บรรยากาศการเมืองกำลังร้อนแรง หลายๆ พรรคต่างมุ่งเป้าลงพื้นที่พบประชาชน เพื่อแนะนำตัวก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในเร็วๆนี้ ด้าน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ได้ชูสโลแกนใหม่ 3 ทำ
ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีเรื่องของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เยียวยาคนรากหญ้า ด้านพี่ใหญ่อย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็ชูนโยบายบัตรประชารัฐ เดือนละ 700 บาท ดังนั้นงบแผ่นดิน ณ วันนี้สามารถที่มาสานฝันนโยบายเหล่านี้ได้หรือไม่ และหากจะกู้ประเทศจะพร้อมหรือไม่
โดย รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง เปิดเผยกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า สำหรับแหล่งทุนที่จะมาเติมในเรื่องของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้น เบื้องต้นก็มาจากงบประมาณสำหรับช่วยเหลือด้านสวัสดิการของรัฐบาล
“ก็อย่างตอนนี้เราจะเห็นทางด้านกรุงไทยที่กำลังทำอยู่ เพราะฉะนั้นแหล่งเงินอันนี้ ก็ง่ายๆ ก็มาจากตัวงบประมาณ งบประมาณในกรณีนี้ก็บางส่วน ก็เป็นงบประมาณที่เอามาใช้ในการที่จะช่วยเหลือทางสวัสดิการ ถ้าจะดูจากงบประมาณของปีนี้ ที่กำลังจะจบลงเดือนกันยายน และที่กำลังเตรียมแผนสำหรับงบประมาณปีหน้า ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่มกราคม จะมีลักษณะพิเศษอันหนึ่งคือว่า เป็นงบประมาณที่รัฐบาลพยายามที่จะลดการใช้จ่าย สิ่งที่เขาจะทำต่อไปก็คือว่า งานต่อ อย่างเช่นบางเรื่องที่เกี่ยวกับเรื่องของสวัสดิการ ก็คงจะไม่ใช้วิธีแบบหว่านแห ไปทั่วกันไปหมด เดี๋ยวนี้ก็เอาเฉพาะที่จำเป็น อย่างตอนนี้ บัตรสวัสดิการอันนี้คือจำเป็น อันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่เห็นได้ชัดว่าก็คงจะทำต่อ ”
ทั้งนี้ รศ.ดร.สมชาย ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงรายได้ของประเทศว่า ค่อนข้างจะมีปัญหา เพราะงบประมาณลงทุนมีเพียง 20 %เท่านั้น และนับวันยิ่งจะน้อยลง เพราะความสามารถในการแข่งขันลดลงและปรับตัวไม่ทันเทคโนโลยี ซึ่งเป็นปัญหาด้านงบประมาณ หากรัฐบาลจะต้องกู้เงินอีก ก็จะทำให้ประเทศไทยเกิดวิกฤตได้ เสถียรภาพทางการคลังจะถูกกระทบ
“จะมีปัญหา ขณะนี้รายได้ของเรางบประมาณมีเพียง 20% ที่เป็นงบลงทุน อีก 80% 76%เป็นงบประจำ ที่เหลือก็เป็นงบอย่างอื่น เพราะฉะนั้น 20% เนี้ยน้อย และนับวันจะน้อยลง เพราะว่าข้อ1.เลยความสามารถในการแข่งขันของเรามันตก เพราะว่าเราปรับตัวในเรื่องเทคโนโลยีไม่ทัน และยิ่งพรรคแต่ละพรรคกำลังหาเสียง ใช้งบประมาณมหาศาลเลย เพราะฉะนั้นจะเอาเงินที่ไหน
สองตัวนี้เป็นตัวออกเลยว่าจะเป็นปัญหาด้านงบประมาณ ในที่สุดต้องแก้ ขยายพวกอายุเกษียณ สองปรับเรื่องของโครงสร้างภาษี และที่สำคัญอีกอันหนึ่ง ในที่สุดรัฐจะแบกรับเรื่องของประชาสังคมทางด้านของเจ็บไข้ได้ป่วย มันไม่ได้ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่กำลังจะถูกกระทบกับรัฐบาลในอนาคตทุกชุด ถ้าเกิดการ”กู้” ประเทศไทยจะเกิดวิกฤตได้เลย เสถียรภาพทางการคลังจะถูกกระทบ เพราะฉะนั้นก็อย่าให้เกิดตรงนั้น”
จากนี้ต่อไปคงต้องจับตามองว่าการเดินหน้านำเสนอแนวนโยบายของแต่ละพรรคก่อนจะมีการเลือกตั้ง ว่าจะเป็นไปในทิศทางได้ สามารถทำได้จริง หรือเป็นเพียงการขายฝันประชาชน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews