@ไม่แต่ความพยายามถอดรหัสใน “สัญญาณ” ที่ถูกส่งผ่านบรรดาทีมงานตัวตึง ระดับผู้นำ
จากทั้ง“พรรคน้อง” รวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และ “พรรคพี่” พลังประชารัฐ (พปชร.) ไล่ตั้งแต่ หัวหน้าตุ๋ย“พีระพันธ์” จากรทสช.มาถึง “เสี่ยโอ๋” ชัยวุฒิมาถึง “ไพบูลย์” พปชร.ไม่นับรวม “แรมโบ้” กับการหันมาดุดันไม่เกรงใจใคร ในการนำเสนอประเด็นความมั่นคงชาติสถาบันฯ ตั้งแต่การไล่คนไปอยู่ต่างประเทศถึง ตอบโต้นโยบายการยกเลิกการเกณฑ์ทหารของบางพรรคคนละขั้ว จนมาถึงปมการแก้ ม.112และการแจกเงินดิจิทัลหมื่นบาทของ “เศรษฐา” เพื่อไทย ที่สั่นกระเพื่อม การหาเสียงของหลายพรรคถึงขนาดมีรายงานผลเรตติ้งพุ่งผ่านโพลลับพรรคว่าอาจทะลุเกินเป้า ดับเบิ้ลแลนด์สไลด์ 310 ที่กลายเป็นข้อเหตุข้ออ้างตำหนิ ที่ยืนยันจาก “ไพบูลย์” ว่าผู้ใหญ่ของพรรค รับรู้การออกมาประกาศ ไม่ร่วมดีลข้ามขั้วกับเพื่อไทย ก้าวไกล
@ ยิ่งมาปรากฏอาการ เออ ออ ห่อหมก จาก “ลุงป้อม” กับแนวของ “ไพบูลย์” ช่วงแรก แม้หลังจากนั้นจะออกตัวผ่าน รายการ สรยุทธ (12 เม.ย.) ยืนยัน เป็นแค่ความเห็นส่วนตัว “ไพบูลย์” ถ้านโยบายไม่ตรงกัน-รับได้ไม่ได้ไปว่ากันหลังรู้ผลเลือกตั้ง แต่ก็ย้ำหนักแน่น จุดยืน พปชร.ไม่แตะต้อง ม.112 สอดรับกับทั้ง “สันติ-ผู้กองนัส”ที่มาทรงเดียวกันก่อนหน้า ที่ทำให้มีการวิเคราะห์ถึงแนวการจับขั้วพรรครัฐบาลเดิม พปชร.,รทสช.,ภท.,ปชป.และรวมถึงปรากฏการณ์ การขยับของนักร้อง คดียุบพรรค 2-3 พรรคจาก 2 ขั้ว ปลายสัปดาห์ก่อน มาถึงปฏิกิริยาไม่ร่วมเฟรมของ ลุง 2 ป.วันรดน้ำสงกรานต์ มาสู่ช็อตที่ “ลุงป้อม” พูดถึงความสัมพันธ์ 3 ป. ทางการเมืองและการแสดงความมั่นใจ ถ้าเป็นนายกฯ คงไม่มีใครมารัฐประหารตนแน่
@ ที่อาการของ พปชร.ถูกมองไปถึง ดีลสองหน้า ตามธีม ก้าวข้ามความขัดแย้ง ที่สามารถแตะร่วมได้ทั้ง 2 ขั้วแต่ก็ถูกมองถึงความไม่ชัดของเพื่อไทย กับท่าทีการดีลข้ามขั้ว แม้จะถูกคาดคั้นความชัดเจน ทั้งจากพรรคฝ่ายประชาธิปไตยมาตลอด เช่นเดียวกับ พปชร.ที่มีตัวประกันคนใกล้ชิดมืองานของลุงป้อม เป็นปาร์ตี้ลิสต์อันดับต้นๆในเพื่อไทย กระทั่งมีการวิเคราะห์ไปถึงแนวทางแยกกันเดินรวมกันตี ที่อย่างไรก็ตัดกันไม่ขาดของ 2 ป.ที่สุดท้ายปลายทาง ยังมีอาวุธลับ องค์กรตามรัฐธรรมนูญ 60 ทั้ง ส.ว. 250 และ พ.ร.บ.แผนยุทธศาสตร์ชาติ ที่จะมีผลต่อรัฐบาลหลังเลือกตั้งหากนายกฯไม่ใช่ลุงตู่ ไม่นับรวมที่ ส.ว.บางราย เคยพูดทำนองชนะเลือกตั้งแต่ต้องฝ่าด่าน ส.ว.ตั้งนายกฯและอาจเจอรัฐประหาร
@อย่างที่ ไพศาล อดีตกุนซือรองนายกฯ โพสต์ FB ว่าเมื่อวานก่อนสงกรานต์ มีคำสั่งย้ายนายทหารคุมกำลังยานเกราะสไตเกอร์ 3 หน่วยสำคัญในพื้นที่ภาคตะวันออก ซึ่งเป็นสายตรงของฝ่ายอำนาจ ทำให้เกิดความงุนงงสงสัยกันโดยทั่วไปถ้าเป็นการย้ายเพราะสาเหตุไปกินข้าวกับ นายสุชาติ ตันเจริญ ตามที่เป็นข่าวในสื่อสำนักหนึ่ง ก็แสดงว่า นายสุชาติ ตันเจริญมากด้วยน้ำใจต่อผู้คน จึงอาจแปรพักตร์เอื้อเฟื้อช่วยเหลือพรรคเพื่อไทย สะท้อนว่า การเลือกใช้คนผิดพลาด ต้องด้วยลักษณะปราชัยตั้งแต่ต้นแต่ถ้าเป็นการย้ายเพราะสาเหตุ เติมน้ำมันรถถังผิดเวลา หรือหันหน้ารถถังผิดทิศจากด้านเขมรมากรุงเทพฯ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
@กองเชียร์ลุงโหมปั่นกระแสตั้งรัฐบาลขั้วอำนาจเก่า รทสช+พปชร.+ภท.และ ปชป. แต่ถูกดับกระแสเพราะข่าวการเหยียบเท้ากันของสองเสธ. 2 ฝ่ายในภาคเหนือ ดังนั้นข่าวการจัดตั้งพันธมิตรขั้วที่3 รวม6พรรคตามที่ลุงป้อมประกาศเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลและพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 จึงยังเป็นข่าวเต็งหนึ่งเหมือนเดิม ลุงป้อมออกโรงให้สัมภาษณ์ แก้ข่าวสับสนด้วยตนเองว่าการร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยนั้น ต้องมีนโยบายตรงกันและ พปชร.จะไม่ร่วมแก้ไข มาตรา 112 ซึ่ง พท.ก็ยืนยันนโยบายนี้เช่นเดียวกัน ดังนั้นแผนสะกัด พปชร.ร่วมรัฐบาลกับพท.ก็คงล้มไปตามระเบียบ!!!
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
