Home
|
อาชญากรรม

พบ 1 ศพ! คาดเป็นกําลังพลสูญหายเรือหลวงสุโขทัย

Featured Image
ส่งผลชิ้นเนื้อผู้เสียชีวิตริมฝั่ง อ.ปะทิว จ.ชุมพร พิสูจน์เอกลักษณ์ คาดทราบผล 5-7 วัน ว่าใช่ลูกเรือหลวงสุโขทัยหรือไม่

 

 

พลเรือโทพิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ในฐานะผู้อำนวยการศรชล ภาค 1 เปิดเผยว่าเมื่อวานนี้ (5 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ อ.ปะทิว จ.ชุมพร ว่าพบร่างผู้เสียชีวิต 1 คน ริมชายฝั่งทะเล ซึ่งเป็นพื้นที่เดียวกันกับที่เคยมีการค้นหากำลังพลที่สูญหายจากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปางช่วงปลายปี 2565 ที่ผ่านมา

 

แต่ศพอยู่ในสภาพนอนเปื่อยจนไม่สามารถระบุตัวตนได้ชัดเจน เจ้าหน้าที่จึงเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตไปที่วัดเขาเจดีย์ อ.ประทิว จ.ชุมพร และในวันพรุ่งนี้ (7 มี.ค.) จะนำชิ้นเนื้อมาตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์ที่กรุงเทพมหานคร โดยคาดว่าจะใช้เวลา 5-7 วัน ถึงจะทราบผล และหากผลชิ้นเนื้อตรงกับญาติผู้เสียชีวิตก็จะนำร่างกำลังพลกลับไปที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อทำพิธีอย่างสมเกียรติ ซึ่งก็คาดหวังว่าร่างผู้เสียชีวิตที่พบเมื่อวานนี้จะเป็นร่างของกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย

 

ส่วนปฏิบัติการค้นหากำลังพลที่สูญหายลูก พลเรือโทพิชัย ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ยังปฏิบัติการค้นหาอยู่ตลอด แต่ปรับกำลังลงและกระชับพื้นที่ให้แคบลง ตำรวจน้ำยังมีแผนลาดตระเวนตามเดิม ส่วนเรือประมงของกรมประมงก็ยังใช้ตามเดิม และมีเรือกันตังของกองทัพเรือภาคที่ 1 อยู่ในพื้นที่ อ.บางสะพาน

 

พลเรือโทพิชัย กล่าวถึงความคืบหน้าการจับกุมเรือลักลอบขนน้ำมันเบนซินที่ไม่ผ่านกระบวนการทางศุลกากร ว่าปัจจุบันมีคนลักลอบนำน้ำมันเข้ามาโดยไม่เสียภาษีศุลกากรเป็นจำนวนมากในพื้นที่ชายฝั่งทะเล และช่วงตี 3 ของวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา มีเรือ ต.115 ไปปฏิบัติหน้าที่สาธารณภัยป้องกันชาติทางทะเลที่ จ.สมุทรสาคร แต่เห็นความผิดปกติของเรือธนสิทธิ์จึงเข้าไปดำเนินการให้จอดเรือและทำการตรวจค้น โดยในช่วงแรกได้รับรายงานว่ามีการลักลอบน้ำมันเข้ามา 3 แสนลิตร แต่จากการตรวจสอบโดยละเอียดพบลักลอบเข้ามาถึง 7 แสนลิตร

 

สำหรับเรือธนสิทธิ์ได้รับน้ำมันมาจากแทงเกอร์ หรือเรือน้ำมันขนาดใหญ่กลางทะเล เป็นเรือที่ถูกกฎหมายและมีการจดทะเบียนและเสียภาษีถูกต้อง แต่พฤติกรรมเข้าข่ายผิดกฎหมายจึงดำเนินการจับกุม และจากการตรวจสอบยังพบว่าเรือลำนี้ใบอนุญาตใช้เรือขาดอายุตั้งแต่เดือน พ.ย.65

 

ส่วนวัตถุประสงค์หลักของเรือลำนี้คือรับส่งน้ำมันเตา แต่จะเข้ามาที่ท่าไหนไม่ได้ระบุไว้ และจากสอบสวนทราบว่าเรือลำนี้รับน้ำมันเบนซินมาจากเรือขนาดใหญ่กลางทะเล อยู่นอกเหนือน่านน้ำภายในและอยู่นอกเหนือกฎหมายของเจ้าหน้าที่ แต่เมื่อเรือแล่นเข้ามาอยู่ในเขตที่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้แล้วจึงทำการตรวจค้นบนเรือ พบลูกเรือ 6 คน เป็นชาวไทยทั้งหมด จึงดำเนินการปรับเจ้าของเรือเป็นเงิน 14 ล้านบาท ตามจำนวนน้ำมันที่ต้องเสียภาษี และได้แจ้งความเอาผิดกับเจ้าของเรือไว้แล้วที่ สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube