รัฐบาลเห็นชอบร่างแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาล่วงละเมิดทางเพศ บูรณาการทุกภาคส่วน สังคมต้องไม่เพิกเฉย
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี เห็นชอบเห็นชอบร่างแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการข่มขืนกระทำชำเราและการล่วงละเมิดทางเพศระยะ 6 ปี (พ.ศ. 2565 – 2570) ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันนำไปขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติให้บรรลุผลอย่างเป็นรูปธรรมต่อไปแผนปฏิบัติการดังกล่าว ได้ผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ เช่น เครือข่ายการทำงานสตรี องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานภาครัฐ ประกอบด้วย 3 กลยุทธ์ คือ
กลยุทธ์ที่ 1 ปรับความรู้และทัศนคติของสังคม มี 3 เป้าหมาย คือ
1)ปรับระบบความคิดที่ไม่เพิกเฉยต่อปัญหาการข่มขืนกระทำชำเรา ล่วงละเมิดทางเพศ และลดมายาคติของสังคม เช่น อบรมถ่ายทอดความรู้และเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกฎหมาย กลไกการป้องกัน และสิทธิคุ้มครองตามกฎหมาย ปรับเนื้อหาหลักสูตรโปรแกรม การสอนเพศวิถีให้เข้าใจง่ายและเหมาะสมกับผู้เรียนและประชาชนทั่วไป
2)สร้างกลไกการป้องกันที่มีคุณภาพ และเฝ้าระวังความรุนแรงทางเพศ การข่มขืนกระทำชำเราและการล่วงละเมิดทางเพศ
3)สร้างพื้นที่สาธารณะที่ปลอดภัย เช่น กำหนดมาตรฐานความปลอดภัยในพื้นที่สาธารณะ และจัดให้มีช่องทางการร้องทุกข์ แจ้งข้อมูลพื้นที่ที่ไม่ปลอดภัย/พื้นที่เสี่ยง
กลยุทธ์ที่ 2 ปรับปรุงระบบงานเพื่อสร้างความเป็นธรรม มี 2 เป้าหมาย คือ 1)ผู้เสียหายได้รับการคุ้มครองสิทธิและสวัสดิภาพ เข้าถึงบริการที่เป็นมิตรและเป็นธรรม เช่น พัฒนาระบบการให้บริการบำบัด ฟื้นฟู และเยียวยา 2)ปรับพฤติกรรมผู้กระทำความผิดและป้องกันการกระทำผิดซ้ำ เช่น จัดทำฐานข้อมูลบันทึกประวัติผู้กระทำความผิด เพิ่มมาตรการลงโทษในคดีเกี่ยวกับเพศ โดยใช้ยาเพื่อปรับฮอร์โมน
“นายกรัฐมนตรี ชื่นชมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ร่วมกันทำงานอย่างเข้มแข็ง เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนโดยรวม ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญอย่างมากในการบริหารจัดการพลังงานในประเทศให้เพียงพอ
รวมถึงการร่วมมือกันในการกันประหยัดพลังงานไฟฟ้าอย่างจริงจัง และปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรมตามเป้าหมาย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการขาดแคลนพลังงานในประเทศ ที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตของประชาชน ทั้งนี้ ขอย้ำเตือนประชาชนว่า อย่าได้กระทำการลักลอบใช้กระแสไฟฟ้า ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย มีบทลงโทษทั้งทางแพ่งและทางอาญา”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews