คดีเด็กหายปริศนายังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่พ่อแม่เด็กมักจะอ้างว่าไม่ทราบว่าจู่ๆเด็กหายไปได้อย่างไร
ขณะพบว่าภายหลังจากคดีเด็กหายกลายเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้คนหันมาสนใจและติดตามสืบเสาะหาความจริงกันมากขึ้น ส่วนใหญ่แล้วจะพบว่าเด็กไม่มีลมหายใจและเสียชีวิตอย่างปริศนา ทำให้ประชาชนต่างอยากรู้ความจริงว่าเด็กถูกฆาตกรรมหรือไม่อย่างไร
โดยคดีที่ตำรวจใช้ระยะเวลารวบรวมหลักฐาน ออกหมายจับคนร้ายมานานกว่า1ปี ทำให้เรื่องราวพลิกผันไปชั่วขณะนั้นได้แก่ คดีของน้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ซึ่งหายตัวไปจากบ้านพักในหมู่บ้านกกกอก ต.กกตูม
อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งแต่เช้าวันที่ 11 พ.ค.63 ที่ผ่านมา ก่อนจะพบว่าเสียชีวิตบนเขาภูเหล็กไฟ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีหลายคนตกเป็นผู้ต้องสงสัยแต่ทั้งหมดกลับปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ต่อมาวันที่1 มิ.ย.64 มีรายงาน
จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า ศาลจังหวัดมุกดาหาร ได้อนุมัติหมายจับลุงพล ผู้ต้องหาในคดีการเสียชีวิตของ น้องชมพู่ และดูเหมือนว่าเรื่องราวจะจบลงแล้ว แต่เดี๋ยวก่อน เรื่องราวมันยังไม่ได้จบลงเพียงแค่นี้เพราะหลังจากนั้นลุง
พลได้กลายเป็นคนมีชื่อเสียงโด่งดัง มีผลงานมากมาย ซึ่งหลายคนมองว่าคนที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยทำไมชีวิตถึงพลิกจากร้ายกลายเป็นดีได้ขนาดนี้ทั้งๆที่ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าความจริงนั้นเป็นอย่างไร
ต่อมาในปี2566คดีเด็กหายได้โด่งดังขึ้นอีกครั้งนั่นคือ คดีของน้องต่อเด็กชายวัย8เดือน ที่หายตัวจากบ้านอย่างปริศนาในจ.นครปฐม เมื่อวันที่ 5 ก.พ.66 ที่ผ่านมา โดยล่าสุดพบว่าเหตุการณ์ทั้งหมดกลับอลเวงสุดๆ
เมื่อพบว่าแท้จริงแล้วน้องต่อไม่ใช่ลูกแท้ๆของนายพุดกับนิ่ม แต่กลับเป็นลูกของลุงแจ้ ซึ่งเป็นเพื่อนของพ่อนิ่ม ล่าสุด พุด กับ ลุงแจ้ ถูกตำรวจแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดในข้อหาร่วมกันค้าประเวณีและพรากผู้เยาว์กับผู้ต้องหาทั้งสอง
ราย คือ พุด ที่เอาเมียไปขายบริการให้กับลุงแจ้ จนถึงปัจจุบันเจ้าหน้าที่ก็ยังคงเร่งติดตามค้นหาตัวน้องต่ออย่างต่อเนื่อง ซึ่งตอนนี้พยานหลักฐานต่าง ๆตีวงแคบเข้ามา และมาโฟกัสที่ตัวของนิ่ม คาดว่าใกล้จะได้ข้อสรุปแล้ว
สำนักข่าวไอเอ็นเอ็นได้สัมภาษณ์พิเศษกับนายศุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจ.นครปฐม ระบุว่าในส่วนของคดีน้องต่อนั้นล่าสุดเริ่มมีความคืบหน้าไปมากแล้ว โดยทางพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม
.)ได้ลงพื้นที่เข้าไปดูแลเต็มที่ ขณะที่ทางจังหวัดได้ให้ความรู้กับเด็กทั้งในโรงเรียนและเด็กทั่วไปในการใช้สื่อโซเชียลให้ถูกวิธี เพราะสมัยนี้การเข้าถึงสื่อนั้นทำได้ง่ายและเกิดการเลียนแบบเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังกำชับให้เจ้าหน้าที่
ตรวจตราสถานที่เสี่ยงต่างๆ อย่างสถานบันเทิง สถานบริการ คุมเข้มห้ามเด็กอายุต่ำกว่าที่กำหนดเข้าใช้บริการเด็ดขาด รวมถึงสิ่งผิดกฎหมายทั้งหมดด้วย หากพบจับดำเนินคดีทันที เพื่อป้องกันการสุ่มเสี่ยงการค้าประเวณีในพื้นที่
ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาหลายคดีที่เกิดขึ้น คนในสังคมกลับไปมุ่งเน้นเรื่องข้อคิดเห็น จนหลายคดีคนหายกลายเป็นความเจ็บปวดของคนในครอบครัวเหยื่อ ซึ่งหากอะไรที่ยังไม่ชัดเจน และยังเป็นแค่ข้อคิดเห็น ไม่มีหลักฐาน
ชัดเจน ก็ยังไม่ควรด่วนสรุป เพราะทุกฝ่ายมีสิทธิ์ที่จะได้รับความเป็นธรรมหากพบว่าไม่มีความผิดจริง
อย่างไรก็ตามทุกคดีที่เกิดขึ้นต้องมีคำตอบและบทสรุป แม้ว่าจะต้องตามหาความจริงนับเดือนนับปี เพราะความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แม้ว่าบางเคสคนร้ายอาจหลบหนีความผิดไปได้แต่เชื่อว่ากฎแห่งกรรมนั้นยุติธรรมเสมอ….
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews