ออกปาก “บิ๊กป้อม” ยังเป็นพี่ผมเหมือนเดิม หลังยอมรับได้อ่านจดหมายน้อยฉบับที่5 ของ “ลุงป้อม” แล้ว แต่ไม่ตอบว่าพี่ใหญ่ 3 ป.เปลี่ยนไปไหม เพราะเนื้อหาในจดหมายล่าสุดของ ลุงป้อม
@ออกปาก “บิ๊กป้อม” ยังเป็นพี่ผมเหมือนเดิม หลังยอมรับได้อ่านจดหมายน้อยฉบับที่5 ของ “ลุงป้อม” แล้ว แต่ไม่ตอบว่าพี่ใหญ่ 3 ป.เปลี่ยนไปไหม เพราะเนื้อหาในจดหมายล่าสุดของ ลุงป้อม มีการโจมตี กลุ่มบุคคล ฝ่ายอนุรักษนิยม ยังหนุนการ ปฏิวัติรัฐประหารอยู่ โดย ลุงตู่ ย้อนถาม มีสาเหตุอะไร เพราะไม่ได้มีความขัดแย้งอะไร ไม่เห็นมีอะไรเลย หากไม่ได้กลับมาเป็นนายกฯอีกสมัย ส่วนเรื่องขั้ว เผด็จการ อนุรักษนิยม กับ เสรีนิยม ประชาธิปไตย ยังคงแตกกัน การรัฐประหารเกิดหลายปีมาแล้วที่ต้องทำ เพื่อให้เกิดความสงบ ถ้าไม่มีอะไร ทำให้ความขัดแย้งลดลง จะเกิดอะไรขึ้น แต่ วันนี้ตนมายืนตรงนี้ ด้วยอะไร ด้วยสภา ด้วย รธน. ประเทศต้องมีความสุข สงบเรียบร้อย ไม่มีความรุนแรง อย่ากลับไปที่เดิมอีก ส่วนจดหมายบิ๊กป้อม ตนอ่านแล้วที่ย้ำเรื่องรัฐประหารหลายครั้ง ก็เรื่องของท่าน แต่ ใครจะรัฐประหารล่ะ ใครจะทำตนถามหน่อย หากอีกฝั่งมาเป็นรัฐบาลแล้ววุ่นวายตามมา โดยลุงตู่ปัดตอบควรมีรัฐประหารอีกหรือไม่
@โดย “ลุงตู่” ยังบอกว่า พูดมาตั้งนานแล้ว คิดว่าครั้งนี้ (2557) มันครั้งสุดท้ายแล้ว ไม่ควรจะมีอะไรได้อีกแล้ว ซึ่งขึ้นอยู่กับทุกคน ถ้าขัดแย้ง รุนแรงกัน ตนก็ไม่รู้ มันจะแก้ปัญหาด้วยอะไร เพราะตนไม่เกี่ยวแล้ว ก่อนถาม ตอนนี้ไม่ใช่ประชาธิปไตยหรือ และปัดตอบการพูดเรื่องรัฐประหารเป็นการดิสเครดิตตนหรือไม่ ซึ่งชี้แจงในสภาไปแล้วหลายครั้ง ส่วนที่ลุงป้อม ชูจุดขาย เรื่องก้าวข้ามความขัดแย้งในเรื่องขั้วอำนาจอนุรักษนิยมและเสรีนิยมนั้นลุงตู่ ตอบว่า แล้วมันขัดแย้งตรงไหนตอนนี้ ขั้วอะไร ตนไม่เห็นมีขั้วสักขั้ว ก็คิดกันเองหมด อย่าสร้างความสับสนอลหม่านเลย ใครพูดอะไรมาขยายหมดมันก็มีแต่เรื่อง ตนจะไม่พูดอะไรเรื่องพวกนี้มันจบไปแล้วก็จบไป ของเก่าก็ของเก่า วันนี้เดินหน้าประเทศไปเถอะ บนท่ามกลางความสงบสุข ความเรียบร้อยของประเทศชาติไม่ดีกว่าหรือ ตนก็คิดแค่นี้
@เรียกว่า ถือเป็นการออกมาอธิบาย ออกตัวของลุงตู่ กับจดหมายน้อยของพี่ใหญ่ ที่พุ่งเป้ามาที่กลุ่มอนุรักษนิยมซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายฐานเสียงของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่ชัดเจนที่สุดในการแข็งตัวแบบอนุรักษนิยมที่ส่วนหนึ่งถูกมองว่า มีการเบียดแย่งคะแนนกันในปีกนี้ของพรรคร่วมรัฐบาล อย่างประชาธิปัตย์ ไม่นับรวมภูมิใจไทย หรือพรรคพี่ พลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ 2 พรรคหลัง ติ๊ดชิ่ง พร้อมเปิด ดีลข้ามขั้ว โดยเฉพาะลุงป้อม เริ่มย้ำถี่ แนวทางโซ่ข้อกลาง สลายขั้วความขัดแย้ง ทำนองจะบอกว่า แนวคิดจาก ระดับนำใน ฝ่ายอนุรักษนิยม ยังไม่ทิ้งความคิด ตัวแปรแทรกซ้อนอำนาจการเมืองโดยวิธีรัฐประหาร อย่างที่ระยะหลังแนวทางการไม่ปิดทางโอกาสการจับมือร่วมรัฐบาล ระหว่างพปชร.กับพรรคฝ่ายค้านเพื่อไทย ซึ่งคะแนนโพล
นำมาตั้งแต่ต้น เริ่มเด่นชัดขึ้น สะท้อนผ่านฟากฝั่งฝ่ายรัฐบาลปัจจุบัน และพรรคฝ่ายค้าน กับอาการของคนจาก พรรคก้าวไกล ที่นอกจากจะขยี้ปูมหลัง ลุงป้อม ที่มีส่วนร่วมใน ฐานอำนาจ 3 ป. ในหลายเฟดความเปลี่ยนแปลงอำนาจ ยัง ดักคอ พรรคเพื่อไทย กับ จุดยืน เพื่อคนเสื้อแดงฝ่ายประชาธิปไตย ในประเด็นที่มวลชนเรียกร้อง วันก่อนที่ไม่นับรวมท่าทีของ “อุ๊งอิ๊ง” ล่าสุดวันนี้ ที่นอกจากยังคงย้ำว่าเร็วไปที่จะพูดถึงการร่วมรัฐบาลกับพรรคใดยังยืนยันเพื่อไทยไม่เคยมองหาความขัดแย้ง ทุกคนต้องช่วยกันเพื่อเป้าหมาย 310 เสียง เป็นรัฐบาลที่เข้มแข็ง ไม่ถูกล้มโดยส.ว.
@ที่ทั้งหมดมีการวิเคราะห์ไปถึงความเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้จาก ผู้คนที่มีบทบาทนำในฝ่ายอนุรักษนิยมที่มีการพูดคุย และส่งสัญญาณเหมือนแสดงความสนใจ แนวทางสลายขั้วความขัดแย้ง ของลุงป้อม จนมีการวิเคราะห์ถึงเป้าหมายฝ่ายอนุรักษนิยมกับการเลือกตั้งหนนี้ทำนอง หากลุงตู่แพ้ จะเกิดแนวทางรัฐบาล
แก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องที่ไม่แตะต้องประเด็นปัญหาความขัดแย้งที่ผ่านมาที่โยงทั้งปมการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ถูกออกแบบมาเพื่อความได้เปรียบ และการแก้กฎหมายบางฉบับที่ม็อบฝ่ายประชาธิปไตยเคยเรียกร้องให้มีการ แก้ไขเช่นม.112 ในขณะเดียวกันก็เป็นการแลนดิ้งจากอำนาจการเมืองของฝ่ายอำนาจไปในตัว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews