“สมชาย” หวังเพื่อไทยแลนด์สไลด์ กทม. บอกไม่กังวลเสียงส.ว.ในสภา มั่นใจในวิจารณญาณ รักประเทศ รักประชาชน ไม่สน”ประยุทธ์” วิจารณ์”เศรฐา” เก่งธุรกิจได้หมายถึงเก่งเศรษฐกิจ
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความมั่นใจในพื้นที่ กทม.ทึ่ขณะนี้มีหลายพรรคการเมืองต้องการ และพรรคเพื่อไทย ก็ตั้งเป้าแลนด์?สไลด์ที่อาจจะไม่ได้ตามเป้า ว่า ซึ่งแล้วแต่ว่าใครจะประเมิน เมื่อมีการแข่งขัน ใครก็อยากที่จะได้รับการเลือกตั้งทั้งนั้น โดยทางพรรคเพื่อไทยประเมินจากศักยภาพของเรา และผลงานที่ผ่านมา รวมไปถึงตัวผู้สมัคร และปณิธานของพรรคที่ต้องการช่วยเหลือประชาชน ก็มั่นใจว่า ประชาชนจะให้ความสนใจ
และยินดีที่จะเลือกให้พรรคเพื่อไทย เข้ามาทำงาน และจากการประเมินทั่วประเทศ ที่จากเดิมประเมินไว้เพียง 250 ที่นั่ง แต่จากการทำโพลต่างๆ ก็มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนในพื้นที่ กทม. เป็นพื้นที่ที่มีสสมากที่สุดเพราะมีประชากรเยอะเพราะฉะนั้น จึงเชื่อว่ากระแสนี้จะทำให้ประชาชน มีความมั่นใจกับพรรคเพื่อไทย
ที่เราได้พยายามอย่างเต็มที่ไม่ได้ยกย่องตัวเองแต่คิดว่าเราบอกกล่าวกับประชาชนว่าจะทำอะไรบ้างไม่ได้เป็นผู้ที่มาแสวงหาอำนาจหรือผลประโยชน์ และคิดว่าระยะเวลาที่ผ่านมาทุกคนคงมองออกกันแล้วว่าบ้านเมืองเป็นอย่างไร จึงหวังให้ กทม.และสไลด์ด้วย ซึ่งเชื่อว่า
ประชาชนคงเห็นความตั้งใจจริงของพรรคเพื่อไทย
นายสมชาย ยังระบุด้วยว่า ไม่ได้รู้สึกกังวลจำนวน ส.ว. ถ้าหากเสียง ส.ส. ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของรัฐสภา โดยเชื่อว่า ส.ว. ทั้งหลายก็เป็นประชาชนคนไทย มีครอบครัวมีพรรคพวกและเห็นแนวโน้มจากสิ่งที่สะท้อนออกมาจากการทำงานของรัฐบาลที่ผ่านมาที่ไม่ได้ตำหนิว่ารัฐบาลดีหรือไม่ดีแต่คิดว่ายังไม่ประสบความสำเร็จไม่ได้ทำให้ประเทศเกิดการพัฒนาเท่าที่ควร
จึงคิดว่า ส.ว. ทั้งหลายต้องมีใจเป็นธรรมไม่ว่าจะมาอย่างไรก็ตาม คิดว่าเป็น ส.ว.รักประเทศไทย รักพี่น้องประชาชน ถ้าประชาชนเห็นเรามีความสามารถทำงาน ส.ว.ก็ใช้วิจารณญาณ ซึ่งตนมั่นใจในวิจารณญาณของ ส.ว.ไม่ต้องมาเกรงกลัวกัน พอมั่นใจว่าถ้าหากพรรคเพื่อไทยได้เสียงมากแนวโน้มในการจัดตั้งรัฐบาลก็ยิ่งมีและสัญญาว่าเราจะทำตามนโยบายที่ออกมา เราทำได้ทุกอย่าง
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยมีการเปิดตัวนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี นั้น นายสมชาย มั่นใจว่า สามารถสู้ได้กับทุกพรรค ไม่ว่าใครที่มีความเหมาะสมก็สู้ได้ และที่ผ่านมารัฐบาลไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องของการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของพี่น้องประชาชนพรรคจึงต้องมองหาคนที่มีความเหมาะสมที่จะมาช่วยในด้านเศรษฐกิจช่วยปักท้องช่วยพัฒนาธุรกิจต่างๆ ให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป
ซึ่งนายเศรษฐา ถือเป็นนักธุรกิจที่เคยประสบความสำเร็จและตอนนี้ก็ได้เสียสละ เพื่อเข้ามาช่วยเหลือพี่น้องประชาชน จึงคิดว่าเป็นสิ่งที่ช่วยสนับสนุนและส่งเสริม ประชาชนมีความมั่นใจสูงขึ้น และพรรคเองก็มีความมั่นใจ
ส่วนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่าเก่งธุรกิจไม่ได้หมายถึงเก่งเศรษฐกิจ นายสมชาย กล่าวว่า ท่านก็ว่าของท่านไป เราไม่ได้สนใจว่าใครจะคิดอย่างไร แต่เรามุ่งมั่นที่จะทำงานเพื่อประชาชน ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ อาจจะไม่ได้เข้าใจเรา และไม่เข้าใจวิธีการทำงานของเรา ดังนั้น ก็สามารถที่จะวิจารณ์กันได้ไม่เป็นไรซึ่งพรรคเพื่อไทยเปิดกว้างที่จะรับฟังทุกคนพูดมาเราก็ฟังแต่อะไรที่ไม่ใช่ ก็เห็นว่าไม่มีประโยชน์ที่จะไปต่อสู้อะไรทั้งสิ้นเป็นผู้ตัดสิน ว่าเลือกใครและเชื่อใคร ฟังเสียงจากพรรคไหน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
