โฆษกรัฐบาลเผย “มวยไทย” ได้รับความนิยมต่อเนื่อง หลายหน่วยงานให้การรับรองและบรรจุเป็นชนิดกีฬาในเวทีระดับสากล พร้อมส่งเสริม พัฒนาต่อยอดเป็น Soft Power ที่โดดเด่นของไทย
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า “มวยไทย” ศิลปะการต่อสู้และการป้องกันตัวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของประเทศไทย ได้รับการบรรจุเป็นชนิดกีฬาในการแข่งขัน European Games 2023 ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศโปแลนด์ ระหว่างวันที่ 21 มิถุนายน – 2 กรกฎาคม 2566 นี้ สะท้อนความนิยมของมวยไทยในระดับสากล และเป็นความก้าวหน้าสำคัญในการผลักดันมวยไทยเป็น Soft Power ตามนโยบายส่งเสริม Soft Power 5 หมวด (5F) ของรัฐบาล ต่อยอดเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะกรรมการโอลิมปิกยุโรป (The European Olympic Committees: EOC) ประกาศบรรจุมวยไทยเป็นชนิดกีฬาในการแข่งขัน European Games 2023 อย่างเป็นทางการ โดยเห็นว่า มวยไทยเป็นหนึ่งในกีฬาต่อสู้ที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในโลกทั้งในแง่ของนักกีฬาและผู้ชม รวมถึงเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก โดยเฉพาะในยุโรป จึงได้บรรจุมวยไทยเป็นชนิดกีฬาในการแข่งขันฯ อย่างเป็นทางการ โดยจะมีการแข่งขันประเภทชาย 7 รุ่น ประเภทหญิง 7 รุ่น และประเภททีมผสม ซึ่งก่อนการแข่งขันหรือขึ้นชก นักกีฬาจะมีการรำไหว้ครูตามประเพณีของมวยไทยด้วย
นอกจากนี้ “มวยไทย” ซึ่งเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่าของประเทศไทย ยังได้รับการรับรองจากองค์กรกีฬาที่มีชื่อเสียง อาทิ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (International Olympic Committee: IOC) และล่าสุด คณะกรรมการโอลิมปิกและพาราลิมปิกแห่งสหรัฐอเมริกา (The United States Olympic & Paralympic Committee: USOPC) ได้รับรองมวยไทยเป็นชนิดกีฬาใหม่ เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา
“นายกรัฐมนตรียินดีกีฬามวยไทยได้รับความสนใจและชื่นชอบจากนานาประเทศทั้งเพื่อการแข่งขันในเวทีระหว่างประเทศ และเป็นอีกกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ได้รับความสนใจและชื่นชอบจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ภูมิใจที่มวยไทยได้รับการรับรองและบรรจุเป็นชนิดกีฬาในเวทีการแข่งขันระดับสากลอย่างต่อเนื่อง สะท้อนความสำเร็จตามนโยบายของรัฐบาลที่ได้บูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันส่งเสริมและผลักดันมวยไทย ให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล พร้อมพัฒนาต่อยอดเป็น Soft Power ที่มีศักยภาพของประเทศ สร้างชื่อเสียงและรายได้ให้ประเทศ รวมถึงสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน” นายอนุชาฯ กล่าว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews