องค้างคืนเราไม่ได้มีการอนุญาตให้ค้างคืนแต่ในทางเดียวกันคนที่มาถ้าเราจะผลักดันออกไป อาจจะมีผลกระทบต่อการประชุมเป็นการตัดสินใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
เราไม่ได้อนุญาตแต่เราก็ไม่ได้ไล่ผลักดันออก เพราะกลัวว่าจะไหลไปที่อื่น ซึ่งเป็นการพิจารณาในเคสต่อเคสอนาคตเราทำให้ดีขึ้นได้ไหม ก็คิดนะว่าเราจะทำให้ดีขึ้นได้ยังไงปัญหาที่เกิดขึ้นมันเกิดขึ้นตอนที่ผู้ชุมนุมเดินไปที่การประชุม ซึ่งพอเดินแล้วมันก็อาจจะทำให้มีปัญหาฝ่ายความมั่นคงอาจจะบอกว่าอาจจะอยากให้เดิน
ในอนาคตเป็นไปได้ไหมที่เราอาจจะจัดตัวแทนของผู้ที่มาประชุมมาคุยกับผู้ชุมนุมเลยว่าเขาต้องการข้อเรียกร้องอะไรเชื่อมกันไม่ต้องให้เดินไป หรือว่าเอาตัวแทนจากผู้ชุมนุมไปเจอกันได้ไหม เอาตัวแทนเข้าไปพบ หรือเราอาจจะช่วยสรุปประเด็นให้ได้ไหม กทม.เป็นตัวกลางสรุปประเด็นต่างๆอาจจะแลกเปลี่ยนกัน
เป็นบทเรียนที่เราจะต้องพัฒนาให้ดีขึ้นเราก็น้อมรับทุกคอมเม้นอาจจะไม่เห็นด้วยที่เราเปิดลานคนเมือง เราได้คุยวางแผนใช้ยุทธศาสตร์ทางตำรวจฝ่ายความมั่นคงแล้วทุกคนก็เห็นด้วยว่าตรงนี้เป็นจุดที่ดีอยู่ห่างจากที่ประชุมตัวหลัก มีพื้นที่พอการเดินทางไม่ได้ลำบากมากก็ได้ปรึกษาตลอด ก็น้อมรับหน้าความเห็นที่บอกว่าไม่เห็นด้วยซึ่งเราคงทำให้ทุกคนถูกใจไม่ได้ ภาพรวมแล้วสรุปภาพลักษณ์ออกมา
ประชุมที่คิดว่าในแง่ของการดำเนินการทำได้สำเร็จเรียบร้อยส่วนเรื่องเนื้อหาอย่างที่บอก กทม.ไม่ได้เกี่ยวข้องเรื่องเนื้อหาสรุปประเด็นเป็นยังไงการดำเนินการก็เป็นไปได้ด้วยดีอย่างที่บอกว่าจะต้องมีจุดปรับปรุงในอนาคต จะมีคนกลุ่มหนึ่งไปยื่นเรื่องที่มหาดไทย ดีแล้วเราจะได้ช่วยกันตรวจสอบถ้ามีอะไรผิดพลาดก็สามารถทำตามกฎหมายได้ ผมเชื่อว่าเรามีการคุยแล้วต้องดูภาพลักษณ์จำนวนมากก็พูดว่าการประชุมนี้สำเร็จลุร่วงอย่างราบรื่นผมก็ยินดีให้การตรวจสอบเราก็พอเพราะเรามาจากการเลือกตั้งอยู่แล้วประชาชนก็ตรวจสอบอยู่แล้วประชาชนเป็นคนที่เราต้องฟังอยู่แล้ว ตรวจสอบได้ไม่มีปัญหา”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
