คนรุ่นใหม่เชียงใหม่ ร้องเพื่อไทยขอมีส่วนร่วมแผนพัฒนา แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ด้าน “เศรษฐา” ขานรับ ชี้ ประเทศบอบช้ำ ล้าหลังมามาก ถึงเวลามืออาชีพ
พรรคเพื่อไทย นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมนพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะทำงานด้านนโยบาย พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย, นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ที่ปรึกษาคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย, นายพิชัย นริพทะพันธ์ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย, นายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรคเพื่อไทย และกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย, น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และรักษาการโฆษกพรรคเพี่อไทย, น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย
พร้อมทั้งผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ได้แก่ นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ และน.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ร่วมหารือ แลกเปลี่ยน แนวคิดด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ กับตัวแทนผู้ประกอบการ นักธุรกิจท้องถิ่น จังหวัดเชียงใหม่ รวม 40 องค์กร เช่น สภาหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ , สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ , คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) จังหวัดเชียงใหม่, คณะกรรมร่วมภาคเอกชน (กกร.), กลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ (YEC), สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย จังหวัดเชียงใหม่, กลุ่มผู้ประกอบการรถตู้ จังหวัดเชียงใหม่, สมาพันธ์มัคคุเทศก์ เป็นต้น
ที่โรงแรมวินทรี อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้แลกเปลี่ยนข้อเสนอแนะในหลายประเด็น หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล เช่น สภาหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ เสนอให้มีการขับเคลื่อนการจ้างงานในกลุ่มประเทศสมาชิกเออีซี 10 ประเทศ เพื่อลดปัญหาการขาดแคลนแรงงาน พร้อมทั้งเสนอให้เชียงใหม่มีสนามบินนานาชาติ มีการจัดการขยะที่ดีขึ้น ควรเพิ่มระบบขนส่งมวลชนหลัก เช่น รถไฟฟ้า เพื่อลดรายจ่าย และเพิ่มพื้นที่สีเขียว
กลุ่ม YEC เสนอให้รัฐบาลเพื่อไทย นำผู้ประกอบการคนรุ่นใหม่เข้าร่วมวางแผนเศรษฐกิจกับรัฐบาล เพื่อให้ได้นโยบายและแนวคิดใหม่ๆ รวมเข้ากับความเป็นมืออาชีพ, ผู้แทนจาก กกร.เชียงใหม่ เสนอว่า จังหวัดเชียงใหม่ถูกหยุดการเจริญเติบโต ถูกแช่แข็ง ถูกลืม ไม่มีโอกาสอื่นๆ จึงเสนอให้นำแนวคิด ‘ผู้ว่าซีอีโอ’ ในสมัยรัฐบาลไทยรักไทย โดย ดร.ทักษิณ ชินวัตร กลับมาอีกครั้ง เพื่อให้เอกชน ร่วมกันตัดสินใจงานบางอย่างร่วมกันกับผู้ว่าราชการจังหวัด, ตัวแทนจากสมาพันธ์เอสเอ็มอี เห็นด้วยกับนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต
ซึ่งจะช่วยกระจายรายได้ไปสู่ชุมชน และอยากให้รัฐบาลเพื่อไทย กระตุ้นจีดีพีเอสเอ็มอี ให้มีสัดส่วนต่อจีดีพีทั้งประเทศให้มากขึ้น จากเดิมอยู่ที่ 35% ของจีดีพีทั้งประเทศ ขณะที่เกาหลีจีดีพีเอสเอ็มอีอยู่ที่ 50% ของจีดีพีรวมทั้งประเทศ รวมทั้งอยากให้กระตุ้นจีดีพีภาคเหนือให้มากขึ้น จากเดิมอยู่ที่ 10% ของจีดีพีรวมทั้งประเทศ เพื่อกระจายรายได้ที่กระจุกตัวอยู่ที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ซึ่งมีจีดีพีรวมกันอยู่ที่ 45-50% ต่อจีดีพีรวม หากทำได้จะช่วยสร้างความเจริญ ลดความเหลื่อมล้ำให้เชียงใหม่ได้ รวมทั้งขอให้แก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจของเอสเอ็มอีด้วย
ด้านนายเศรษฐา กล่าวว่า เชียงใหม่ เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพ ที่ยังไปได้อีกไกล หลายอย่างในจังหวัดถูกดองเค็ม ทั้งที่มีความพร้อมทุกด้าน ทั้งมหาวิทยาลัย และโครงสร้างพื้นฐานที่มีความพร้อมแล้ว หลายข้อเสนออย่างแนวคิดผู้ว่าซีอีโอ เป็นแนวคิดที่สอดคล้องกับการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดในจังหวัดที่มีความพร้อม
ซึ่งเชียงใหม่มีความพร้อมทุกด้าน โดยจะมีการกำหนดเคพีไอการทำงานผลักดันท้องถิ่น ไม่ใช่มาแค่ปกครอง แต่ต้องมาสนับสนุน เพราะเชียงใหม่เป็นเมืองท่องเที่ยว เมืองเศรษฐกิจ ซึ่งประเทศไทยจำเป็นต้องเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เรามั่นใจว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล เราจะจัดการให้ชัดเจน ใส่จิตวิญญาณความเป็นซีอีโอให่กับผู้ว่าราชการจังหวัด และร่วมผลักดันทุกเรื่องที่เป็นประโยชน์กับพื้นที่
ทั้งนี้เมื่อครั้งที่รัฐบาลพรรคไทยรักไทย ชนะการเลือกตั้งแลนด์สไลด์ครั้งแรก ได้ ส.ส.เข้าสภา 377 เสียง ได้นายกรัฐมนตรี ดร.ทักษิณ ชินวัตร ที่มีวิสัยทัศน์แบบซีอีโอ เข้าใจบริบทการทำงานร่วมกันในทุกกระทรวง การเดินทางปราศรัย และลงพื้นที่รวมกว่า 40 จังหวัด ในช่วงที่ผ่านมา พบว่าปัญหาเล็ก ๆ ที่ส่งผลกระทบอย่างยิ่งใหญ่สามารถแก้ปัญหาได้
เช่น จังหวัดน่าน เป็นเมืองคู่ขนานกับหลวงพระบาง เมืองมรดกโลก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งสามารถผลักดันน่านให้เป็นเมืองคู่ขนานกับหลวงพระบางได้ และหากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลต้องดูแลกระทรวงที่ถูกต้อง ผลักดันนโยบายให้ได้อย่างมีนัยยะ อยากให้เชียงใหม่เป็นเมืองแห่งโอกาสเหมือนสมัยรัฐบาลไทยรักไทย พรรคเพื่อไทยอยากกลับไปผลักดันนโยบายดี
นายเศรษฐา ยังเห็นด้วยกับข้อเสนอให้รัฐบาลส่งเสริมการติดแผงโซลาร์เซลล์ โซในครัวเรือน โดยหากสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ในบ้านและที่เหลือขายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ก็ปรับเป็นการไฟฟ้าที่เหลือให้หักจากยูนิตไฟฟ้าที่ใช้จริงได้ ข้อเสนอนี้อยู่ภายใต้แนวคิดประชาชนเป็นเจ้าของ ประชาชนมีส่วนร่วม ทีมเศรษฐกิจของเรามีพร้อม เรามีความตั้งใจจริง ประเทศของเราบอบช้ำมาเยอะ จีดีพีเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน เราน้อยกว่าไม่ใช่แค่จุดสองจุด แต่เป็นเท่า ส่อให้เห็นว่าเราล้าหลังในการพัฒนา
เวลานี้จึงต้องใช้มืออาชีพมาเป็นตัวเปลี่ยนประเทศไทย เราไม่พร้อมลองของใหม่ เราต้องการทีมคุณภาพ เราต้องเลือกตั้งอย่างมีจุดมุ่งหมาย เลือกอย่างมียุทธศาสตร์ กระทรวงท่องเที่ยว คมนาคม คลังมพาณิชย์ อีกหลายกระทรวง ต้องพรรคเพื่อไทย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในอีกไม่ถึงอาทิตย์ ผมเชื่อว่าหากเพื่อไทยได้คะแนนชนะไม่ขาด ไม่ได้รับฉันทามติจากประชาชน การบริหารจัดการจะลำบากมากขึ้น การเดินทางในช่วงที่ผ่านมา เราเดินสายวิงวอนประชาชนเพื่อบอกว่า เราต้องเปลี่ยนแปลงทันที ตนมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยคือพรรคที่มีความพร้อมที่สุดเราพร้อมรับใช้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews