REIC คาด ปี66 ยอดโอนกรรมสิทธิ์ ลดลงร้อยละ 10.2 ตามภาระหนี้ ดอกเบี้ยขาขึ้น และการยกเลิกการผ่อนคลายมาตรการ LTV
นายวิชัย วิรัตกระพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) กล่าวว่า REIC ได้ติดตามสถานการณ์ในปี 2566 ใกล้ชิด เนื่องจากมีปัจจัยลบหลายด้าน ทั้ง การยกเลิกการผ่อนคลายมาตรการ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่กระทบต่อผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเป็นบ้านสัญญาที่ 2 และ 3 ภาวะหนี้ครัวเรือนที่ยังคงมีอัตราส่วนที่สูง ร้อยละ 90 ของ GDP ภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นซึ่งอาจทำให้อัตราดอกเบี้ยปรับสูงขึ้น ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยมีภาระค่าใช้จ่ายมากขึ้น และความสามารถในการผ่อนชำระลดลง ซึ่งจะกระทบต่อยอดขาย ยอดโอนกรรมสิทธิ์และยอดการปล่อยสินเชื่อของปี 2566 ได้
โดยสถานการณ์อุปสงค์และอุปทานของที่อยู่อาศัย ช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2566 นั้นประเมินว่า อุปทานของการออกใบอนุญาตจัดสรรทั่วประเทศ มีจำนวน 15,267 หน่วยลดลงร้อยละ 13.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยทาวน์เฮ้าส์ยังคงเป็นประเภทที่มีจำนวนการออกใบอนุญาตจัดสรรมากที่สุด จำนวน 6,290 หน่วย รองมาเป็นบ้านเดี่ยว 4,992 หน่วย และบ้านแฝดจำนวน 3,233 หน่วย แต่มีเพียงบ้านแฝดที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.9 บ้านเดี่ยวลดลงร้อยละ 17.8 และทาวน์เฮ้าส์ลดลงร้อยละ 10.4 ส่งผลทำให้ภาพรวมหน่วยที่อยู่อาศัยแนวราบที่เปิดตัวใหม่ในช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2566 บ้านเดี่ยวลดลงร้อยละ 38.4 บ้านแฝดลดลงร้อยละ 47.2 ทาวน์เฮ้าส์ลดลงมากที่สุดร้อยละ 62.9
สำหรับอุปสงค์ไตรมาสที่ 1 พบว่า มีหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศจำนวน 84,619 หน่วย ลดลงร้อยละ 0.8 และมีมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์จำนวน กว่า 2.4 แสนล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.9 ประกอบด้วยการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยแนวราบ 60,950 หน่วยลดลงร้อยละ 6.8 มูลค่า 1.7 แสนล้านบาท ลดลง 0.3 การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมีจำนวน 22,669 หน่วยเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.7 มีมูลค่ากว่า 7 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 34.7 โดยพบว่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของชาวต่างชาติมีจำนวน 3,775 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 79.2 มูลค่า 1.7 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 67.6
สำหรับภาพรวมในปี 2566 ทั้งปี คาดว่า การออกใบอนุญาตจัดสรรทั่วประเทศ จะอยู่ที่ 78,269 หน่วยลดลงร้อยละ 9.3 และมีหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ทั่วประเทศ 352,761 หน่วย ลดลงร้อยละ 10.2 มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์อยู่ที่ 1 ล้านล้านบาทลดลงร้อยละ 4.5 และภาพรวมสินเชื่อที่อยู่อาศัยบุคคลปล่อยใหม่ทั่วประเทศคาดว่า ในปี 2566 จะมีมูลค่า 6.5 แสนล้านบาท ลดลงร้อยละ 6.8
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
