“ไทยศรีวิไลย์”  บุกนราธิวาส ประกาศความพร้อม

“ไทยศรีวิไลย์”  บุกนราธิวาส ประกาศความพร้อมส่งว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ครบทั้ง 5 เขต  ‘ภคอร’ ขอบคุณชาวบ้าน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ให้การต้อนรับและเปิดโอกาสให้เสนอนโยบาย

 

 

 

หวังชาวบ้านหนุนไปจนถึงวันเลือกตั้ง ย้ำทุกนโยบายทำได้จริงและไม่สร้างความเสียหายให้กับประเทศ – พร้อมชูยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หันมาส่งเสริมให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมด้วย นางสาวภคอร จันทรคณา-พลโท อัศวิน รัชฎานนท์-นายวิวัฒน์ เจริญพาณิชย์ศิริ รองหัวหน้าพรรค นายศยุน ชัยปัญญา เลขาธิการพรรคฯ นายสรกฤช จันทรคณา โฆษกพรรค,นายรุ่งโรจน์ อิบรอฮีม รองเลขาธิการพรรค, นางสาว อรศศิพัชร์ มามีเกตุรัตน์ โฆษกประจำตัว ส.ส.มงคลกิตติ์ฯ,นางสาวณัฐปภัสร์ วรธันย์ผาสุข รองโฆษกพรรค ,นางสาวกนิษฐรินทร์ พัชรภักดีโชติ รองโฆษกพรรคฯ นางสาวกฤษยากร สรชัย ผู้ช่วยเหรัญญิกพรรค,นายอนุรักษ์ อมรเมตตาจิตต์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรค,นายอดิศร สังข์จันทร์ กรรมการบริหารพรรค,

 

 

 

 

นายณฐภัทรพล เอียดขาว ผู้ประสานงาน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ร่วม ลงพื้นที่ จ.นราธิวาส โดยนายมงคลกิตติ์ และคณะ ได้ลงพื้นที่ จ.นราธิวาส โดยเริ่มต้นการลงพื้นที่ที่ตลาดตันหยงมัส อ. ระแงะ จ. นราธิวาส เพื่อพบปะ พ่อค้าแม่ค้า ประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของในตลาด ซึ่งนายมงคลกิตติ์และคณะ ได้แต่งตัวตามแบบอย่างของชาวมุสลิมคือผู้ชายจะใส่หมวกกัปปิเยาะห์ และผู้หญิงจะใส่ฮิญาบ ซึ่งได้รับได้รับการต้อนรับจากประชาชนเป็นอย่างดี โดยชื่นชมว่า นายมงคลกิตติ์และคณะ ได้เดินทางมาขอคะแนนเสียงจากพี่น้องประชาชนด้วยตนเอง

 

 

 

 

ต่อมา ได้ลงพื้นที่ ม.8 ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ เพื่อดำเนินการตั้งตัวแทนพรรคไทยศรีวิไลย์ ประจำจังหวัดนราธิวาส โดยที่ประชุมได้คัดเลือก นางสาว อาตีกะห์ เปาะมะ เป็นตัวแทนพรรคฯ จากนั้น ได้ตั้งเวทีปราศรัยที่ ริมเขื่อน มาร์เก็ต ภายในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส เพื่อแนะนำโยบายแลว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. นราธิวาสทั้ง 5 เขต คือ นาย หามะ ดอแม จ. นราธิวาส เขต. 1 นายมะตอเฮ เจ๊ะโด จ.นราธิวาส เขต 2 นายอับดุลวาเฮะ แวเงาะ จ. นราธิวาส เขต 3 นายสะกรี เจ๊ะอาแซ จ.นราธิวาส เขต. 4 นาย มาหามะ ยาแม จ.นราธิวาส เขต. 5 และนายมูหัมหมัดกอเซ็ง สมารา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยมีประชาชนร่วมรับฟังการปราศรัยกว่า 2,000 คน

 

 

 

นางสาวภคอร กล่าวว่า ตลอดการลงพื้นจังหวัด 3 ชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่การลงพื้นที่ จ.ยะลา จ.ปัตตานี มาจนถึง จ.นราธิวาส ในวันนี้ ต้องขอบคุณประชาชนทุกคนที่ให้การตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะชาวมุสลิมในพื้นที่ที่มีความน่ารักและได้เปิดโอกาสให้พรรคไทยศรีวิไลย์ ได้ชี้แจงถึงนโยบายที่สำคัญเพื่อให้ชาวบ้านพิจารณา เช่น การยกเลิกพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ที่ยังคงบังคับใช้อยู่ในพื้นที่ โดยขอให้ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง อยู่ในระดับปกติ เพราะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนและการท่องเที่ยว ซึ่งในพื้นที่ จ.นราธิวาส

 

 

เองก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เช่น วัดเขากงมงคลมิ่งมิตรประดิษฐาราม ที่ประดิษฐานพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่สำคัญของชาวภาคใต้และคนไทยทั่วประเทศ ศาลเจ้าโก้วเล่งจี่ หาดนราทัศน์ น้ำตกปาโจ ด่านชายแดนสุไหงโก-ลก เป็นต้น

 

 

 

ซึ่งพรรคไทยศรีวิไลย์จะได้เสนอมาตรการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทันที ภายหลังจากที่มีสภาและรัฐบาลใหม่ ต่อมา นโยบายการสนับสนุนให้ชาวมุสลิม เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ณ ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยจะมีการอุดหนุนรายละ 200,000 บาท โดยจะให้สิทธิ์แก่ผู้ที่ไม่เคยไปและไปได้เพียงครั้งเดียว เพื่อให้เกิดการกระจายโอกาสอย่างเท่าเทียมกัน รวมทั้ง การดึงศักยภาพของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

 

 

โดยการส่งเสริมให้เกิดการเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ เหมือนกับที่มีโครงการในจังหวัดชายฝั่งทะเลตะวันออก และจังหวัดชายแดนตะวันตก เนื่องจากมีทำเลการพัฒนาที่เหมาะสม โดยหากมีการดำเนินการอย่างจริงจังแล้ว จะทำให้เหตุความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ลดลงจนไม่มีใครคิดทำแบบนั้นอีกด้วย

 

 

“ดิฉัน ต้องขอขอบคุณประชาชน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ให้พรรคศรีวิไลย์ได้มีโอกาสเสนอนโยบายดีๆ ที่สามารถทำได้จริงและไม่ต้องห่วงว่า ทำแล้วจะสร้างความเสียหายให้กับประเทศ เพราะเริ่มมีหลายพรรคพยายามดักคอพวกเราว่า ยังไงก็ทำไม่ได้ เช่น การอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ 1.5 แสนบาท ทุกครัวเรือน โดยมีการมองว่า เป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ แต่เราเชื่อว่า หากได้เงินจำนวนดังกล่าว ประชาชนก็จะสามารถปลดเปลื้องหนี้สินเป็นไทให้กับตัวเองได้เลย โดยเฉพาะหนี้ที่หน่วยงานรัฐเป็นเจ้าของ

 

 

ซึ่งเป็นการ ‘วิน – วิน’ ที่ได้ผลทางเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง ประชาชนก็จะเป็นไท หน่วยงานรัฐก็จะได้รับการชำระหนี้ และหนี้ทั้งหมดก็จะคืนกลับไปยังรัฐบาล ซึ่งเชื่อว่า ไม่ได้เป็นการทำลายระบบการเงินการคลัง ต่อมา ลดเก็บภาษีค่าน้ำมันเบนซีน-ดีเซล ทำให้ราคาน้ำมันทั้ง 2 ชนิดไม่เกิน 25 บาท/ลิตร ก๊าซหุงต้ม 15 กก. ไม่เกิน 250 บาท ซึ่งตนเห็นว่า ถ้าเรากล้าหักกับคนบางกลุ่มที่ยังอำมหิต โดยการทำนาบนหลังคน 66 ล้าน เพื่อประโยชน์ของคนไทยส่วนรวมแล้ว ก็ควรทำ ซึ่งเชื่อว่า หากลดการเก็บภาษีพลังงาน 2 ตัวหลักแล้ว

 

 

จะทำให้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกลับมาเป็นซองละ 5 บาท ปลากระป๋องกระป๋องละ 15 บาท กาแฟกระป๋องกระป๋องละ 10 บาท และค่าอาหารตามสั่งพวกกระเพราไก่ไข่ดาว จะมีราคาจานละ 25 – 30 บาท ถือว่า เป็นการทำบุญอย่างทั่วถึง เพราะคนที่อำมหิตกับคนไทยในตอนนี้ ก็ได้รับอานิสงส์ไปด้วย และการนำเงินที่เกี่ยวพันกับธุรกิจผิดกฎหมาย มาแปลงเป็นเงินสวัสดิการต่างๆ โดยเฉพาะที่โดนใจมากที่สุด ก็คือ เงินผดุงเกียรติทหารผ่านศึก เพราะเราเป็นพรรคการเมืองเดียวที่ลงมือทำตั้งแต่การรับเรื่องร้องเรียนจากพี่ๆ ทหารผ่านศึก และได้มีการเสนอ ร่างพ.ร.บ.

 

 

เป็นเรื่องเป็นราว และถือเป็นเงื่อนไขแบบเด็ดขาดว่า หากไม่นำเรื่องนี้ไปบรรจุเป็นนโยบายรัฐบาล ก็ไม่ต้องเชิญพรรคไทยศรีวิไลย์ไปร่วมด้วย และยังได้เสนอสมาชิกพรรคที่ส่วนใหญ่เป็นลูกหลานของคนในพื้นที่ เพื่อขอคะแนนเสียงทั้ง ส.ส.เขตและบัญชีรายชื่อ โดยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทางพรรคฯ ก็ได้ส่งผู้สมัครถึง 15 คน คือ แบ่งเขต 12 คน บัญชีรายชื่อ 3 คน ซึ่งพวกเราขอความกรุณาจากชาวบ้าน 3 จังหวัดชายภาคใต้ ได้โปรดสนับสนุนพรรคไทยศรีวิไลย์ต่อเนื่องจนถึงวันเลือกตั้ง ตามสโลแกนที่ว่า ‘ขอครัวเรือนละ 1 คะแนน เราจะทำแทนท่านเอง’ ’’ นางสาวภคอรกล่าว

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews