Home
|
ข่าว

“ธนกร” ลั่น ไม่ยกมือให้ “พิธา” เป็นนายกฯ

Featured Image
“ธนกร” ลั่น ไม่ยกมือให้ “พิธา” เป็นนายกฯ ชี้ “เพื่อไทย” ยังมีโอกาส เป็นแกนนำ มั่นใจทุกพรรคคำนึงถึงอันตรายต่อบ้านเมือง พร้อมเตือนแคนดิเดตควรวุฒิภาวะ อย่าพูดเหน็บแนมผู้ใหญ่ส.ว.ก็มีหัวใจ

 

 

 

นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อวานตนได้ขึ้นไปพบ และให้กำลังใจ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี ซึ่งก็อารมณ์ดีไม่มีความเครียดอะไร เราก็ต่างให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลก็เป็นไปตามกลไกไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น

 

 

ส่วนความชัดเจนอนาคตทางการเมืองของพลเอกประยุทธ์ นายธนากร ย้ำว่า เมื่อสุดท้ายแล้วมีการจัดตั้งรัฐบาลได้ พลเอกประยุทธ์ก็คงจะวางมือและพักผ่อน เพราะทำงานให้ประเทศมายาวนาย ตั้งแต่รับราชการทหาร และในช่วงที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็ได้สร้างคุณประโยชน์ความดีให้กับประเทศมากมาย

 

 

ซึ่งตนก็เชื่อว่า ประชาชนคนไทยได้เห็นกับสิ่งที่พลเอกประยุทธ์ทำให้ ไม่ว่าอย่างไร ก็จะอยู่ในใจคนไทยทั้งประเทศ ไม่ได้ไปไหนเลยตลอดระยะเวลา 7-8 ปี แล้วตอนนี้ก็จะมีโอกาส ได้ชวนพลเอกประยุทธ์ไปพักผ่อนบ้าง แต่ยืนยันว่าส่วนตัวจะยังคงอยู่ในเส้นทางการเมือง

 

 

และถ้ามีอะไรก็จะไปปรึกษาท่าน ส่วนพลเอกประยุทธ์จะลาออกจากตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่นั้นตนไม่มั่นใจ แต่ไม่ว่าอย่างไร พรรครวมไทยสร้างชาติก็คงต้องอยู่ต่อไป เพราะมี ส.ส.ถึง 36 คน ดังนั้น การทำงานในพรรคหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค ก็ยังสามารถทำงานด้วยกันได้ ไม่มีปัญหาอะไร ก็ยังทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาลได้

 

 

ทั้งนี้ นายธนกร ฝากไว้ว่าการจัดตั้งรัฐบาลเพิ่งเริ่มต้น ตนเห็นบรรยากาศคนที่เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ควรมีวุฒิภาวะมากกว่านี้ ไม่ควรพูดจาเหน็บแนม หรือกระแนะกระแหน ผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ส.ส.ลูกพรรค ก็ไม่ควรก้าวล่วงหน่วยงานบางหน่วยงาน โดยใช้วาจาที่ไม่เหมาะสม เพราะการเลือกตั้งผ่านมาแล้ว

 

 

ฉะนั้นหน่วยงานทหารต่างๆ ก็ไม่ควรไปกุเรื่องว่า จะเกิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ เพราะว่ามันไม่จริง ซึ่งวันนี้พลเอกประยุทธ์ กำลังจะเป็นรัฐบาลก็ควรมีวุฒิภาวะที่มากกว่านี้ ไม่ควรไปพูดจาว่าร้ายหน่วยงานรัฐ พร้อมย้ำว่าตน พร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้านและให้เกียรติว่าที่รัฐบาล ซึ่งการเมืองก็ควรว่ากันไปไม่ควรสร้างวาทะกรรมให้เกิดความขัดแย้ง โดยฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลทำงานร่วมกันได้ เพียงแต่มีคนละบทบาทหน้าที่

 

 

ทั้งนี้ เมื่อถามย้ำว่า ที่คิดว่าพลเอกประยุทธ์จะวางมือ ภายหลังจากได้รัฐบาลใหม่ใช่หรือไม่ นายธนกร ระบุว่า พลเอกประยุทธ์ ไม่ได้พูดตนแค่คิดเองว่าเมื่อไม่ได้อยู่ในจุดนี้ ก็ควรมีเวลากับครอบครัวเหมือนประชาชนคนไทยปกติ ซึ่งตนได้พูดกับพลเอกประยุทธ์ว่า ยินดีจะทำงานให้ตลอดชีวิต เพราะมีความเมตตากับตน พร้อมย้ำว่า ที่ได้พูดคุยกับพลเอกประยุทธ์ ก็อารมณ์ดีมาก เพราะการเมืองมันเป็นอย่างนี้อยู่แล้วมีแพ้มีชนะ

 

 

อย่างไรก็ตาม นายธนกร ระบุว่า ประชาชนควรให้รัฐบาลใหม่ได้แสดงฝีมือ เพราะเราก็เห็นตัวอย่างมาแล้วในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่ได้รับคะแนนท่วมท้นเหมือนกัน แล้วสุดท้ายเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้นวันนี้ เราต้องให้เกียรติประชาชน เมื่อเลือกพรรคก้าวไกลมาเยอะ ก็ต้องให้เขาแสดงฝีมือบริหารประเทศ นโยบายหลายอย่างก็ทำไป

 

 

สำหรับการจัดตั้งรัฐบาล 310 เสียงจะมีความเข้มแข็งพอหรือไม่ นายธนกร ระบุว่า รัฐบาล 300 กว่าเสียงย่อมไปได้อยู่แล้ว แต่ตนวิเคราะห์ว่ายังพอมีเวลาอยู่ พรรคเพื่อไทยแพ้แค่ 10 เสียงเอง เขาคงให้โอกาสพรรคที่ชนะก่อน เพราะถ้าตั้งไม่ได้พรรคอันดับ 2 ก็ตั้งได้ เหมือนรัฐบาลที่ผ่านมา แล้วตนเชื่อว่าพรรคการเมืองทุกพรรคก็ต้องคิดไปถึงสิ่งที่เป็นอันตรายต่อประเทศ เขาไม่น่าจะไปสุด ซึ่งยังมีเวลาอีก 2-3 เดือนในการจัดตั้งรัฐบาล

 

 

ทั้งนี้ ถ้าการเลือกตั้งในสภาไม่ได้ พรรคเพื่อไทยจะจัดตั้งรัฐบาลใช่หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ไม่ขอไปกล่าวล่วงพรรคเขา แต่เรา 36 เสียงก็พร้อมที่จะทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ก็รอให้เขาจัดตั้งไปก่อนไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไหร่ และส.ว.ก็มีวุฒิภาวะ ฉะนั้น อย่าไปดูแคลน สว. มากเกินไป

 

 

ขณะกระแสขอให้พรรคการเมืองสนับสนุนให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีมีความเป็นไปได้หรือไม่ นายธนกร ถามกลับว่า ทำไมตนต้องยกมือให้ ตนไม่ได้เห็นด้วยกับนโยบายของพารคก้าวไกล ตนเป็นหนึ่งใน 36 เสียง ที่ไม่ได้เห็นด้วยกับตั้งแต่แรก พร้อมย้ำ ตั้งให้ได้แล้วกัน ก็คิดว่าก็ตั้งได้ แต่สุดท้ายจะได้หรือไม่ได้ 2-3 เดือนก็รู้ ซึ่งที่ผ่านมาพรรคร่วมฝ่ายค้านก็สามารถตั้งได้ พรรคอันดับ 1 ตั้งไม่ได้อันดับ 2 ใครรวมเสียงข้างมากได้ก็ตั้งรัฐบาลไปก็เท่านั้นเอง

 

 

หากพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นอันดับ 2 จัดตั้งรัฐบาลพรรครวมไทยสร้างชาติ จะไปอยู่ในสมการนี้หรือไม่ นายธนกร ระบุว่า เรื่องนี้ตนตอบแทนพรรคไม่ได้ แต่ก็คิดว่าพรรคที่ได้อันดับ 2 มีโอกาสจะตั้งรัฐบาล เพราะจากที่ดูแถลงการณ์ต่างๆ ยังไม่เห็นชัดเลยว่า จะไปด้วยกันได้ ต้องดูเงื่อนไขและ MOU ก่อน เพราะถ้าเงื่อนไขและ MOU มันไปด้วยกันไม่ได้ แล้วมันจะไปต่อได้อย่างไร แต่ขอย้ำว่าตนไม่ขอไปก้าวล่วงฝ่ายที่มีเสียงข้างมากก็ให้ว่ากันไป พวกตนได้เสียงมาไม่เยอะก็ว่ากันไป

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube