ถึงแม้พรรคเพื่อไทยจะไม่สมหวังถูกก้าวไกลคว้าคะแนนเป็นอันดับ1 แต่เพื่อไทยก็ยังสามารถแลนด์สไลด์ได้ถึง 6 จังหวัด คือแพร่ มี 3 เขตเลือกตั้งคนที่โดดเด่นได้แก่ นายทศพล เสรีรักษ์ ชนะในเขตที่1 41,565 คะแนน น่าน มี 3 เขตเลือกตั้ง แน่นอนว่าต้องเป็นหมอชลน่าน ศรีแก้ว ที่คว้าไปในเขตที่ 2 56,746 คะแนน อุตรดิตถ์ มี 3 เขตเลือกตั้งคนที่โดดเด่นได้แก่ นายรวี เล็กอุทัย ชนะในเขตที่ 3 48,779 คะแนน สุโขทัย มี 4 เขตเลือกตั้ง
คนที่โดดเด่นได้แก่นางสาวประภาพร ทองปากน้ำ หญิงสาวที่ชนะในเขตที่ 3 33,259 คะแนน นครนายก มี 2 เขตเลือกตั้ง คนที่โดดเด่นคือ นายเกรียงไกร กิตติธเนศวร ชนะในเขต 2 20,225 คะแนน และหนองบัวลำภู มี 3 เขตเลือกตั้ง คนที่โดดเด่นได้แก่ นายณพล เชยคำแหง ชนะในเขตที่ 3 32252 คะแนน
ส่วนจังหวัดใหญ่ๆอย่างนครราชสีมามี 16 เขตเลือกตั้ง เพื่อไทยกวาดมาได้ถึง 12 ที่นั่ง อีก 3 ที่นั่งเป็นก้าวไกล และภูมิใจไทยได้ไป 1 ที่นั่ง ขณะที่เชียงใหม่ มี10เขตเลือกตั้ง เพื่อไทยได้ 2 ที่นั่ง ก้าวไกล 7 ที่นั่ง และอีก 1 ที่นั่งเป็นพลังประชารัฐ ซึ่งถือว่าผิดคาดเพราะเชียงใหม่ถือเป็นบ้านเกิดของตระกูลชินวัตร ส่วนที่กาญจนบุรี มี 5 เขตเลือกตั้ง เพื่อไทยได้ไป 4 ที่นั่ง อีก1ที่นั่งเป็นภูมิใจไทย
ขณะที่กรุงเทพมหานครนั้น ก้าวไกลเกือบแลนด์สไลด์ยกจังหวัดคือ 33 เขต แต่สุดท้ายเพื่อไทยก็ยังคว้ามาได้1เขต คือ อิ่ม ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ หนึ่งเดียวที่ชนะในเขตที่ 20 ลาดกระบัง ด้วยคะแนนที่เฉือนก้าวไกลเพียง 4 คะแนน คือ 34,749 ซึ่งคงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าปี 66 นี้ กระแสของ ทิม พิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกล นั้นมาแรงมากจริงๆ และการแข่งขันนั้นย่อมมีทั้งแพ้ ชนะไม่ว่าจะเป็นกีฬาหรือเกมการเมืองก็เช่นกัน
ข้อมูลดังกล่าวได้อ้างอิงล่าสุดในวันที่ 15 พฤษภาคม 66 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ก็คงต้องรอทางสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งรายงานผลคะแนนอย่างเป็นทางการอีกครั้งเร็วๆนี้ ซึ่งหากสังเกตุจากสื่อโซเชียลนั้นหลาย คอมเม้นต์ต่างบอกว่าแม้เพื่อไทยจะได้คะแนนเป็นอันดับ2แต่เพื่อไทยก็ได้ชนะใจคนเสื้อแดงมากแล้ว
พร้อมกันนั้นเมื่อวันที่ 18 พ.ค.66 ที่ผ่านมา ด้านพิธา ได้แถลงข่าวก้าวไกลจับมือ 8 พรรค รวมเป็น 313 เสียงคือ พรรคก้าวไกล 152 ที่นั่ง พรรคเพื่อไทย 141 ที่นั่ง พรรคประชาชาติ 9 ที่นั่ง พรรคไทยสร้างไทย 6 ที่นั่ง พรรคเพื่อไทรวมพลัง 2 ที่นั่ง พรรคเสรีรวมไทย 1 ที่นั่ง พรรคเป็นธรรม 1 ที่นั่ง และพรรคพลังสังคมใหม่ 1 ที่นั่ง เพื่อร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลและสนับสนุนให้พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี
โดยล่าสุดนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยไม่มีแนวคิดจัดตั้งรัฐบาลแข่งกับพรรคก้าวไกล หลังมีกระแสข่าว ว่าที่ ส.ส. จากบางพรรค ย้ายเข้ามาอยู่กับพรรคเพื่อไทย จนทำให้พรรคเพื่อไทย มีจำนวน ส.ส. มาเป็นอันดับ 1
ซึ่งย้ำว่าพรรคเพื่อไทยเคารพฉันทามติของประชาชน ที่มอบให้พรรคก้าวไกล และพร้อมสนับสนุนให้ก้าวไกลเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และให้พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ ยังไม่มีการพูดถึงเรื่องการแบ่งกระทรวง เนื่องจากต้องรอดูรายละเอียดใน MOU ที่แต่ละพรรคมีข้อตกลงร่วมกันด้วย โดยต้องดูตามความเชี่ยวชาญ และความชำนาญของบุคลากรในแต่ละพรรค ว่ามีความเหมาะสมกับกระทรวงใดบ้าง
อย่างไรก็ตามแม้ว่าก้าวไกลได้แชมป์สำเร็จแต่เกมการเมืองไม่ได้จบลงเพียงแค่นี้ เพราะยังมีด่านอีกมากมายที่พิธาต้องฝ่าฟัน ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองต่างๆ และ ส.ว.250 เสียง ที่เป็นตัวชี้ชะตา ว่าสุดท้ายแล้วนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 จะใช่พิธา ตัวเต็งอันดับ1ที่มาแรงตอนนี้หรือจะถูกพรรคการเมืองอื่นแย่งเก้าอี้ไปคงต้องมาลุ้นกันต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
