นักวิชาการ โดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ทำการสำรวจ ความคิดเห็นประชาชนต่อนโยบายต่อต้านคอร์รัปชันของพรรคการเมืองและนักการเมืองไทยในการเลือกตั้ง 2566
โดยนายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย บอกว่า จากผลการสำรวจชี้ชัดว่าประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งส่วนใหญ่มองปัญหาสำคัญของประเทศที่ต้องการแก้ไขมากที่สุดคือปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน รองลงมาคือการศึกษาและการลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม โดยนโยบายการต่อต้านคอร์รัปชันของพรรคการเมืองและนักการเมืองมีผลต่อการตัดสินใจลงคะแนนในการเลือกตั้ง เพราะต้องการให้พรรคการเมืองมีความชัดเจนในการกำหนดนโยบายที่สามารถปฏิบัติได้จริง มีความโปร่งใส และสุจริตในการดำเนินงานสามารถตรวจสอบได้ และช่วยแก้ไขวัฒนธรรมการทุจริตคอร์รัปชันในทุกรูปแบบ
โดยอยากให้มีการกำหนดนโยบายต่อต้านคอร์รัปชันเป็นนโยบายหลัก เพื่อผลในการแก้ไขปัญหาอย่างชัดเจน และหากพรรคการเมืองใดไม่มีนโยบายในการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชันประชาชนส่วนใหญ่จะตัดสินใจไม่เลือกพรรคการเมืองนั้น รวมถึงหากนักการเมืองมีการใช้เงินซื้อเสียงจะตัดสินใจไม่เลือกนักการเมืองคนนั้นในการเลือกตั้ง เพราะถือว่าเป็นการทุจริตและไม่ซื่อสัตย์ตั้งแต่เริ่มต้น
“โพลที่ออกมาเนี้ยมันชัด แยกตามภาค แยกตามอายุ แยกตามอาชีพ ความต้องการทั้งหมด ผมคิดว่า ก็จะเห็นว่าคอร์รัปชันเป็นอะไรที่ เมื่อถามไปเรื่อยๆ มันจะเด่นออกมาเรื่อยๆ รู้สึกว่าจะต้องต่อต้านมันให้ได้ เมื่อถามแรกๆ ก็จะรู้สึกมันสำคัญ พอประโยคสุดท้ายสรุปว่าคอร์รัปชันมีคะแนนที่ทิ้งห่าง อย่างไรก็ตามนั่นคือมุมที่เราอยากจะฝากพรรคการเมือง รณรงค์ให้คนไทยทุกคน
เริ่มที่จะส่งเสียงว่า ขอป้ายหาเสียง ที่เป็นป้ายแสดงถึงการต่อต้านคอร์รัปชัน ดังนั้นพรรคการเมืองพึงจะยึดเจตนารมณ์ ตามรัฐธรรมนูญคือการต่อต้านคอร์รัปชัน ผมเชื่อว่าในโพลจะเห็นชัดนะครับว่า บางคนก็คาดว่าพรรคการเมืองจะทำได้ มีนโยบายได้ แต่บางคนก็บอกว่าอาจจะไม่ได้ แต่การรณรงค์ก็ต้องรณรงค์ผ่านสื่อนะครับ ผ่านน้องๆ เยาวชน คนรุ่นใหม่ ช่วยไปบอกให้พรรคการเมืองนั้น ติดป้ายและพูดถึงเรื่องการต่อต้านคอร์รัปชันให้เป็นรูปธรรมมากที่สุด”
ด้านองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน มองในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ปัญหาการคอร์รัปชันไม่ได้ดีขึ้น แต่ก็ยังมีความคาดหวัง กับการเลือกตั้ง ว่าการใช้สิทธิ์จะสามารถแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันให้ดีขึ้นได้ และต้องยอมรับนักการเมืองมีส่วนที่ทำให้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันเกิดขึ้นจริง
โดยนายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ย้ำนโยบายการต่อต้านคอร์รัปชันต้องเป็นนโยบายที่ชัดเจนสามารถจับต้องได้ไม่ใช่เพียงแค่นโยบายหวานหู ซึ่งการเลือกตั้งในครั้งนี้ พบว่ามีเพียง 3 พรรคการเมืองที่มีนโยบายในการต่อต้านคอร์รัปชัน แต่ก็ยังคงไม่เป็นรูปธรรมเท่าที่ควร
“บ้านเมืองของเรามีปัญหาคุณภาพการศึกษา มีปัญหาเรื่องยาเสพติด มีปัญหาเรื่องคุณภาพของชีวิต หลายๆ เรื่องเกิดจากการกระทำของนักการเมือง และผู้มีอำนาจ ที่ไปคอร์รัปชัน ทำให้การควบคุมปัญหา การปราบปรามปัญหาเหล่านั้น มันเป็นเรื่องที่ล้มเหลว เพราะฉะนั้นเสียงตรงนี้คือเสียงของประชาชนที่ต้องการจะบอกให้กับนักการเมือง คนที่กำลังจะเข้าสู่สนามการเลือกตั้งได้รับฟัง และก็ตอบสนองความต้องการของประชาชน ”
อย่างไรก็ตามการ เคลื่อนไหวของผู้มีชื่อเสียง หรือสื่อสังคมออนไลน์ที่สามารถเข้าถึงได้มากขึ้น ทำให้ประชาชนตระหนักรู้ถึงการทุจริตคอร์รัปชัน กระตุ้นทำให้เกิดการเคลื่อนไหวที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น นำไปสู่การแก้ไขปัญหา ให้ดีขึ้นได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
