ส.ส.พรรคก้าวไกล มั่นใจหลักฐานซักฟอก 15-16 กพ. ขอรัฐบาลร่วมเป็นองค์ประชุม พร้อมท้าหากมั่นใจมาเจอกันที่เวทีสภา เชื่อการตอบคำถามจะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย
นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ว่า ขณะนี้เตรียมได้ข้อมูลเอาไว้ระดับเดียวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พร้อมกับเตรียมขุนพลไว้จำนวนมาก และทราบมาว่า ผู้อภิปรายบางคนมีพยานหลักฐานจำนวนมาก ไม่สามารถอภิปรายคนเดียวได้ จึงแบ่งปันข้อมูลให้คนอื่น โดยเชื่อว่า การอภิปรายครั้งนี้จะเป็นครั้งที่ดีที่สุด แม้ว่าจะไม่ได้มีการลงมติ แต่หลังจากนั้นประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน
ส่วนจะมีผู้ใดอภิปรายนั้น นายรังสิมันต์ โรม กล่าวว่า จะมีการพูดคุยกันในวันจันทร์หน้าอีกครั้ง ( 13 ก.พ. ) อีกทั้งขัอมูลหลักฐานบางอย่างก็จะได้มาในวันดังกล่าวด้วย พร้อมเปิดเผยว่า เรื่องตำรวจเป็นอีก 1 เรื่อง ที่พรรคก้าวไกลและพรรคฝ่ายค้านอื่นจะอภิปรายแน่นอน เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องการตรวจสอบ และนายกรัฐมนตรีจะโดนเต็ม ในฐานะผู้บังคับบัญชาตำรวจ และอาจจะกระทบชิ่งไปที่รัฐมนตรีอื่นด้วย
ขณะเดียวกัน ยอมรับว่า บางเรื่องหากหลักฐานไม่เพียงพอ ก็ต้องเก็บไว้ก่อน แต่มั่นใจว่า การอภิปรายทั่วไปในช่วงวันที่ 15 – 16 กุมภาพันธ์ เป็นเวลาที่เป็นใจกับฝ่ายค้าน และไม่มีข้อมูลซ้ำแน่นอน ทั้งนี้ ได้พูดคุยกับนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย โดยขอให้ร่วมเป็นองค์ประชุมให้ฝ่ายค้านเพื่อทำหน้าที่อภิปรายได้อย่างเต็มที่เป็นครั้งสุดท้าย ไม่ต้องกลัวซ้ำซาก แต่ส่วนตัวเป็นห่วงจะมีการตีรวนใช้เทคนิคไม่ร่วมเป็นองค์ประชุม หรือขอนับองค์ประชุมเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อยากได้จากรัฐบาลคือการชี้แจงและอยากให้ประชาชนได้เห็นว่า ฝ่ายค้านซักฟอกอะไรรัฐบาลก็พร้อมเผชิญหน้าและตอบคำถาม เพราะทั้งหมดจะเป็นประโยชน์และข้อมูลให้ประชาชน ดังนั้น หากรัฐบาลมั่นใจในตัวเองก็ขอให้มาเจอกันที่เวทีสภาเพื่อฟังการอภิปราย โดยเชื่อว่า ประชาชนจะมั่นใจและเชื่อใจหากรัฐบาลมีความกล้า ซึ่งเป็นสิทธิที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีต้องตอบ
นอกจากนี้ยังกล่าวถึงกรณีการนับรวมต่างด้าวมาคำนวณการแบ่งเขตเลือกตั้งว่า ขอถามว่าคนต่างด้าวมีสิทธิเลือกตั้งหรือไม่ ถ้าคนต่างด้าวไม่มีสิทธิเลือกตั้ง ก็ไม่ควรรวมเข้ามา เพราะถ้ารวมเข้ามา แต่ในทางปฏิบัติคนมาใช้สิทธิเลือกตั้งไม่มากก็จะเป็นปัญหา เชื่อว่าเจตนารมณ์การแบ่งเขตเลือกตั้ง
ควรจะดูจากประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้ง ดังนั้นการที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ใช้สูตรพิสดาร นับรวมคนต่างด้าวเข้ามา จึงไม่น่าจะสมเหตุสมผล เหมือนที่ประชาชนวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องนี้เป็นอำนาจของ กกต. กฎหมายมีความชัดเจนและมีหลักอยู่แล้วว่าคนเลือก กับการแบ่งเขตควรจะสอดคล้องกันถ้าไปคิดเอาคนต่างด้าวมารวมที่ไม่มีสิทธิเลือกตั้งมารวม เป็นเรื่องที่อธิบายไม่ได้ โดย กกต. ควรจะเข้าใจในหลักการนี้ด้วย
อย่างไรตาม นายรังสิมันต์ ต้องการให้มีการเลือกตั้งให้เร็วที่สุด ไม่อยากให้มีการขัดขวาง และพยายามที่จะทำให้สังคมได้เห็นว่า องค์กรที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งเป็นอย่างไร แต่ก็กังวลว่าจะมีผู้ร้องเรียนไปยื่นศาลแล้วสุดท้ายอาจจะสร้างเป็นเงื่อนไขที่ทำให้สังคมไทยเดินหน้าไม่ได้ ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้วเรื่องการเลือกตั้งไม่ควรมีอะไรมาขัดขวางได้ พร้อมยอมรับว่ามีความกังวล แต่เชื่อว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น เพราะพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็หาเสียงอย่างเต็มที่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews