สรุปรวมตัวเลขเงินเฟ้อของไทย ปี 2565 อย่างเป็นทางการขยายตัวอยู่ที่ ร้อยละ 6.08 โดยเป็นอัตราเงินเฟ้อที่ขยายตัวสูงสุดในรอบ 24 ปี นับตั้งแต่ปี 2541 ที่อัตราเงินเฟ้อขยายตัวร้อยละ 8.1 จากวิกฤตต้มยำกุ้ง
โดยนายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า หรือ สนค. กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป หรือ อัตราเงินเฟ้อ ในช่วงเดือนธันวาคม 2565 ขยายตัวร้อยละ 5.89 เป็นไปตามราคาสินค้าในกลุ่มพลังงานและอาหารสดที่ยังคงมีราคาสูง ส่งผลทำให้อัตราเงินเฟ้อในปี 2565 ทั้งปี ขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 6.08 โดยเป็นอัตราเงินเฟ้อที่ขยายตัวสูงสุดในรอบ 24 ปี แต่ก็ยังอยู่ในกรอบที่กระทรวงพาณิชย์คาดไว้ ว่าเงินเฟ้อทั้งปี 2565 จะอยู่ที่ร้อยละ 5.5-6.5
และถึงแม้ว่าในปี 2565 อัตราเงินเฟ้อจะยังคงขยายตัวสูง แต่ในปี 2566 นี้ ทางสนค. คาดการณ์อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ร้อยละ 2.5 หรือ อยู่ในกรอบร้อยละ 2.0-3.0 โดยเป็นอัตราเงินเฟ้อที่สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจของไทย และราคาสินค้าส่วนใหญ่เชื่อว่าจะเริ่มทรงตัว บางรายการอาจปรับตัวลดลง แม้สินค้าบางรายการที่จะได้รับผลกระทบทางอ้อมจากการปรับขึ้นค่ากระแสไฟฟ้าแต่ก็ยังพอปรับตัวได้ ขณะที่ราคาพลังงานโดยเฉพาะน้ำมันดิบมีแนวโน้มชะลอตัวตามความต้องการของตลาดโลกที่ลดลงจากสถานการณ์เศรษฐกิจในหลายประเทศที่เข้าสู่ภาวะถดถอย
แต่หลังจากประเทศจีนได้มีการผ่อนคลายมาตรการการเดินทางออกนอกประเทศแล้ว และเชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ทำให้ความต้องการสูงขึ้น ทั้งในส่วนของที่พัก ร้านอาหารและบริการต่างๆ อาจส่งผลกระทบทำให้เงินเฟ้อภายในประเทศปรับเพิ่มขึ้นได้ แต่เชื่อว่าจะยังอยู่ในระดับที่ไม่สูงมากนัก กระทรวงพาณิชย์ มีมาตรการดูแล ช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชนในประเทศได้ แต่ยังคงต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ด้านนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น. ว่า หอการค้าไทย เห็นด้วยกับนโยบายด้านการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่จะใช้แนวทางอย่าง ค่อยเป็นค่อยไป โดยต้องชั่งน้ำหนักจากหลายปัจจัยทั้งเงินเฟ้อในประทศ หนี้ภาคครัวเรือน หนี้เอกชน
และยังมีหลายเรื่องที่ต้องพิจารณาให้ดี ในการปรับดอกเบี้ย เพื่อไม่ให้เป็นการเพิ่มภาระแก่ผู้ประกอบการและประชาชน ในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว และทำให้อัตราเงินเฟ้อในประเทศพุ่งสูงขึ้นได้อีก
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews