Home
|
ข่าว

นายกฯ เปิดงาน “มหกรรมเที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม”

Featured Image
นายกฯ เปิด งาน “มหกรรมเที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม” บอกหากประเทศสงบ ดึงนักท่องเที่ยวได้แน่ 15 ล้านคน ขอช่วยกันเป็นเจ้าบ้านที่ดี ยอมรับทำการตลาดไม่เก่ง

 

 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “มหกรรมเที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม” ที่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยกล่าวว่า การท่องเที่ยวของประเทศไทยในปีนี้ดีกว่าในช่วงที่ผ่านมามาก พร้อมเล่าถึงการเดินทางไปที่กรุงบัสเซล สหราชอาณาจักรเบลเยียม ว่า ที่นั่นอากาศหนาวประมาณ -6 องศามีลมและความเย็น บรรยากาศละเรื่องเลยกับบ้านเราและเวลาต่างกัน 6 ชั่วโมง

 

ซึ่งบรรยากาศบ้านเราไม่เหมือนที่ไหนในโลกตนไปมาหลายประเทศไม่มีที่ไหนเหมือนไม่ว่าจะเป็นประชาชน สถานที่ท่องเที่ยว ทุกประเทศนั้น มีความสวยงามมีเอกลักษณ์ของตัวเองแต่ไม่มีความหลากหลายเหมือนของไทย ไม่ใช่เฉพาะสถานที่โบราณสถานสถานที่อันใหญ่โต แต่ไทยมีสถานที่เล็กกลางใหญ่ให้ได้เลือกมาเที่ยวมาดู

 

ซึ่งตนได้คุยกับผู้นำหลายประเทศบอกว่ารู้จัก เชียงใหม่ ภูเก็ตพัทยา สมุย รวมถึงเกาะภาคใต้อีกหลายเกาะ และวันนี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยประมาณ 10,000,000 คน ผู้นำต่างประเทศต่างแปลกใจว่าทำไมนักท่องเที่ยวมาเยอะ ซึ่งตนพูดด้วยความภาคภูมิใจว่านี่คือประเทศไทยดินแดนแห่งรอยยิ้ม ดินแดนแห่งการท่องเที่ยวและมิตรไมตรีสันติภาพสันติสุข

 

นอกจากนี้ ทุกคนคาดหวังว่าอยากจะมาเที่ยวเมืองไทยสักครั้ง เมื่อถามว่าจะมาเที่ยวที่ไหนดีตนก็ ตอบว่าที่ประเทศไทยมีดีทุกที่ทุกภาค และผู้นำหลายประเทศต่างยืนยันว่าจะมาเที่ยวประเทศไทยให้ได้ ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจที่ตนได้นำความภาคภูมิใจของพวกเราทุกคนไปด้วยเพราะทุกคนเป็นคนทำ นายกรัฐมนตรี เป็นเพียงคนกำหนดนโยบาย และแนวทางการปฏิบัติ โดยต้องยกระบบการท่องเที่ยวให้มีคุณภาพ ซึ่งตนคิดว่าเรามีพร้อมทุกอย่างแล้ว

 

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า การเป็นนายกรัฐมนตรีของตนไม่ได้คิดเองทุกเรื่องต้องอาศัยการเรียนรู้ ดูจากโทรทัศน์ดูจาก YouTube ดูจากโปรแกรมการท่องเที่ยว ในต่างประเทศ ซึ่งเมื่อกลับมาตนก็มีหน้าที่ของตน ขอให้เปิดตาให้กว้างเพราะเราจะทำแบบเดิมไม่ได้อีกแล้วในโลกที่เจริญเติบโตด้วยดิจิทัล ในการประชาสัมพันธ์การแสดงความเห็นว่าบ้านเมืองเราสวยงามแค่ไหนเพราะเรามีสถานที่ที่มีศักยภาพหลายด้าน

 

ทั้งด้านกีฬาธรรมชาติ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และอื่นๆมากมาย ขอเพียงหยิบจับให้เจอและตนก็ดีใจที่เห็นในโทรทัศน์มีการประชาสัมพันธ์โฆษณาแตกต่างกว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมามาก เทียบเคียงได้กับต่างประเทศ

 

ทั้งนี้ หลายจังหวัดมีความพร้อมและแสดงให้เห็นถึงความมีน้ำใจ รอยยิ้มของคนไทย และสิ่งสำคัญที่ดีที่สุดคือการเป็นเจ้าบ้านที่ดีของเราทำให้บ้านเมืองสงบมีเสถียรภาพมีความปลอดภัย ลดความขัดแย้ง เพราะนี่คือประเทศไทยที่จะเจริญเติบโตต่อไปในวันข้างหน้า

 

ขณะเดียวกัน อยากบอกกับทุกคนว่าเรามีอะไรที่ดีมากอยู่แล้ว หลายประเทศอาจจะดูสวยงามน่าท่องเที่ยวแต่ขาดความมีชีวิตชีวา แต่ประเทศไทยมีสถานทีท่องเที่ยวเยอะแยะมากมายและมีจิตวิญญาณความเป็นคนไทย ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราทิ้งไปไม่ได้ ขอให้ช่วยกันทำอย่างไรให้ประเทศไทมีจิตวิญญาณที่ทุกคนรัก อยากกลับมาอีก

 

สิ่งที่ต้องการนอกจากการท่องเที่ยวในเวลานี้คือต้องให้ความสำคัญกับสิ่งใหม่ๆ ที่ต้องทำไม่ว่าจะเป็นเรื่องโครงสร้างพื้นฐานการใช้ การใช้ AI ในด้านการขาย การติดต่อหลายอย่างบนโลกใช้เทคโนโลยี แต่ต้องได้ไม่ลืมพื้นฐานว่าทำอย่างไร 2 อย่างจะประกอบกันได้ในเรื่องการสร้างห่วงโซ่ให้เกิดขึ้น ให้มีรายได้ทั่วถึง

 

พร้อมทั้งระบุว่า? ตนเป็นนายกรัฐมนตรีเข้าปีที่ 8 ตนเห็นหลายอย่างเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเกิดขึ้นโดยตัวพวกเราเองหลายอย่างเกิดขึ้นจากนโยบายของรัฐบาล ซึ่งจำได้ว่าตนเคยเดินผ่านตลาดเห็นการค้าขายที่มีแผงเล็กๆมีของวางขายสินค้า อย่าง ไม้ปั่นหู , ที่ตัดเล็บ ตอนนี้ขายไม่ได้แล้ว ต้องพัฒนาว่าจะมีรูปแบบอย่างไรที่ทันสมัยน่าซื้อ น่าเข้าไปแวะดู เพราะไม่เช่นนั้นทุกคนก็เดินผ่านหมด ต้องสร้างแรงดึงดูด ให้คนแวะดูโดยการออกแบบให้มีอัตลักษณ์มีการทดลองศึกษาการตลาด จึงจะจำหน่ายได้ไม่เช่นนั้นก็จะขายแต่สินค้าเดิมๆ

 

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะเดินหน้าไปสู่อนาคตที่ดีในวันข้าง 3-4 วัน ที่ตนไปต่างประเทศมา บ้านเมืองสวยงามแต่เงียบ คนไม่ค่อยออกมาเดิน ซึ่งแน่นอนว่าเศรษฐกิจคงไม่ดีไปกว่าเราโดยเฉพาะในช่วงภาวะขาดแคลนพลังงาน แต่ยืนยันว่าของเราพลังงานไม่ขาดแคลนแต่ราคาสูงขึ้น ซึ่งต้องเข้าใจว่าสูงขึ้นเพราะอะไรรัฐบาลได้ทำอย่างเต็มที่ในเรื่องเหล่านี้? ให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุดหลายอย่างต้องปรับตัว

 

หลายอย่างต้องช่วยกันถึงจะเดินหน้าไปได้ด้วยดี พร้อมถามว่า ตนพูดหนักไปหรือไม่ ตนคิดทั้งวัน ว่าจะทำอะไรให้ประเทศไทยไม่เคยคิดอย่างอื่นเพียงแต่ขอความร่วมมือร่วมใจกับทุกคนเพื่อเดินหน้าไปสู่อนาคตของประเทศไทยไม่ว่าใครจะอยู่ใครจะเป็น ใครจะมา ใครจะไปประเทศไทยต้องอยู่ได้ ไม่ใช่ผมก็ต้องเป็นคนอื่น ก็ต้องเป็นทุกคนในนี้ที่จะชี้ชะตาว่าทุกคนจะเดินหน้าไปอย่างไร เพื่อลูกหลานที่เรารัก

 

ถ้าเราไม่รู้ว่าเราเป็นใครมาจากไหนเราจะรักประเทศไทยได้อย่างไร เกิดมาจากที่ไหนบรรพบุรุษเราเป็นใคร เราจะไม่รู้จักประเทศของเราและเราก็รักประเทศของเราไม่ได้ แต่นี่คือบ้านของเราที่เกิดของเรา ที่ทำมาหากินและที่ตายของเรา

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวในช่วงท้าย ว่า วันนี้อาจจะพูดแรงไปหน่อย เพราะอาจจะเมาเครื่องบิน ขออย่าถือว่าตนเครียดไปเลย เพราะวันนี้มีงานตั้งแต่เช้าตอบ LINE ทั้งวัน ซึ่งมันเป็นหน้าที่หากใครมาอยู่แบบผมก็ต้องทำแบบผมหากใครไม่ทำก็ใช้ไม่ได้ ตนอาจจะทำการตลาดไม่เก่ง เพราะหน้าไม่ค่อยยิ้มแต่จะพยายามยิ้มให้มากๆ เว้นแต่เจอคำถามที่หงุดหงิด เพราะความจริงแล้วตัวเป็นคนอารมณ์ดี

 

พร้อมถามถึงการตั้งเป้านักท่องเที่ยว ที่คาดว่าจะมีประมาณ 11.5 ล้านคน ซึ่งเชื่อว่าสามารถทำได้อยู่แล้วพร้อมถาม ว่าไม่ใช่ 15 ล้านหรอ ซึ่ง ตนเชื่อว่าหากบ้านเมืองสงบ ไม่มีความขัดแย้ง ก็สามารถทำได้

 

จากนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมบูธ โดยมีช่วงหนึ่งประชาชนได้เข้ามาทักทายบอกรัก และให้กำลังใจซึ่งนายกรัฐมนตรีบอกว่าอยู่ได้อีก 2 ปี ประชาชนได้ ตอบกลับว่าอยู่ได้อีก 2 ก็จะเชียร์ต่อ นายกรัฐมนตรีจึงตอบกลับว่าถ้ารักกันจริงก็อย่าทิ้งกัน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube