กทม.เตรียมพร้อมสถานที่รับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตทั้ง 33 เขต เรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่?มั่นใจว่าการรับสมัครจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
กรุงเทพมหานคร ได้มีการจัดเตรียมสถานที่การรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต ของกรุงเทพมหานคร ทั้ง 33 เขต ที่ อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย -ญี่ปุ่น) พร้อมแล้ว 100% หลังจากได้มีการซักซ้อมเสมือนจริง
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่มั่นใจว่าการรับสมัครจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และจะไม่ติดขัดปัญหาอะไร เนื่องจากได้มีการซักซ้อมมาแล้วหลายครั้ง ขณะที่การวางระบบต่างๆ โดยเฉพาะโปรแกรม และระบบสื่อสาร ทางเจ้าหน้าที่ NT โทรคมนาคมแห่ง ได้เข้ามาทดสอบและตรวจระบบ เพื่อให้ทุกอย่างมีความพร้อมมากที่สุด และหากมีปัญหาสามารถเข้ามาแก้ไขได้ทันที
สำหรับขั้นตอนการรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต นั้น ต้องกรอกใบสมัครและจัดเตรียมเอกสารประกอบการรับสมัครให้พร้อม และยื่นใบสมัครพร้อมเอกสารด้วยตนเองจากนั้นลงทะเบียนการรับสมัคร โดยลงเวลาในสมุดลงทะเบียนรับสมัคร ซึ่งในกรณีที่มีผู้ลงทะเบียนการรับสมัครก่อนเวลา ถือว่าเป็นผู้มายื่นใบสมัครพร้อมกัน หากตกลงกันได้ให้ยื่นตามลำดับที่ตกลงกัน แต่หากตกลงกันไม่ได้จะดำเนินการจับสลากหมายเลข
จากนั้นยื่นใบสมัครและเอกสารประกอบการรับสมัครตามลำดับการลงทะเบียนต่อผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง (ผอ.กต.เขต) โดยยื่นใบสมัครพร้อมเอกสารต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นการตรวจสอบเอกสารหลักฐานในเบื้องต้น
และชำระค่าธรรมเนียมการสมัครเป็นเงินสดต่อเจ้าหน้าที่การเงิน ก่อนออกใบเสร็จ เพื่อให้ผู้สมัครใช้ประกอบเป็นหลักฐานการยื่นสมัคร จากนั้น ผอ.กต.เขต จะออกใบสมัครโดยเรียงลำดับการยื่นใบสมัคร
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผู้สมัครต้องระมัดระวัง คือ 1. เอกสารหลักฐานประกอบการสมัครรับเลือกตั้งตามมาตรา 45 และ 46 ของ พ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งกำหนดไว้ว่าผู้สมัครต้องเตรียมมาให้ครบถ้วนทุกรายการ ซึ่งหากไม่ครบถ้วนต้องให้ผู้สมัครกลับไปเตรียมมาให้พร้อม จึงให้มาสมัครใหม่
2.กองเชียร์ของผู้สมัครรับเลือกตั้งสามารถมาสถานที่รับสมัครได้ ซึ่งเป็นสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ แต่สิ่งที่ห่วงใยในช่วงขามาสามารถร้องรำทำเพลงได้ แต่เมื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งได้หมายเลขประจำตัวผู้สมัครแล้วต้องระมัดระวังการกระทำความผิดตามกฏหมายเลือกตั้งมาตรา 73(3) ห้ามจัดให้มีงานรื่นเริงหรือมหรสพ หรือเมื่อได้หมายเลขประจำตัวผู้สมัครแล้วให้งดการกระทำเหล่านี้
3.คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ไม่ใช่หน้าที่ของฝ่ายรับสมัครที่ต้องตรวจสอบอย่างเข้มข้น แต่เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการสรรหาแต่ละพรรคตามกฏหมาย ซึ่งการตรวจเอกสารหลักฐานคุณสมบัติของฝ่ายรับสมัครเป็นการทบทวนอีกครั้งหนึ่งเท่านั้น
ซึ่งหากผู้สมัครคนใดเป็นผู้ที่รู้อยู่แล้วว่าตัวเองไม่มีคุณสมบัติสมัครรับเลือกตั้ง หรือมีลักษณะต้องห้าม จะมีบทลงโทษตามกฎหมายมาตรา 151 ซึ่งหากได้รับเลือกตั้ง ส.ส. ต้องถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งและจะต้องคืนสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้กับสภาผู้แทนราษฎร
ส่วนการดูแลรักษาความปลอดภัย ได้มีการวางมาตรการอย่างเข้มงวด ทั้งตำรวจ สันติบาล 191 อีโอดี และชุดควบคุมฝูงชนไม่ต่ำวันละ 170 นาย และการเข้าพื้นที่ต้องมีการผ่านจุดคัดกรองสแกนวัตถุต้องสงสัยก่อนเข้าพื้นที่ หากมีผู้เข้ามาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ทางการเมืองในพื้นที่ทางเจ้าที่ก็จะประเมินสถานการณ์ และต้องดูข้อเท็จจริงว่าการกระทำเข้าข่ายความผิดหรือไม่หรือเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews