นายกรัฐมนตรี ยังคงสงวนท่าที ไม่ตอบให้ชัดเจนถึงอนาคตทางการเมือง แต่ พล.อ.ประวิตร กลับพูดชัด ไม่ได้มีปัญหา ไม่ได้น้อยใจ พลังประชารัฐ กับ รวมไทยสร้างชาติ เป็นพี่น้องกัน ส.ส.ก็ดูดกันไปมา ไม่มีอะไร
ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่คลุมเครือ และยังไม่มีความชัดเจน จะแยกกันเดินแล้วร่วมกันตี ของ พี่น้อง ป.2 ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ขณะนี้มีแต่กระแสข่าวมาอย่างต่อเนื่อง
โดยในวันนี้ นายกรัฐมนตรีได้หารือสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา – อาเซียน หรือ USABC และ คณะนักธุรกิจจากสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา – อาเซียน ซึ่งถือเป็นหุ้นส่วนด้านเศรษฐกิจกันมายาวนาน มีบทบาทร่วมกันมาตลอด พร้อมย้ำว่า ไทยพร้อมเปิดรับโอกาสใหม่ๆ ทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน
ซึ่งไทยพร้อมร่วมมือกับภาคเอกชนสหรัฐฯ เพื่อมุ่งส่งเสริมความเข้มแข็งและการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างสมดุลและครอบคลุม และให้ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะ SMEs ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรม บนพื้นฐานโมเดลเศรษฐกิจ BCG เพื่อพัฒนาไทยไปสู่การเป็นศูนย์กลางด้านการลงทุนของภูมิภาค
แต่ภายหลังการหารือนักธุรกิจสหรัฐฯ นายกรัฐมนตรี ไม่ได้มีการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน และยังคงสงวนท่าทีในการตอบประเด็นทางการเมือง ที่จะไปอยู่กับพรรคร่วมไทยสร้างชาติ ที่หลายฝ่ายรอฟังความชัดเจน รวมถึงกรณี พรรคประชาธิปัตย์ มีการทวงถามถึงการปรับคณะรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรค ที่ได้ส่งชื่อไปนานถึง7 สัปดาห์ และกระแสข่าวการปรับตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยจะให้ นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯ มาทำหน้าที่แทน นายดิสทัต โหตระกิตย์
ส่วนความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรณ นั้น วันนี้ นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ เป็นประธานเปิดงานสัมมนา และนิทรรศการเศรษฐกิจดิจิทัล “THAILAND 4.0 ประเทศไทยไปไกลกว่าที่คิด ซึ่งภายหลังเปิดงาน พล.อ.ประวิตร ยืนยันว่า ไม่ได้มีปัญหา หรือมีความขัดแย้งกับพล.อ.ประยุทธ์เพราะอยู่ด้วยกันมา 40-50 ปีแล้ว ส่วนกรณี ส.ส.พลังประชารัฐ โดนดูดก็ไม่มี ก็แค่ดูดไปดูดมากันนี่แหละ ก็พรรคเดียวกันนั่นแหละ ไม่มีอะไรหรอก พล.อ.ประยุทธ์ กับตนเอง เป็นพี่เป็นน้องกัน ไม่มีอะไร อยากไปอยู่ก็ไป ไม่ว่าอะไร ไม่น้อยใจที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะมีลูกพรรคอีก 100-300 คน ที่จะต้องอยู่ ที่จะต้องทำงานร่วมกัน พรรคนี้จะต้องเป็นพรรคที่เป็นหลักให้กับประเทศชาติต่อไป
อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามความเคลื่อนไหวทางการเมืองต่อเนื่อง เพราะตั้งแต่เสร็จสิ้นการประชุมเอเปค นายกรัฐมนตรี ก็มีภารกิจลงพื้นที่พบประชาชน และส.ส. ต่อเนื่อง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยสัปดาห์นี้ ในวันที่ 30 พ.ย.นี้ จะเดินทางไปพื้นที่แปลงนาเพื่อเปิดโครงการข้าวรักษ์ BCG Model นำร่องระยะที่ 1 และทำการเกี่ยวข้าวในแปลงร่วมกับชาวนา ก่อนที่จะเดินทางไปพบปะเกษตรกรในเวทีเสวนา เพื่อรับทราบแนวทางการปฏิวัติการทำนาสู่ความยั่งยืนตามแนวทางที่ได้มอบนโยบายไว้ พร้อมร่วมเสวนากับเกษตรกรอีกด้วย ที่น่าจะเป็นการส่งสัญญาณทางการเมือง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews