Home
|
ภูมิภาค

“พี่เต้” ควบมอเตอร์ไซด์ พา “มาดามอ้อ” ศรีภรรยาสุดที่รัก ช่วยหาเสียง

Featured Image
“พี่เต้” ควบมอเตอร์ไซด์ พา ‘มาดามอ้อ’ ศรีภรรยาสุดที่รัก ช่วยหาเสียงที่ตลาดบางซ่อน เขตบางซื่อ เผยบรรยากาศแข่งขันรุนแรง หลังเกิดขบวนการสกัดกั้นไม่ให้ ‘มาดามอ้อ’ ได้ประชาสัมพันธ์กับประชาชนในเขตเลือกตั้ง ประกาศสู้ต่อไปเพื่อพาเข้าสภา พร้อมเสนอนโยบายแก้ไขปัญหาราคาพลังงานอย่างเป็นระบบ เพื่อลดค่าครองชีพของประชาชน

 

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ลงพื้นที่ที่ ตลาดบางซ่อน เขตบางซื่อ เพื่อช่วยนางสาวพัทธนันท์ ฤทธิ์ชัยเรืองเดช หรือ มาดามอ้อ ผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพมหานคร เขต 7 (เขตบางซื่อ และเขตดุสิต เฉพาะแขวงถนนนครไชยศรี) หมายเลข 11 หาเสียงสนับสนุนในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยนายมงคลกิตติ์ สวมบทพ่อบ้านขี่มอเตอร์ไซด์ พานางสาวพัทธนันท์ มาจ่ายตลาดเหมือนกับประชาชนทั่วไป ซึ่งมีพ่อค้าแม่ค้า วินมอเตอร์ไชค์ ประชาชนในพื้นที่ ต่างเข้ามาทักทาย พร้อมให้กำลังใจนายมงคลกิตติ์ และนางสาวพัทธนันท์ เป็นจำนวนมาก

 

 

โดยนายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ที่ตนลงมาช่วยหาเสียงให้กับ นางสาวพัทธนันท์ หลังจากที่ช่วงที่ผ่านมา ได้ลงพื้นที่ในภาคใต้หลายจังหวัด และเป็นช่วงเวลาที่ตนจะต้องไปดีเบตทางสื่อต่างๆ หลายช่องทาง จึงมีเวลาที่จะช่วย นางสาวพัทธนันท์หาเสียง โดยขณะนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่เลยครึ่งทางมาแล้วนั้น นอกจากจะย้ำถึงความสำคัญของพรรคไทยศรีวิไลย์ ที่จะต้องได้ ส.ส. ในเขตเลือกตั้งดังกล่าวให้ได้ เพราะถือเป็นกล่องดวงใจที่จะต้องพาเข้าสภาฯ เพื่อมาช่วยเป็น ส.ส. ของพรรคฯ ในสภาผู้แทนราษฎร ในการผลักดันนโยบายต่างๆ ให้กับประชาชนได้ประโยชน์แล้ว

 

 

ยังถือเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงสถานการณ์การแข่งขันภายในเขตเลือกตั้งนี้ ที่มีความรุนแรงเป็นอย่างมาก โดยเท่าที่ทราบขณะนี้ มีขบวนการสกัดกั้นไม่ให้ นางสาวพัทธนันท์ ได้ประชาสัมพันธ์ตรงถึงประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในพื้นที่ เช่น มีการเก็บเอาป้ายหาเสียงออกจากพื้นที่ มีการสั่งให้นิติบุคคลของอพาร์ตเมนต์ต่างๆ ไม่ให้รับโบร์ชัวร์ประชาสัมพันธ์ของ นางสาวพัทธนันท์ และพรรคไทยศรีวิไลย์ เป็นต้น ดังนั้น ตนจึงต้องลงมาเดินขอคะแนนจากประชาชนในเขตเลือกตั้งด้วยตนเอง โดยจะขอโอกาสให้กับ นางสาวพัทธนันท์ ซึ่งเป็นคนที่อยู่ในพื้นที่มานานกว่า 20 ปี ตั้งแต่เรียน แต่งงาน สร้างครอบครัว และทำงานให้ชาวบ้านมาตลอด เข้าไปในสภาฯ พร้อมกับนโยบายต่างๆ เช่นปัญหาปากท้องของประชาชน

 

 

ซึ่งมีนโยบายที่จะอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ 150,000 บาท ต่อครัวเรือน ซึ่งมีอยู่ 22 ล้านครัวเรือน โดยเงินส่วนหนึ่งจะมาจากการเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อนคาสิโน ซึ่งก่อนอื่นจะมีการปิดบ่อนที่ผิดกฎหมาย แต่เป็นที่รับรู้ของชาวบ้านโดยทั่วไป ซึ่งในเขตกรุงเทพมหานครมีอยู่ 50 กว่าบ่อน และมีบ่อนออนไลน์ของทุนต่างประเทศที่มีการเปิดเซิฟเวอร์ที่ชายแดนในประเทศต่างๆ รอบประเทศไทย แล้วเจ้าของบ่อนก็จะต้องแสดงความจำนงที่จะร่วมทุนกับรัฐบาลในการดำเนินกิจการต่อไป ซึ่งทางรัฐจะมีการแบ่งปันผลประโยชน์อย่างเป็นธรรม

 

 

รวมทั้งขณะนี้ที่มีปัญหาเรื่องค่าไฟที่สูงเกินจริง ดังนั้น ทางพรรคฯ จึงได้นโยบายที่ช่วยบรรเทาปัญหาอย่างยั่งยืน เช่น การซื้อหุ้น ปตท คืนเป็นของรัฐ 100% เพราะในอดีตที่ผ่านมา การตั้ง ปตท. ขึ้นมา เพื่อเป็นการดูดซับความเดือดร้อนของประชาชน แต่ในปัจจุบันที่มีการแปรรูปเป็นบริษัทจำกัด มานานเกือบ 20 ปีนั้น กลายเป็นว่า ต้องมีหน้าที่ในการหากำไร ตามวิถีปกติทางการค้า ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนเป็นอย่างมาก ซึ่งหากมีการซื้อคืนกลับมาเป็นของรัฐ 100 % รัฐก็จะสามารถกำหนดราคาตามสถานการณ์และความจำเป็นของประชาชน การยกเลิก ซื้อไฟฟ้า ส่วนเกินจาก เจ้าสัวพลังงาน 15,000 เมกะวัตต์ พร้อมจะดำเนินการยกเลิกสัญญาซื้อไฟฟ้าจากเอกชนรายใหญ่ เพราะปัจจุบันประเทศไทยมีไฟฟ้าเกินอยู่ 19,000 เมกะวัตต์

 

 

เพื่อลดค่าไฟฟ้าให้ประชาชน ซึ่งจะเสริมกับนโยบายเดิมของพรรคที่มีอยู่แล้ว คือ การงดเก็บภาษีค่าน้ำมันเบนซีน-ดีเซล ทำให้ราคาน้ำมันทั้ง 2 ชนิดไม่เกิน 25 บาท/ลิตร ก๊าซหุงต้ม 15 กก. ไม่เกิน 350 บาท และพร้อมที่จะ แทรกแซงราคาไฟฟ้า ให้เก็บไม่เกินหน่วยละ 4 บาท ซึ่งเชื่อว่า จะทำให้ค่าครองชีพลดลง ซึ่งจะได้เห็น ราคาข้าวราดแกง 2 อย่าง 30 บาท บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 5 บาท ค่าโดยสารรถเมล์ร้อน 5 บาท รถเมล์ปรับอากาศเริ่มต้น 10 บาท และราคาสินค้าที่มีความจำเป็นต่อประชาชนก็จะมีราคากลับไปเหมือนอย่างในอดีตที่ผ่านมาด้วย

 

 

“ผมมีความมั่นใจว่า เขตนี้พรรคไทยศรีวิไลย์ จะมีโอกาสชนะสูง เพราะผมอยู่บางซื่อมาตั้งแต่อายุ 15 ปี และมีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ซึ่งเป็นสถาบันอันเป็นที่รักยิ่ง ในช่วงที่ผ่านมาครึ่งทางมาได้หน่อย ภาษาทางการกีฬาเขาบอกว่า เป็นช่วงที่เริ่มเห็นรางๆ ว่า ใครมีแรงที่จะไปต่อ หรือใครที่เริ่มจะถอดใจไปแล้ว ซึ่งผมบอกได้เลยว่า ผมกับมาดามอ้อ พัทธนันท์ มีแรงไปต่อในสนามการเลือกตั้งอย่างแน่นอน ถึงแม้จะมีการสกัดกั้นหรือมีการใช้วิชามารในรูปแบบต่างๆ ก็ตาม

 

 

ซึ่งผมก็จะเดินหน้าหาเสียงให้กับมาดามอ้อและพรรคไทยศรีวิไลย์ต่อไป ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กระแสของพรรคไทยศรีวิไลย์และตัวผู้สมัครในแต่ละพื้นที่ ได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชน จนกระทั่งมีโอกาสที่จะได้ที่นั่ง ส.ส. เพียงพอที่จะสามารถกำหนดว่าขั้วไหนเป็นรัฐบาลได้ ดังนั้น การที่ผมมาช่วยหาเสียงให้กับมาดามอ้อในวันนี้ เป็นการนำทัพเพื่อให้ประชาชนเห็นว่า พรรคไทยศรีวิไลย์จะยืนหยัดต่อสู้ในสนามเลือกตั้ง โดยไม่หวั่นไหวกับการสกัดกั้นหรือการเล่นนอกกติกา เพราะเชื่อว่า คนที่เล่นนอกกติกาจะพ่ายแพ้เสียงบริสุทธิ์ของประชาชนอย่างแน่นอน” นายมงคลกิตติ์กล่าว

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube