Home
|
ข่าว

มท.ขยายประเภทอาคารทำธุรกิจที่พัก ช่วยผู้ประกอบการ

Featured Image
มหาดไทยเตรียมประกาศขยายประเภทอาคารทำธุรกิจที่พัก อนุญาติแพ เต็นท์ กระโจม ประกอบธุรกิจโรงแรม ภายใต้เงื่อนไขความปลอดภัย ช่วยผู้ประกอบการรายเล็กกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรอง

 

 

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยอยู่ระหว่างการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลโรงแรมที่พัก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมีนโยบายให้ทุกหน่วยงานสนับสนุนให้ประชาชนทั่วไปและผู้ประกอบการขนาดเล็กได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยว เกิดความคิดสร้างสรรค์นำศิลปวัฒนธรรมในท้องถิ่นมาดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในเมืองรอง

 

 

ขณะที่นักท่องเที่ยวมีทางเลือกหลากหลายภายใต้มาตรฐานความปลอดภัย ซึ่งกฎหมายที่กระทรวงมหาดไทยอยู่หว่างปรับปรุงมี 2 ฉบับ โดยฉบับแรก เป็นกฎกระทรวงกำหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจโรงแรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ซึ่งได้แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงฯ ฉบับปี 2551 โดยกำหนดให้สถานที่พักที่มีจำนวนห้องพักในอาคารเดียวกันหรือหลายอาคารรวมกันไม่เกิน 8 ห้อง และมีจำนวนผู้พักรวมกันทั้งหมดไม่เกิน 30 คน เมื่อได้แจ้งให้นายทะเบียนทราบและนายทะเบียนได้ออกหนังสือรับแจ้งแล้ว สามารถเป็นสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ.2547 ได้

 

 

โดยส่วนนี้เป็นการขยายจากเดิมที่อนุญาตเฉพาะสถานที่ที่มีห้องพักรวมกันไม่เกิน 4 ห้อง และมีผู้พักรวมกันไม่เกิน 20 คน และเพิ่มเติมให้หนังสือรับแจ้งมีอายุ 5 ปี ให้สอดคล้องกับใบอนุญาตธุรกิจโรงแรมที่มีอายุ 5 ปี เช่นกัน เพื่อให้มีการตรวจมาตรฐานต่างๆ ก่อนต่อใบอนุญาตอย่างต่อเนื่อง

 

 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า การขยายประเภทอาคารให้ใหญ่ขึ้นนี้ เพื่อส่งเสริมให้มีการนำอาคารที่มีเอกลักษณ์ทรงคุณค่าในแต่ละท้องถิ่นมาทำธุรกิจได้มากขึ้น เป็นการอนุรักษ์อาคารเก่าแก่ของชุมชนให้คงอยู่ เกิดความคิดสร้างสรรค์ผ่านการเชื่อมโยงเรื่องราวของท้องถิ่นกับที่พัก ซึ่งในเมืองรองหลายแห่งมีทั้งอาคารเก่าแก่และมีเรื่องราวประวัติศาสตร์ท้องถิ่นอยู่จำนวนมาก ที่สามารถนำมาถ่ายทอดเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้กับชุมชนได้

 

 

นอกจากนี้ กฎกระทรวงฯ ได้เพิ่มเติมการอนุญาตให้นำอาคารที่มีลักษณะเป็นแพ และอาคารที่มีลักษณะพิเศษ เช่น เต็นท์ กระโจม มาประกอบธุรกิจโรงแรมได้ ซึ่งเป็นการสนับสนุนการใช้ความคิดสร้างสรรค์เข้ามาดึงดูดการท่องเที่ยว แต่ขณะเดียวกันการให้บริการต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขความปลอดภัยสำหรับผู้พัก เช่น อาคารสำหรับใช้เป็นโรงแรมที่มีลักษณะเป็นแพต้องจัดให้มีเครื่องลอยน้ำหรือเสื้อชูชีพ เต็นท์ กระโจม ต้องจัดให้มีแสงสว่างอย่างเพียงพอในห้องพักและบริเวณทางเดิน และได้เพิ่มข้อกำหนดกรณีห้องพักที่ให้บริการแบบห้องพักรวมโดยคิดค่าบริการเป็นรายคน

 

 

ต้องจัดให้มีเลขประจำเตียงกำกับไว้ทุกเตียงเป็นเลขอารบิก เพื่อให้สามารถกำกับดูแลความปลอดภัยของผู้เข้าพักแต่ละราย เพื่อให้สอดคล้องกับการอนุญาตให้นำอาคารที่มีลักษณะพิเศษข้องต้นมาประกอบธุรกิจโรงแรมได้ กระทรวงมหาดไทยได้ออกกฎหมายฉบับที่2 คือ กฎกระทรวงกำหนดลักษณะและระบบความปลอดภัยของอาคารที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. …. โดยกำหนดบทนิยาม “อาคารลักษณะพิเศษ” ที่อนุญาตให้นำมาประกอบธุรกิจโรงแรมได้ให้สอดคล้องกับปัจจุบันอาคารที่มีการก่อสร้างอาคารหลากหลายรูปแบบมาเป็นโรงแรมไม่ว่าจะเป็น บังกะโลชั้นเดียวแบ่งเป็นห้อง ตู้คอนเทนเนอร์ แพที่อยู่ตามเขื่อนต่างๆ บ้านต้นไม้ เต็นท์แบบเป่าลม เป็นต้น

 

 

พร้อมกับกำหนดให้ผู้ประกอบการที่ใช้อาคารลักษณะพิเศษดังกล่าวประกอบธุรกิจโรงแรม ต้องดำเนินการตามที่กำหนดในส่วนที่เกี่ยวกับโครงสร้างของโรงแรม ระบบป้องกัน และระงับอัคคีภัย ระบบทางหนีไฟ ลักษณะภายในและภายนอกของอาคาร และการนำอาคารลักษณะพิเศษมาใช้ประกอบธุรกิจโรงแรมด้วย เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของอาคารและความปลอดภัย สำหรับความคืบหน้าของการปรับปรุงกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ ล่าสุดได้ผ่านการอนุมัติหลักการจากคณะรัฐมนตรีไปแล้ว เหลือขั้นตอนการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube