ไมค์ ไทสัน (Mike Tyson) อดีตนักมวยชาวอเมริกัน แชมป์โลกเฮฟวี่เวท 3 สถาบันคนแรกของโลก ชีวิตที่ผ่านอะไรมากมายของไมค์ ไทสันนั้น ได้มอบบทเรียนให้กับผู้ประกอบการหรือคนวัยทำงานแบบเราได้อย่างดี
เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ไมค์ ไทสัน ในวัย 54 ปี ได้ก้าวสู่สังเวียนเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี เพื่อชกกับ รอย โจนส์ จูเนียร์ (Roy Jones, Jr.) การชกรอบนี้คาดว่าสร้างรายได้นับล้านเพราะทั่วโลกการรอชมการกลับมาของตำนานอย่างไมค์ ไทสัน และจากการชกนี้เองทำให้เรานึกถึงชีวิตที่ยากพอๆกับการชกบนเวทีของเขา และนำมาสู่บทเรียนที่มาใช้ในชีวิตการทำงาน
1.ทุกคนมีแผน จนโดนชกเข้าที่หน้า
“Everyone has a plan until they get punched in the face” หนึ่งในวลีฮิตของ ไมค์ ไทสัน ในการชกล่าสุดที่ผ่านมาทุกคนนึกภาพว่า หมัด ของ ไมค์จะส่งตรงเข้าหน้าของ รอย โจนส์ จูเนียร์ ราวกับว่ามันจะทะลุกะโหลกของ รอยไปเลย เขาคงต่อสู่อย่างดุเดือด กลยุทธ์ที่ดีที่สุดหากต้องการรอดชีวิตคงเป็นการรัวหมัดรุมจนไทสัน ไม่สามารถใช้หมัดของเขาได้ และนั้นเป็นสิ่งที่โจนส์ ถนัดและใช้มันเสมอมา
แต่เมื่อการต่อสู่เริ่มขึ้น ไมค์ ได้เริ่มชกด้วยระยะประชิดสลับการกอด เป็นสิ่งที่แฟนมวยไม่เคยเห็น และตัวโจนส์เองก็คงไม่คาดคิดเช่นกัน นั้นคือสิ่งที่ ไมค์ ไทสันได้เรียนรู้และปรับตัวจากระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา มีคำกล่าวว่า The old dog had indeed learned new tricks.
การปรับตัวเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าคุณอยากจะอยู่รอดในตลาดหรือการทำงาน การทำสิ่งเดิมๆแต่อยากได้ผลใหม่ นั้นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เช่นสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบันเราคงจะใช้กลยุทธ์การตลาดเมื่อปีก่อนๆไม่ได้แล้ว เราจะต้องเรียนรู้และปรับตัวตลอดเวลา มองหาจุดที่จะพัฒนาตัวเรา บริษัทให้อยู่รอดได้
2.ชัดเจนว่าคุณกำลังสู้กับใครและทำไม
“I haven’t done this in fifteen years,I’m not a giant, I’m a beginner.”
“ผมไม่ได้ชกมาสิบห้าปีแล้ว ผมไม่ใช่ยักษ์ ผมเป็นมือใหม่”
ไมค์ ไทสันให้สัมภาษณ์อย่างจริงจังหลังการชกจบลง
“ก่อนหน้านี้ทุกอย่างทั้งรถหรู เครื่องบิน เรือ นั้นเป็นสิ่งที่อยู่รอบตัวผม แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว ผมอยากจะหาเส้นทางอื่น”
ในช่วงจุดสูงสุดของชีวิตไมค์นั้นเขามีทุกอย่าง และทุกอย่างก็พังลงเมื่อเข้าพ่ายแพ้ให้กับ McBride ตอนนั้นเองเขาได้ภรรยาของเขา Lakiha Spicer ที่ช่วยให้ตัวตนเขากลับมา และในครั้งนี้เขาไม่ได้สู้เพื่อตัวเอง เขาสู้เพื่อระดมทุนหลายล้านเพื่อการกุศล เป็นเส้นทางที่เขาต้องการ เส้นทางที่สู้เพื่อคนอื่น
ผู้ประกอบการและธุรกิจส่วนใหญ่เริ่มต้นด้วยการมุ่งเน้นไปที่การสร้างรายได้ การสร้างบริษัทให้เติบโต และเมื่อถึงจุดหนึ่งทุกคนต้องเลือกว่าจะสร้างการเปลี่ยนแปลงหรือต้องการทำเงินให้มากขึ้น
หากเราเลือกที่จะทำงานให้มากขึ้น เราอาจจะต้องอยู่กับการมองหายอดเงินในแบบไม่จบไม่สิ้น หากเราเลือกสร้างความแตกต่าง อาจจะทำให้เราจดจำได้ว่า เราทำธุรกิจเพื่ออะไร เราจะมีความชัดเจนว่าใครคือคู่ต่อสู้ของเรา แล้วเราสู้ไปทำไม
3.สบายใจที่จะทำสิ่งที่ไม่สบายใจ
ทำไม ไมค์ ไทสัน ถึงตัดสินใจกลับมาชกอีกครั้ง ทั้งๆที่ในสังเวียนนี้ไม่มีอะไรให้พิสูจน์อีกแล้ว
“Because it’s what I fear the most.” เพราะนั้นคือสิ่งที่ผมกลัวมากที่สุด ไมค์กล่าวถึงการกลับขึ้นสังเวียนครั้งนี้
การต่อสู้ที่สำคัญที่สุดก็คือการต่อสู้กับตัวเอง หลายปีที่เขากลัวอย่างฝั่งลึก เขากลัวที่จะใส่ถุงมือ ใส่นวมมาออกกำลังอีกครั้ง เขารู้ตัวว่าอีโก้ ทั้งหลายจะกลับมาอีกครั้ง ในการสู้ครั้งนี้เขามุ่งไปที่การต่อสู้ด้วยความอดทนมากกว่าที่จะพยายามล้มคู่ต่อสู้ให้น็อคแบบที่เขาเคยเป็น
ชีวิตการทำงานหรือธุรกิจนั้นล้มเหลวทันทีเมื่อคุณอยู่ในคอมฟอร์ทโซนนานเกินไป ช่วงเวลาตัดสินใจที่สำคัญจะมาถึงไม่ช้าก็เร็ว สำคัญที่สุดคือการเผชิญหน้ากับความกลัว เรียนรู้ที่จะสู้และประสบความสำเร็จไปกับมัน
4.ต่อยไปเรื่อยๆ
ไมค์ ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ทุกครั้งที่ต้องขึ้นชกเขากลัวเจ็บเสมอ หลายคนคิดว่าคนอย่างไมค์นั้นไม่เกรงกลัวอะไร คิดว่าไมค์สามารถเดินชกคู่ต่อสู้อย่างไร้ความกลัว แต่ความเป็นจริงนั้นไม่ใช่เลย เมื่อสิบห้าปีที่แล้วไมค์เลือกที่จะยอมแพ้ ไม่ยอมขึ้นชกบนสังเวียน แต่ชีวิตจริงนั้นไมค์ไม่สามารถหยุดต่อยได้ เราต้องก้าวต่อไป ผู้ประกอบหลายคนเหมือนกับกลาดิเอเตอร์ที่ลงสนามรบและแบกความเสี่ยงทั้งหมดโดยไม่มีแผนสำรอง เราไม่มีทางเลือกนอกจากทำให้มันสำเร็จ แต่หากมันไม่สำเร็จขึ้นมา เราก็ต้องล้มเหลวไปในทันที หากคุณต้องการประสบความสำเร็จ ความล้มเหลวหรือการเลิกต่อสิ่งที่ทำนั้นไม่ใช่ทางเลือกที่ดี จงสู้ต่อไป
ไม่ว่าปีนี้ เศรษฐกิจหรือโรคระบาดจะเหวี่ยงหมัดใส่เราแรงแค่ไหน ไม่สำคัญว่าเราจะล้มหรือแพ้กี่ครั้งคำถามสำคัญคือเราจะยอมแพ้หรือไม่ หรือจะลุกขึ้นมาชกกับความกลัวอีกครั้งเหมือนไมค์ ไทสัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
entrepreneur