นายก (ลุงตู่) ในดวงใจ
น่าติดตามเป็นอย่างยิ่งกับการลงพื้นที่หาเสียงของเหล่าบรรดาพรรคการเมืองเพื่อช่วงชิงคะแนนนิยมก่อนที่จะถึงวันเลือกตั้ง
และแน่นอนว่า “นโยบายเศรษฐกิจ” มักจะถูกหยิบยกขึ้นเป็นประเด็นใหญ่ในการล่าแต้มของเหล่าบรรดาแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะกำชัยชนะ ก้าวสู่ผู้บริหารประเทศจัดตั้งรัฐบาล
ทั้งนี้ พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นหนึ่งในพรรคน้องใหม่ที่ถูกจับตาเป็นพิเศษ นั่นเพราะพรรคนี้มี “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ขณะที่คะแนนนิยมของพรรคก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แบบชนิดที่เรียกว่าโตก้าวกระโดด สะท้อนจากผลสำรวจของซูเปอร์โพลล่าสุด ที่ชี้ชัดว่าถ้าเลือกตั้งวันนี้ ประชาชนจะเลือก “รวมไทยสร้างชาติ” มากขึ้น
แต่ก่อนที่จะถึงการเลือกตั้งใหญ่ในช่วงเดือนพฤษภาคม ที่เราจะได้รู้กันว่า ใครจะได้มาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 สำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.พาไปพุดคุยกับหนึ่งในภาคเอกชนถึงบุคคลิกหน้าตานายกรัฐมนตรีในฝันที่อยากได้เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
โดยประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย “นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง” บอกกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า อยากได้บุคคลที่เข้าใจทั้งเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยอย่างถ่องแท้ และเป็นผู้ที่ต้องการช่วยเหลือประเทศชาติจริงๆ แต่ที่ผ่านมา มองว่า ทุกรัฐบาลกว่า 80-90% พายเรือให้โจรนั่ง และเข้ามาเพื่อกอบโกยผลประโยชน์
“ก็คือแบบที่เข้าใจแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างถ่องแท้ แล้วก็เข้าใจถึงสภาวะเศรษฐกิจของโลก การส่งออกไม่ค่อยดี พอไม่ดีปั๊ปการขนส่งพวกตู้คอนเทนเนอร์ต่างๆ ที่จะโหลดไปลงเรือก็น้อยลง อันนี้คือประการที่ 1 แต่นายกฯที่จะเข้ามา ต้องเข้ามาช่อยเหลือประเทศจริงๆ สิ่งที่ผมมองมาทุกรัฐบาล 80-90% ก็เปรียบเสมือนนายกฯมาพายเรือให้กับเหมือนกับโจร มาในเรือด้วย และก็กอบโกยผลประโยชน์กันอย่างอิ่มหนำสำราญ”
และเมื่อถาม “นายอภิชาติ” ว่า วันนี้คนเก่งพร้อมที่จะมาเป็นนักการเมืองเพื่อร่วมแก้ปัญหาชาติหรือไม่ คำตอบที่ได้ น่าสนใจ
“ผมคิดว่าคนเก่งในเมื่อไทยยังเยอะ เพียงแต่ว่าเขาไม่กล้ามาลงเล่นการเมืองเท่านั้นเอง เพราะว่าการเมืองมีปัจจัยหลายรูปแบบ ถ้าสมมติว่า เกิดไปทำอะไร หรือไปแก้ไขอะไร ที่ไม่ถูกใจ กับระดับนายทุนใหญ่ๆ หรือไปขัดผลประโยชน์อะไรเขา มันก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน คนที่เก่งก็ยังไม่ลงมา แต่ถามว่ายังเป็นวังวนเดิมอะไรต่างๆ ก็คิดว่า อยากจะฝากไว้ ใครมาก็ให้ดูเศรษฐกิจของเมืองไทยด้วย พลังงานเป็นปัจจัยสำคัญ แล้วก็เรื่องขึ้นราคาค่าไฟฟ้าก็ต้องมองด้วย ผมคิดว่าคนที่จะมาอาสามาเป็นหัวหน้ารัฐบาล ท่านจะต้องศึกษาให้ถ่องแท้ แล้วแก้ปัญหาให้ถูกจุด ภายในปี สองปี รับรองผมคิดว่า ทุกคนก็อยากจะมีนายกฯอย่างนี้ ที่ทุกคนคิดแบบเดียวกับผม”
และนี่ก็เป็นหนึ่งในเสียงสะท้อนของภาคเอกชนต่อบุคคลิกหน้าตานายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่อยากได้ ซึ่งจากนี้ต่อไปจะต้องติดตามเกมการเมืองอย่างใกล้ชิด เพราะเชื่อแน่ยิ่งใกล้วันเลือกตั้งมากขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งน่าจับตาแผนการขับเคลื่อนมากขึ้นเท่านั้น นั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews