“อาคม” ชี้ หนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้น เหตุเยียวยาปชช.ช่วงโควิด
“อาคม” ชี้ หนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้น เหตุเยียวยาประชาชนช่วงโควิด ย้ำครึ่งหนึ่ง มีมาตั้งแต่โบราณ โต้ฝ่ายค้านอัตราการเติบโตเศรษฐกิจไม่ต่ำสุดในอาเซียน
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงต่อ ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ถึงอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ และเสถียรภาพทางเศรษฐกิจว่า ในช่วงโควิด-19 มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินงบประมาณ แต่ไม่สามารถดึงจากงบประมาณปกติได้ ส่วนการแบ่งเงินที่นำมาใช้ มีเพียงแหล่งเดียว คือ การกู้เงิน โดยได้ออก พ.ร.ก.มาแก้ไข เป็นเงิน 1.5 ล้านล้านบาท ทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นมากกว่าภาวะปกติ เพราะต้องเร่งนำมาช่วยเหลือเยียวยาประชาชน
นอกจากนี้ ยังมี พ.ร.ก.ที่เกี่ยวกับซอฟต์โลน ไปช่วยเรื่อง SME ที่ให้ดอกเบี้ยต่ำกับประชาชน ย้ำว่าในช่วงโควิดจำเป็นต้องพยุงอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ เพราะเป็นบทบาทหน้าที่ในภาวะที่ไม่ปกติ ซึ่งนโยบายการคลังและการเงินจะต้องประสานกัน ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา นโยบายการเงินผ่อนคลาย ให้บทบาทภาครัฐใช้งบประมาณแผ่นดินแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ แต่เมื่อสถานการณ์โควิดคลี่คลายก่อน นโยบายบายก็ต้องเข้าสู่สภาวะปกติ
ดังนั้น ช่วงไตรมาส 3-4 ของปีที่แล้ว จะเริ่มเห็นนโยบายการใช้เงินมากขึ้น เพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ ในเรื่องสถานการณ์เศรษฐกิจที่ถูกกล่าวหาว่า เติบโตช้าที่สุดในอาเซียน ยืนยันไม่ได้ต่ำกว่าทุกประเทศ สิงคโปร์ก็ยังต่ำกว่าประเทศไทย มองว่า ปัญหาเงินเฟ้อ และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจมาจากปัจจัยการสู้รบรัสเซีย-ยูเครน
ทั้งนี้ นโยบายการเงินก็เริ่มทำงาน ต้องดูเสถียรภาพของค่าเงิน การใช้อัตราดอกเบี้ยในการเป็นเครื่องมือ อย่างที่เรียนว่า ปีที่แล้วเกือบทุกประเทศประสบปัญหาเงินเฟ้อ
อย่างไรก็ตาม เรื่องการช่วยเหลือของนโยบายการเงินดูแล คงจะต้องดูแลปัจจัยอื่นไปด้วย เช่น การใช้จ่าย ในช่วงดอกเบี้ยมีอัตราขึ้นจะต้องดูว่าเป็นภาระกับใครบ้าง แน่นอนว่ากระทบภาคธุรกิจและรัฐบาล ย้ำว่าหนี้สาธารณะครึ่งหนึ่ง เป็นหนี้สาธารณะที่สะสมมาตั้งแต่โบราณแล้ว ตนอยากชี้แจงว่า การก่อหนี้สาธารณะ 70% เป็นไปเพราะเรื่องการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค มีบางส่วนต้องไปชำระหนี้เมื่อปี 2540
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews