หากใครที่ติดตามหรืออ่านข่าวการเงินอยู่บ้าง น่าจะเคยเห็นคำว่า บิตคอยน์ (Bitcoin) ทั้งการข่าวราคาที่พุ่งขึ้นมาไม่นานนี้ หรือก่อนหน้านี้ข่าวใหญ่คือไวรัสเรียกค่าไถ่ WannaCry ที่ทำให้ผู้ติดไวรัสต้องใช้บิตคอยน์จ่ายเพื่อกู้ข้อมูลคืน หลายคนอาจเริ่มสงสัยและอยากหาข้อมูลมากขึ้นว่า บิตคอยน์ (Bitcoin) มันคืออะไร มีความสำคัญอย่างไร แล้วทำไมถึงได้ชื่อว่าเป็นสกุลเงินแห่งโลกดิจิตอล
บิตคอยน์(Bitcoin) หรือชื่อย่อ BTC เป็นหนึ่งในสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งว่าตามจริงแล้วมีหลายแบรนด์บนโลกที่เปิดให้ใช้กันแต่เจ้าบิตคอยน์นี้เป็นที่โด่งดัง เป็นเจ้าใหญ่คนเลยคุ้นและใช้คำนี้กันเยอะ (เหมือนในบ้านเรามีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหลายยี่ห้อแต่เรียกกันติดปากว่า มาม่า นั้นละ)
บิตคอยน์ (Bitcoin) นั้นถูกสร้างขึ้นมาด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ เป็นสกุลเงินในรูปแบบดิจิทัล เพื่อเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการต่างๆ ไม่มีรูปร่างที่จับต้องได้แบบธนบัตรหรือเหรียญทั่วไปเราคุ้นเคยกัน ซึ่งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของบิตคอยน์คือไม่มีธนาคารไหนที่ครอบครองและควบคุมได้
บิตคอยน์ (Bitcoin) นั้นถือกำเนิดมาจากนักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ใช้ชื่อแฝงว่า ซาโตชิ นาคาโมโตะ ภายหลังมีชายชื่อ เครก สตีฟไรท์ ออกมาเผยว่าตนคือซาโตชิ แต่หลายคนก็ยังไม่เชื่อในส่วนนี้ INN จะนำมาเล่าให้ครั้งต่อไป โดยบิตคอยน์ถูกพัฒนาขึ้นมาเป็นระบบจ่ายเงินที่ใช้พื้นฐานการอ้างอิงอยู่บนการถอดสมการคณิตศาตร์ใครที่สนใจอยากอ่านละเอียดแนะนำ https://www.coindesk.com/math-behind-bitcoin
จุดประสงค์ที่ซาโตชิ นาคาโมโตะพัฒนาบิตคอยน์ขึ้นมานั้นเพราะต้องการสร้างสกุลเงินที่เป็นอิสระจากการควบคุมไม่ว่าจากรัฐบาล ธนาคาร และสามารถซื้อขายกันได้อย่างสะดวกสบายทั่วโลกผ่านอินเทอร์เน็ตทำให้ค่าธรรมเนียมต่างๆนั้นถูกกว่าการแลกเปลี่ยนเงินตราทั่วไปนั้นเอง
หากไม่มีธนาคาร แล้วใครจะผลิตบิตคอยน์ขึ้นมา อย่างที่เกริ่นไปก่อนหน้าคือ บิตคอยน์ นั้นถูกสร้างขึ้นมาเหมือนเป็นไฟล์คอมพิวเตอร์ ทุกคนสามารถเข้าไปเพื่อหามาใช้ได้ โดยวิธีการ ขุด(Mining) ที่เหมือนการขุดเหมืองทองแต่เปลี่ยนมารูปแบบคอมพิวเตอร์แทน
งั้นก็สบายเลยใครก็เข้าถึงได้ แบบนี้ได้เงินเรื่อยๆเลยรึเปล่า คำตอบนั้นคือ ไม่อย่างแน่นอน ไม่มีอะไรทุกอย่างบนโลกที่ได้มาฟรี การที่เรานำคอมพิวเตอร์ไปขุดนั้น คอมพิวเตอร์ของเราก็จะถูกนำไปเป็นเซิร์ฟเวอร์ให้ระบบที่เรียกว่า Blockchain บิตคอยน์ใช้ในการเก็บธุรกรรมต่างๆด้วย แล้วเรายังต้องมีคอมพิวเตอร์ที่แรงและมีประสิทธิภาพพอในการแก้ไขสมการทางคณิตศาตร์ในการแข่งกับคนอื่นด้วย หากทั้งหมดเราสามารถทำได้เราก็จะได้บิตคอยน์มา (เลยบอกว่าเหมือนการขุดเหมืองทองการที่เราจะขุดได้เราก็ต้องมีอุปกรณ์เครื่องมือที่ดี ทั้งการขุด การแปรรูป การสกัดต่างๆ)
งั้นแปลว่ามีคอมพิวเตอร์แรงๆก็สามารถขุดได้เรื่อยๆ คำตอบนั้นคือ ไม่อีกเช่นเคย ความยากง่ายของการขุดบิตคอยน์นั้นขึ้นอยู่กับจำนวนที่เหลืออยู่ในระบบ ที่ถูกตั้งไว้สูงสุดที่ 21 ล้านหน่วย ยิ่งเหลือน้อยการแก้ไขสมการก็ยิ่งยากขึ้น ความแรงของคอมพิวเตอร์เราก็ต้องมากขึ้น ทำให้ในพักหลังนั้นนอกจากต้องลงทุนในคอมพิวเตอร์ที่แรงมากๆแล้ว อาจจะไม่คุ้มในการหาบิตคอนย์ที่เหลืออยู่ในระบบด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการป้องกันเงินเฟ้อในระบบนั้นเอง
สำหรับในตอนแรกของเรื่อง bitcoin นั้นคงจบแต่เพียงเท่านี้เพื่อเป็นการปูพื้นฐานให้กับคนที่สนใจ ในครั้งต่อๆต่อ INN จะพาไปรู้จักกับเงิน bitcoin มากขึ้นว่าสามารถใช้จ่ายได้อย่างไร ถูกกฏหมายไหม แลกเปลี่ยนเป็นค่าเงินได้เท่าไร ติดตามกันไว้ได้เลย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่ : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
