ประชาธิปัตย์ ปราศรัยใหญ่ลานคนเมือง “จุรินทร์” วอนคนกรุงฯ กลับมาจับมือ ปชป.เดินหน้าประเทศ “ชวน” ชู แคนดิเดท เบอร์ 26 ไม่เป็นสองรองใคร มีความตั้งใจเข้ามาทำการเมือง ไม่ได้มุ่งหวังทำให้ธุรกิจให้ตัวเองมีกำไร
พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งแรก หลังจากที่ได้หมายเลขพรรค และหมายเลขผู้สมัคร โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรค
นายนิพนธ์ บุญญามณี นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง
นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. คณะผู้บริหารพรรค ผู้สมัคร ส.ส. กทม. ทั้ง 33 เขต และผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พร้อมกับมีสมาชิกพรรค ผู้สนับสนุนพรรค และพี่น้องประชาชนเข้าร่วมรับฟังเต็มพื้นที่ด้วยบรรยากาศคึกคัก
โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ขอให้ประชาชนชาวกรุงเทพฯ และชาวไทยทุกคน มาร่วมกันวิถีประชาธิปไตยไม่โกงของพรรคประชาธิปัตย์ และยืนหยัดเลือกประชาธิปัตย์ต่อไปไม่เปลี่ยนแปลง
พร้อมวิงวอนไปยังประชาชน ที่ตีจากพรรคประชาธิปัตย์ ให้กลับมาจับมือกับชาวประชาธิปัตย์ พาประเทศเดินไปข้างหน้า
เพื่ออนาคตที่ดีกว่าของประเทศอย่างยั่งยืนหลังการเลือกตั้ง เพราะการเลือกตั้ง 14 พฤษภาคมนี้ประชาชนไม่มีทางเลือกมาก แต่คนไทยมีทางเลือกทางเดียว คือ เลือกการปกครองในระบอบประชาธิปไตยเต็มใบแบบไม่ทุจริต เพื่อพาประเทศสู่ความสงบเรียบร้อย ไม่ใช่ประชาธิปไตยครึ่งใบ ที่ทำให้ประเทศเผชิญปัญหา อย่างที่ผ่านมาไม่จบสิ้น และหากมีการทุจริตเกิดขึ้นเมื่อใด ก็จะทำให้ประเทศเข้าสู่วงจรรัฐประหาร
นายจุรินทร์ ยังย้ำความเป็นสถาบันทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ชาวกรุงเทพฯ สามารถไว้ใจประชาธิปัตย์ได้ เพราะพรรคฯ ไม่ใช่พรรคการเมืองเฉพาะกิจ ที่ตั้งมาชั่วครั้งชั่วคราวเพื่อเฉพาะการเลือกตั้งเท่านั้น
พร้อมย้ำว่า พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมเข้าสู่สนามการเลือกตั้งแล้ว จึงขอให้ประชาชนเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งคน ทั้งพรรค ทั้งบัตร 2 ใบ โดยบัตรแบบแบ่งเขตขอให้เลือกตามหมายเลขผู้สมัครของพรรคและบัตรบัญชีรายชื่อให้เลือกเบอร์ 26
ด้านนายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และอดีตนายกรัฐมนตรี ปราศรัยปิดท้ายว่า อยากให้ความมั่นใจกับพี่น้องว่า แม้ผลการหยั่งเสียงหรือผลโพลจะออกมาว่า หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คะแนนจะอยู่หลังๆ แต่ความรู้สึกส่วนตัว ในบรรดาบุคคลทั้งหลายที่อยู่ในพรรคต่างๆ ตนเชื่อว่า นายจุรินทร์ ไม่ได้เป็นสองรองใคร และนายจุรินทร์ตั้งใจเข้ามาทำการเมือง
ไม่ได้มุ่งหวังทำให้ธุรกิจตัวเองมีกำไร แต่เข้ามาทำเพื่อบ้านเมือง และจากนี้ไป ตนจะขออนุญาตไปขอพี่น้องไปทั่วประเทศ และ กทม. ว่า นอกจากเลือก ส.ส. เขตแล้ว ช่วยเลือกเบอร์ 26 ด้วย ถ้าพวกเราไม่เลือกเบอร์ 26 ตนก็คงไม่ได้เป็น ส.ส. และสำคัญที่สุดไม่ได้โลภมากถึงขนาดขอให้นายนริศ ขำนุรักษ์ ได้เป็น ส.ส. ด้วย เพราะเขาอยู่ลำดับที่ 98 แต่อย่างน้อยที่สุดก็ขอให้คนเก่ง ๆ ของเราได้เป็น ส.ส.ด้วย
สำหรับในช่วงเริ่มเวทีปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์ คนแรกที่ขึ้นปราศรัยคือ นายธนา ชีรวินิจ ผู้สมัคร ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ เขต พญาไท ดินแดง เบอร์ 9 ซึ่งเป็นอดีต ส.ส. ของพรรคมาแล้ว โดยได้มาให้คำมั่นกับชาวไทยทั้งประเทศว่าการทำงานการเมืองนั้น หากไม่สามารถเดินได้อย่างมีคุณธรรมและถูกต้องได้ถ้านักการเมืองไม่มีอุดมการณ์ทางการเมืองเป็นจุดเริ่มต้น
ด้าน ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง ผู้สมัคร ส.ส. เขตคลองเตย วัฒนา เบอร์ 5 ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้ขึ้นปราศรัยด้วย 3 คำถามก่อนที่จะให้เหตุผลของการเลือกมาลงสมัคร ส.ส.กับพรรคประชาธิปัตย์ว่า พรรคไหนที่มีความคุ้นเคยกับชาวกรุงเทพฯ ผ่านกลไก สข. สก. สส. สว. ผู้ว่าฯ และเครือข่ายมากมาย พรรคไหนที่มีความเป็นสถาบันทางการเมืองสามารถที่จะคงอยู่ เคียงข้างพี่น้องชาวกรุงเทพฯ
มาโดยตลอด ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร พรรคไหนที่ทุก ๆ คน สมาชิกพรรคทุกคนสามารถจะพูดในสิ่งที่เชื่อ สามารถจะเสนอนโยบายในสิ่งที่เชื่อ โดยไม่ต้องโดนนายทุนครอบงำ ซึ่งทุกคำตอบคือพรรคประชาธิปัตย์ และนั่นเป็นเหตุผลที่ตนตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตคลองเตย วัฒนา เพื่อจะผลักดันนโยบายต่าง ๆ คู่กับสถาบันทางการเมืองอย่างพรรคประชาธิปัตย์
ส่วน นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. ปราศรัยว่า ทุกชนชาติ สิ่งที่ผู้นำจะมอบเป็นมรดกแก่ลูกหลานที่ดีที่สุด คือ การศึกษาที่ดีที่สุด วันนี้ยุทธศาสตร์สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติด้วยการศึกษาของพรรคประชาธิปัตย์ จะมาสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ลูกหลานของประเทศนี้ เพราะการศึกษาไทย คือ ลมหายใจ การศึกษาไทย คือ ดีเอ็นเอของพรรคประชาธิปัตย์ ถึงเวลาที่ประเทศไทยจะเป็นไทยแลนด์เวฟ ด้วยนโยบายเด็กไทยทุกคนจะได้ดื่มนมโรงเรียนฟรีตลอด 365 วัน
รวมถึงเด็กไทยทุกคนจะต้องได้เรียนปริญญาตรีฟรีทุกคน หากพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล โดยในปีแรกจะเรียนฟรีในสาขาที่ตลาดต้องการ เพื่อให้เด็กไทยทุกคน เก่ง ฉลาด และมีสุขภาพดี และมั่นใจว่า นโยบายเรียนฟรีจะได้เป็นสวัสดิการขั้นพื้นฐานของลูกหลานทุกคนในอนาคต
ขณะน.ส.วทันยา ปราศรัยว่า พรรคประชาธิปัตย์ โดยได้ตั้งคำถามว่า 17 ปีที่ผ่านมาบนความขัดแย้งชีวิตเรามีอะไรดีขึ้นบ้างหรือไม่ แล้วทุกคนเหนื่อยหรือไม่ แต่ตนนั้นเหนื่อยใจทุกครั้งที่เจอคำถามจากลูกๆถึงคุณภาพชีวิต ฟังแล้วรู้สึก เหนื่อยใจ เสียใจ เพราะเรารู้ว่าปัญหาอยู่ตรงไหน เพราะการเมืองไทยวนเวียนอยู่กับความขัดแย้ง เป็นวงจรอุบาทว์ ทำให้การพัฒนาระบอบประชาธิปไตยไม่เคลื่อนที่ไปไหน วนเวียนซ้ำแบบเดิม วันนี้เราถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราต้องเปลี่ยน เราเริ่มต้นเปลี่ยนได้ด้วยการเลือกตั้ง
โดยเข้าไปเลือก ส.ส.ที่เขาเห็นประชาชนเป็นที่ตั้ง เลือก ส.ส.ที่เข้าไปทำงานเป็นปากเป็นเสียงให้พวกเราได้อย่างแท้จริง ส.ส. ที่ถูกประมูลตัว ขายอุดมการณ์ ขายจิตวิญญาณ ตั้งแต่เลือกตั้งเห็นเงินเป็นที่ตั้ง เข้าไปในสภาแล้วเขาจะเห็นหัวประชาชนหรือไม่ เขาจะเข้าไปกอบโกยประโยชน์ ไม่ทำงาน มัวแต่วิ่งหาอำนาจ และประโยชน์ของตัวเอง แต่วันนี้ที่หน้าศาลาว่าการ กทม.แห่งนี้ ไม่ใช่กับ ส.ส. ของพรรคประชาธิปัตย์แน่นอน เพราะ ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มี ส.ส.ที่มาจากการประมูลตัว แต่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์มาจากความตั้งใจและอุดมการณ์เพื่อประชาธิปไตย เพื่อประชาชน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews