Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

30 พ.ย.ชี้ขาด เลือกตั้งทางสะดวก…หรือทางตัน

 

สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 25 กำลังนับถอยหลัง สู่การครบวาระ เพื่อเข้าสู่กระบวนการแข่งขัน ให้ประชาชนตัดสินใจเลือกผู้แทนกันอีกครั้ง โดยเหลือเวลาอีกไม่ถึง 120 วันแล้ว และ คณะกรรมการการเลือกตั้ง เคยวางไทม์ไลน์คร่าวๆ

 

 

 

อาจจะมีการหย่อนบัตรลงคะแนนกันในวันที่ 7 พ.ค.2566 หรืออาจเร็วกว่านั้น เพราะมีนักวิชาการบางคน หรือแม้แต่นักการเมืองจากบางพรรคฟันธงว่า จะมีการยุบสภา เพื่อความได้เปรียบทางเทคนิคของพรรครัฐบาล สำหรับการลงสนามสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า แต่บางคนก็กังวล แอบหวั่นใจจะเกิดสุญญากาศ เพราะกฎหมายลูกยังไม่เรียบร้อย ยังต้องลุ้นจนถึงวันที่ 30 พ.ย.นี้ ที่ตุลาการทั้ง 9 คน จะเป็นชี้ขาด พรป.เลือกตั้งส.ส.ที่สภาให้ความเห็นชอบไปแล้วนั้น ขัด หรือ ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ “นพ.ระวี มาศฉมาดล” หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ตัวตั้งตัวตี

 

 

ในการยื่นให้ศาลวินิจฉัย เพราะคาใจกับสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่เปลี่ยนจาก หาร 500 เป็น หาร 100 มั่นใจถึง 50% ว่ากฎหมายลูกอาจจะขัดรัฐธรรมนูญ ในขณะที่ “นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภา มั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า สูตรคำนวณส.ส.นั้น ไม่มีทางเปลี่ยนกลับไปเป็น หาร 500ได้อีก พร้อมอ้างคำชี้แจงของ กกต.ว่าไม่มีข้อความใดบ่งชี้ว่า ม.25 ม.26 ที่เป็นการแก้ไขเพิ่มเติม ให้ยกเลิกการคำนวณ ส.ส. พึงมี และ ส.ส. บัญชีรายชื่อพึงได้รับ ขัดหรือแย้งรัฐธรรมนูญ ม.93 และ ม.94 แต่อย่างใด

 

 

ดังนั้นคำวินิจฉัยของศาล รัฐธรรมนูญ ในวันที่ 30 พ.ย.นี้ ซึ่งจะมีผลผูกพันทุกองค์กรนั้น จะออกมาในลักษณะใด จึงมีความน่าสนใจมาก โดย 1.หากตัดสินว่า
กฎหมายลูก เลือกตั้ง ส.ส.ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ตามที่ “หมอชลน่าน”มั่นใจ ทุกอย่างก็น่าจะจบ กระบวนการนำขึ้นทูลเกล้าฯฯก็จะเดินหน้า และกฎหมายก็จะมีผลบังคับใช้ต่อไป ซึ่งถือเป็นการปูทางไปสู่การยุบสภา หรืออยู่จนครบวาระ ตามที่รัฐบาลจะตัดสินใจ ก็จะไม่มีปัญหาอะไรให้กังวลอีก เพราะมีกฎหมาย มีเครื่องมือให้ กกต.ได้ใช้ในการเตรียมจัดการเลือกตั้งแล้ว

 

แต่หากผลคำตัดสิน ออกมาในแนวทางที่ 2 คือ ขัดรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ใช่สาระสำคัญ ก็สามารถส่งให้สภาปรับแก้ไขปรับปรุงใหม่ได้ ก็สามารถเดินหน้าสู่การเลือกตั้งได้ แต่หากวินิจฉัยออกมา ในแนวทางที่ 3 คือขัดรัฐธรรมนูญ และเป็นสาระสำคัญ กฎหมายก็จะตกไปทั้งฉบับ ซึ่งนั่นอาจเป็นทางตันที่หลายฝ่ายเป็นกังวล หากมีการยุบสภาในช่วงนั้น เพราะจะไม่มีกฎหมายให้ช้จัดการเลือกตั้ง

 

แต่”วิษณุ เครืองาม” รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย เคยชี้โพรงให้กระรอกไว้แล้วว่า จะมีทางออก และไม่มีทางที่การเมืองจะถึงทางตันอย่างแน่นอน โดยทางออกเพื่อเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งได้ ก็จะเหลือแค่ 2 ทาง คือการรีบเสนอ และพิจารณาร่างกฎหมายลูกใหม่ แต่ด้วยระยะเวลาของสภาที่เหลืออยู่อาจไม่ทันแล้ว และอีกทางออก คือ คณะรัฐมนตรี ต้องออกเป็น พรก. เพื่อไม่ให้กระทบกรอบเวลาของการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ รวมถึงอาจจะมีทางออกที่ 3 เพิ่มมาได้ โดยมาพร้อมกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่อาจกำหนดคำบังคับ หรือวิธีการแก้ปัญหามาให้ เพื่อให้ทันกรอบการเลือกตั้ง นั่นเอง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube