Home
|
เศรษฐกิจ

DITP เผยเทรนด์ขนมรสเค็มบวกหวานมาแรงในสหรัฐฯ

Featured Image
“DITP”เผย ขนมรสชาติเค็มบวกหวานมาแรงในสหรัฐฯ รสลาบ-ต้มยำของไทย มีโอกาสสูง

 

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามนโยบายในการสำรวจลู่ทางและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยในประเทศต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับรายงานจากผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ถึงเทรนด์ขนมที่กำลังมาแรงในตลาดสหรัฐฯ

 

และรสชาติยอดนิยมโดนใจชาวอเมริกันปี 2566 และลู่ทางในการผลักดันสินค้าขนมของไทยเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ พบว่าในช่วง 10 เดือนของปี 2565 ยอดขายของขนมขบเคี้ยวในสหรัฐฯ อยู่ที่ประมาณ 44,900 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 11.4 แซงยอดขายอาหารและเครื่องดื่มประเภทอื่น ๆ โดยขนมกรุบกรอบรสเค็ม เช่น มันฝรั่งทอด เพรทเซล และป๊อปคอร์นพร้อมรับประทาน มียอดขายมากที่สุด สัดส่วน ร้อยละ 59.3 รองลงมา ได้แก่ ขนมประเภทคุกกี้ สัดส่วน ร้อยละ 18.6 ขนมประเภทแครกเกอร์ สัดส่วน ร้อยละ 15.3 และขนมประเภทกราโนล่าบาร์ สัดส่วน ร้อยละ 12.9

 

ส่วนรสชาติที่น่าจะมาแรงในปี 2566 ได้แก่ รสชาติที่แสดงถึง Street Food โดยรสชาติ Street Food Mexican เช่น ข้าวโพดย่างราดด้วยมายองเนส ชีส cotija พริก มะนาว และผักชี ได้รับความนิยมอย่างมากในสหรัฐฯ ในปีที่ผ่านมา และยังพบว่ารสชาติ Street Food ที่มีความผสมผสานของมะม่วงและพริกของอินเดีย เช่น รส Chaat Masala ก็เริ่มที่จะได้รับความนิยมในสหรัฐฯ เช่นกัน

 

และจากการสำรวจของ พบว่า รสชาติขนมที่เป็นเอกลักษณ์ไทย เป็นรสชาติที่ชาวอเมริกันอยากที่จะลิ้มลองเป็นอันดับ 6 รองจากรสชาติขนมแบบเม็กซิกัน อิตาเลียน จีน ญี่ปุ่น และละติน ด้วยเหตุนี้ รสชาติของ Street Food ไทย เช่น รสลาบ และรสต้มยำ ซึ่งมีเอกลักษณ์ในด้านความเผ็ดและความแปลกใหม่ จึงน่าจะเป็นที่นิยมในสหรัฐฯ ผู้ประกอบการไทยที่ต้องการจะทำตลาดสหรัฐฯ

 

จึงควรติดตามเทรนด์สินค้าและความนิยมใหม่ ๆ ในสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด โดยอาจเริ่มจากการออกงานแสดงสินค้าเพื่อให้สินค้าของตนเป็นที่รู้จัก และเจาะตลาดสหรัฐฯ โดยงานแสดงสินค้าที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในสหรัฐฯ เช่น งาน Winter Fancy Food จัดที่ลาสเวกัส ในวันที่ 15-17 มกราคม 2566 และงาน Summer Fancy Food Show จัดที่นิวยอร์ก ในวันที่ 12-14 มิถุนายน 2566

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube