“ชลน่าน” ทำหนังสือประท้วงประธานสภา รัฐบาลยื้อเวลาอภิปรายทั่วไป รับกังวลยุบสภาหนีการอภิปราย รอลุ้น หลัง 6 กพ. ป้อง “อุ๊งอิ๊ง” พูดในหลักการ ไม่ได้บอกจะจับมือกับใคร
นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 ว่า การที่รัฐบาลตอบกลับ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรว่ารัฐบาลมีความพร้อม ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป มองว่า เป็นเวลาที่เนิ่นนานเกินไป จึงได้ทำหนังสือทักท้วงไปยังประธานสภาฯ และประธานสภาฯ เห็นพ้องกับฝ่ายค้าน เพราะปกติการยื่นญัตติจะอภิปรายภายใน 1 เดือน
ส่วนกรอบการอภิปราย จะสอบถามข้อเท็จจริง เสนอแนะครอบคลุมทุกประเด็นในสังคม เช่น ยาเสพติด ทุนจีนสีเทา การแต่งตั้งโยกย้ายราชการ โดยเนื้อหาสาระ และกรอบเวลา นายสุทิน คลังแสง ประธานวิป ฝ่ายค้าน จะเป็นผู้ดูแลเรื่องนี้ ทั้งนี้ ฝ่ายค้านต้องการกรอบเวลาในการอภิปรายไม่น้อยกว่า 22 ชั่วโมง ซึ่งจะต้องมีการหารือกันอีกครั้ง เพื่อให้ได้ตามกรอบเวลาที่กำหนด
ขณะเดียวกัน นายแพทย์ชลน่าน ยังย้ำว่า พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับการอภิปรายครั้งนี้ เพราะถือเป็นครั้งสุดท้าย แม้จะไม่มีการลงมติในสภา แต่ประชาชนจะตัดสินใจในการเลือกตั้ง ดังนั้น ผู้อภิปรายจะถูกคัดเลือก และมอบหมายจากพรรค เพราะพรรคมั่นใจว่าจะสามารถนำเสนอประเด็นที่เป็นประโยชน์ได้
นอกจากนี้ นายแพทย์ชลน่าน ยอมรับว่า กังวลรัฐบาลจะยุบสภาหนีการอภิปราย เห็นได้จากการตอบกลับความพร้อมที่เนิ่นนานเกินไป ซึ่งผิดปกติว่าจะหนีการอภิปรายหรือไม่ ประกอบกับกระแสข่าวว่ารัฐบาลจะยุบสภาก่อนวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ดังนั้น การตอบว่าพร้อมหลังวันที่ 15 กุมภาพันธ์ คือ การหลีกเลี่ยงหรือหนีการอภิปรายหรือไม่ จึงอยากฝากไปถึงผู้มีอำนาจ ถ้าหนีสภาให้คิดดีๆ เพราะประชาชนจะพิพากษาในสนามเลือกตั้ง ควรใช้โอกาสในสภาตอบชี้แจง ที่อาจจะได้ใจประชาชนบ้าง
ส่วนช่วงเวลาที่คาดว่า รัฐบาลจะยุบสภานั้น นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ต้องติดตาม โดยเฉพาะหลังวันที่ 6 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป ที่จะเป็นการย้ายสังกัดพรรควันสุดท้าย ถ้า ส.ส. ที่เคยประกาศตัวชัดเจนยังไม่ย้ายพรรคไปไหน แสดงว่ามีโอกาสที่จะยุบสภาได้ ซึ่งได้ข่าวมาว่า มีการดูฤกษ์งามยามดีในการยุบสภา เพื่อให้ได้กลับมามีโอกาสสืบทอดอำนาจ คือ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ , 24 กุมภาพันธ์ และ 7 มีนาคม 2566
พร้อมมองว่า หากตรงไปตามข่าวยุบสภาก่อนวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ก็คือวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันแห่งความรัก และต่อให้ถือฤกษ์ยาม แต่ฤกษ์งามยามดีของประชาชน ก็คือ วันเข้าคูหากาบัตรเลือกตั้ง ซึ่งถือเป็นวันพิพากษา
สำหรับกรณีที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ระบุในลักษณะไม่ได้ปิดโอกาสจับมือกับพรรคพลังประชารัฐในการจัดตั้งรัฐบาลนั้น นายแพทยชลน่าน ย้ำว่า นางสาวแพทองธาร ไม่ได้พูดออกมาว่าจะจับมือกับใคร แต่พูดในหลักการเท่านั้นแหละ
ซึ่งส่วนตัวได้ย้ำมาตลอดว่า การประกาศจับมือหลังเลือกตั้งก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง ถือเป็นมารยาทที่ไม่ดีทางการเมือง ไม่เคารพอำนาจประชาชน เพราะยังไม่รู้เลยว่าประชาชนจะมอบอำนาจให้ใคร ถ้าถึงเวลาที่ชัดเจนว่าประชาชนให้อำนาจกับพรรคเพื่อไทยเกิน 250 เสียง การตั้งรัฐบาลจะมีโอกาสเลือกพรรคการเมืองมาร่วมงานได้ ซึ่งการจะจับมือกับใคร พรรคจะดูเสียงที่ประชาชนมอบให้เป็นหลัก และก่อนจะจับมือกับพรรคใดนั้น จะไปถามประชาชนอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามย้ำว่า พรรคเพื่อไทย และพรรคพลังประชารัฐ ขณะนี้ถือว่ามีอุดมการณ์เดียวกันหรือไม่ นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ต้องไปถามพรรคพลังประชารัฐ ว่า มีอุดมการณ์เดียวกันหรือไม่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews