อาการหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ บ่อยครั้งมักเกิดจากการเจอเรื่องตื่นเต้น อยู่ใกล้คนที่ชอบ หรือได้ใกล้ชิดกับศิลปินในฝัน แต่หากอาการนี้เกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุ ไม่มีสิ่งเร้า ไม่มีเรื่องตื่นเต้น ต้องระวัง! เพราะอาการหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะอาจกำลังส่งสัญญาณเตือนว่าร่างกายคุณมีความผิดปกติบางอย่างอยู่ก็เป็นได้ ส่วนจะมีสาเหตุมาจากอะไรได้บ้างนั้น สามารถพบคำตอบได้ที่บทความนี้เลย
อาการหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะเป็นอย่างไร?
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ หมายถึง การเต้นของหัวใจที่ไม่เป็นจังหวะตามธรรมชาติ สามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิดใหญ่ ๆ ด้วยกัน ได้แก่ หัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ และหัวใจเต้นช้ากว่าปกติ เป็นภาวะที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของกระแสไฟฟ้าในหัวใจ หรือห้องหัวใจเกิดไฟฟ้าลัดวงจร การสูบฉีดเลือดไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกายจึงไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ส่งผลให้มีความเสี่ยงการเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวหรือหลอดเลือดสมองอุดตันเพิ่มมากขึ้น ซึ่งล้วนแต่เป็นภาวะที่อันตรายถึงชีวิตทั้งหมด
สำหรับผู้ที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ มีทั้งผู้ที่ไม่มีอาการอะไรหรือมีอาการผิดปกติเล็ก ๆ น้อย ๆ โดยอาการที่เราสามารถสังเกตได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง ได้แก่ วิงเวียน หน้ามืด ตาลาย ใจสั่น หายใจขัด เจ็บหรือแน่นหน้าอก และเป็นลมหมดสติ โดยวิธีการตรวจวินิจฉัยก็สามารถทำได้หลากหลาย เช่น การตรวจคื่นไฟฟ้าหัวใจ การตรวจคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูง และการตรวจระบบการนำไฟฟ้าภายในหัวใจ
ความเสี่ยงปัญหาสุขภาพจากอาการหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
แล้วการที่ร่างกายเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ไม่ว่าจะเป็นเต้นเร็วกว่าปกติหรือเต้นช้ากว่าปกติ น่ากลัวอย่างไร ร่างกายกำลังจะบอกอะไรกับเรา นี่คือสาเหตุการเกิดภาวะหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะที่ทุกคนควรรู้ เพื่อจะได้รับการรักษาได้อย่างทันท่วงที
- โครงสร้างของหัวใจผิดปกติ เช่น กล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติแต่กำเนิด ลิ้นหัวใจรั่ว หลอดเลือดหัวใจตีบ
- ร่างกายผิดปกติและส่งผลต่อหัวใจ เช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เบาหวาน ไทรอยด์เป็นพิษ
- ผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางชนิด
- มีความเครียดและความวิตกกังวลจากเรื่องบางอย่าง
สำหรับวิธีการรักษาอาการนี้ก็มีอยู่หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยา การใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจ การฝังเครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจ ซึ่งจะใช้วิธีไหน ก็ขึ้นอยู่กับอาการและการวินิจฉัยของแพทย์ผู้ทำการรักษานั่นเอง
แม้ว่าภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะจะไม่สามารถป้องกันได้แบบ 100% แต่เราก็สามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายเป็นประจำ และตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดโอกาสการเจ็บป่วยและปัญหาสุขภาพด้านอื่น ๆ ได้แล้ว
