“ธรรมนัส”ช่วยหาเสียงเชียงราย ทั้งที่ตาซ้ายเจ็บ ย้ำตั้งใจมุ่งมาพบชาวแม่สรวย – แม่ลาว ฝากนโยบายสำคัญ ก้าวข้ามความขัดแย้ง ผลักดัน พ.ร.บ.ลำไย ให้เป็นรูปธรรม
พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดเวทีปราศรัยหาเสียง ณ บริเวณศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ต.แม่พริก อ.แม่สรวย จ.เชียงราย นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 เบอร์ 6 จังหวัดพะเยา พปชร.และในฐานะประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคเหนือ พร้อมด้วยนายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะกรรมการบริหารพปชร.ร่วมขึ้นปราศรัยนโยบายพรรค พร้อมผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดเชียงรายประกอบด้วย เขต 1 นายศรัณย์พัส ศรีสวัสดิ์ เบอร์ 7 เขต 2 นางวันดี ราชชมภู เบอร์ 7 เขต 3 พ.ต.อ.รัฐพล น้อยช่างคิด เบอร์ 5 เขต 4 นายเกียรดิศักดิ์ อุดขา เบอร์ 8 เขต 5 นายพันธวัช ภูผาพันธกานต์ เบอร์ 2 เขต 6 นายระพิน เตมียะ เบอร์ 3 และ เขต 7 นายบุญเกิด ร่องแก้ว เบอร์ 10 โดยมีประชาชนกว่า 5,000 คนมาร่วมฟังการปราศรัย บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
โดยร.อ.ธรรมนัส นำคณะผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดเชียงราย ไปสักการะศาลสมเด็จพระนเรศวรเพื่อน้อมรำลึกถึงพระ มหากรุณาธิคุณของพระนเรศวรมหาราช และเพื่อความเป็นสิริมงคลเอาฤกษ์เอาชัยในการเลือกตั้ง ส.ส.ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 นี้ ได้กล่าวทักทักทายกับประชาชน ช่วงหนึ่งว่า ผมมาด้วยสภาพร่างกายพร้อมทุกส่วน ยกเว้นตาซ้าย ที่ต้องปิดตาซ้ายข้างหนึ่ง จากสาเหตุที่วันก่อนขี้นรถแห่ปราศรัยหาเสียงที่พะเยาช่วงมืดค่ำ ทำให้แมลงบินเข้าตา ซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรดทำให้ตาแดงอักเสบ หมอบอกว่าเยื่อบุตาขาด ต้องพักรักษาอาการ แต่จะทำอย่างไรได้เมื่อได้รับปากผู้สมัคร ส.ส.เชียงรายทุกคน โดยเฉพาะเขต 3 และเขต 6 ไว้แล้วก็ต้องมาให้ได้ด้วยความห่วงใย
ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวต่อว่า ในช่วงเวลาปฎิวัติรัฐประหารปี พ.ศ.2549 และ ปี พ.ศ.2557 รวมกว่า10ปีแล้ว เป็นอุทาหรณ์ให้คนไทยเราได้เห็นว่า การแบ่งแยก ขัดแย้ง เป็นสีต่าง ๆ ทำให้ถูก ฝ่ายการเมืองและผู้มีอำนาจไม่หวังดีฉวยเอาไปใช้ประโยชน์เป็นเครื่องมือในการหาเสียง สร้างความแตกแยกเข้ามาหาผลประโยชน์ ในขณะที่ตนเองก็ได้รับผลกระทบถูกคุมขัง และอายัดทรัพย์ในช่วงเวลาหนึ่ง ไม่นับรวมประชาชนที่ได้รับผลกระทบแตกต่างกันไป
มาวันนี้จึงมาบอกทุกท่านว่า พรรคพลังประชารัฐ ภายใต้การนำของท่านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มีหลักยึดชัดเจนคือก้าวข้าวความขัดแย้ง เพื่อให้ประชาชนมีความรักสามัคคีกัน ซึ่งจะนำไปสู่ความมั่นคงของชาติบ้านเมือง วันนี้ ณ สถานที่แห่งนี้ ซึ่งสมเด็จพระนเรศวร ประกาศอิสระภาพจากพม่า ตนเองจึงเห็นสำคัญที่พรรคฯ ได้มาประกาศนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้ง ดังกล่าวด้วย
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องใกล้ตัวอีกเรื่องคือ คนเมืองเหนือ 8 จังหวัดจะอู้ว่า ภาคใต้มียางพารา อีสานมีข้าว มีอ้อย มีสำปะหลัง ตะวันออกคือ ยางพารา ปาล์ม ภาคเหนือเราคือลำไย ถามว่า ทุกผลไม้และพืชเศรษฐกิจของทุกภาคมีพรบ.รองรับแก้ปัญหาต่างๆ แล้วหรือไม่ คำตอบคือมีแล้ว ขณะที่ลำไยของเรา ยังไม่มี แบบนี้น่าเจ็บใจมั๊ยครับ เวลานี้ผลผลิต ลำไย ถูกพ่อค้าคนกลางเป็นผู้กำหนดเกรดเอ บี อะไรต่างๆ สร้างความเดือดร้อนคนเหนือเรา ขณะที่ นักการเมืองส่วนใหญ่เงียบกริบไม่มีใครเอ่ยปากจะช่วยเหลือ มีเพียงผม พี่บุญสิงห์ และดร.ธนสาร ที่ผลักดันเยียวยาช่วยเหลือลำไยไร่ละ 2 พัน ไม่น้อยกว่า 25 ไร่ ผมจำได้ว่าเคยมามอบที่ เชียงรายด้วย ดังนั้นจึงยืนยันจะผลักดันให้มี พ.ร.บ.ลำไย เป็นรูปธรรมทันทีที่ได้เป็นรัฐบาลครับ
จากนั้น นายบุญสิงห์ ได้ปราศรัยถึงนโยบายต่างๆ ของพรรค และสานต่อบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งจะเพิ่มเป็น 700 บาท เพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันได ตั้งแต่อายุ 60 ปี เพิ่มเป็นจำนวน 3,000 บาทต่อเดือน อายุ 70 ปี ขึ้นไป เพิ่มเป็นจำนวน 4,000 บาทต่อเดือน และอายุ 80 ปีขึ้นไป เพิ่มเป็นจำนวน 5,000 บาทต่อเดือน และยังมีเงินประกันชีวิต 2 แสนบาทด้วย นอกจากนี้ ยังแก้ปัญหาลดภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ทั้งราคาแก๊สหุงต้ม ต่างๆ แก้ปัญหาที่ดินทำกิน โดยผลักดันเปลี่ยนส.ป.ก.เป็นโฉนด และ ค.ท.ช.เปลี่ยนเป็นส.ป.ก. ตามเป้าหมาย “มีเรา ไม่มีแล้ง มีน้ำ ไม่มีจน”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews