Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

การเมือง-เลือกตั้ง ดันลงทุนตลาดหุ้น

ภาพการเลือกตั้งที่ชัดเจนขึ้น เห็นหน้าตาตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งเกือบทั้งหมดแล้ว รอแค่พรรคการเมืองใดจะชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนชนะขาดหรือไม่ ถือเป็นปัจจัยบวกสนับสนุนการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์

 

 

 

โดยนายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน บอกว่า ส่วนตัวมองปัจจัยการเมืองเป็นปัจจัยบวกต่อการลงทุน ดูจากการเลือกตั้งในครั้งที่ผ่านๆ มา ตลาดหลักทรัพย์ตอบรับในเชิงบวกมาโดยตลอด เพราะจะมีแรงส่งจากนโยบายในการสนับสนุนการลงทุน และนโยบายที่นำมาหาเสียงในช่วงก่อนการเลือกตั้ง มักจะมีผลเชื่อมโยงมาถึงนักลงทุนและการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เสมอ

 

 

แต่ภาพสะท้อนของตลาด จะเห็นชัดเจนขึ้นเมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลและได้ทีมเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลพรรคเดียว หรือรัฐบาลผสม หากสามารถตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนได้ ภาพการลงทุนในตลาดไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนในประเทศหรือนักลงทุนต่างประเทศ จะกลับมาสดใสทันที

 

 

ซึ่งก็สอดคล้องกับผลสำรวจ ล่าสุด ของสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน ที่ได้มีการสำรวจความเห็นของสมาชิกนักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุน 26 สำนัก เกี่ยวกับมุมมองของการลงทุน ในช่วงไตรมาสที่ 2-4 ของปี 2566 พบว่า ปัจจัยการเมืองและการเลือกตั้งในประเทศเป็นหนึ่งในปัจจัยบวกที่นักวิเคราะห์มองเห็น นอกเหนือจากปัจจัย ของเศรษฐกิจภายในประเทศ ที่มองว่า ปีนี้จะสามารถเติบโตได้ร้อยละ 3.5 และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดอยู่อยู่ในเกณฑ์ดี คาดว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยสิ้นปีนี้จะขึ้นมาอยู่ที่ 1,707 จุด

 

 

แต่ใช่ว่าตลาดจะมีแต่ปัจจัยบวก เพราะปัจจัยลบที่น่าจับตามองก็ยังคงมีอยู่ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบจากธนาคารในสหรัฐอเมริกาล้ม การถดถอยของเศรษฐกิจโลก และการยุติมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE ของประเทศสำคัญทั่วโลก ยังเป็นปัจจัยที่นักลงทุนต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด

 

 

แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าปัจจัยในประเทศมีน้ำหนักมากกว่าปัจจัยต่างประเทศ ซึ่งนักวิเคราะห์ ได้ฝากไปถึงพรรคการเมือง เกี่ยวกับนโยบายที่จะมีผลบวกต่อภาวะเศรษฐกิจ ว่า จะต้องคุ้มค่ากับงบประมาณ โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาวต้องแยกเป็นการเร่งลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การลงทุนภาครัฐที่ต้องสนับสนุนศักยภาพในการเติบโตของเศรษฐกิจรวมลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นและงดการกู้เงินเพิ่ม

 

 

นอกจากนี้ต้องมีนโยบายในการช่วยเหลือภาคประชาชน ได้แก่ การชะลอการเก็บภาษีหุ้น สนับสนุนการออมเงินและนำกองทุน LTF กลับมาอีกครั้ง รวมถึงต้องมีการหามุมมองใหม่ๆ ในการช่วยดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและขยายตลาดสินค้าไทยเพื่อความยั่งยืนในอนาคต

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube