น่าติดตามเป็นอย่างยิ่งกับสมการทางการเมืองของพรรคก้าวไกลหลังชนะเลือกตั้งเป็นผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาล พร้อมชู “พิธา” เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30
ทั้งนี้ การแถลง MOU ของ 8 พรรคร่วมรัฐบาล เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา แม้ว่าตลาดหุ้นจะตอบรับเชิงบวกได้ในช่วงสั้น จากการไม่บรรจุการแก้ไขมาตรา 112 และการนิรโทษกรรมทางการเมือง ซึ่งเป็นประเด็นอ่อนไหวของสังคมไว้ใน MOU ซึ่งทำให้โอกาสจัดตั้งรัฐบาลกลับมาเปิดกว้างอีกครั้ง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ยังคงต้องติดตามท่าทีของส.ว.ในการโหวตเลือกนายกฯ ซึ่งขณะนี้ ส.ว. ที่แสดงจุดยืนสนับสนุนมีทั้งสิ้น 16 เสียง ทำให้ขาดเสียงสนับสนุนราว 46 เสียง ดังนั้นสูญญากาศทางการเมืองที่ยังคลุมเครือ และไทม์ไลน์ของการจัดตั้งรัฐบาลอาจจะล่าช้าออกไป ย่อมส่งผลต่อความเชื่อมั่นที่สะท้อนมายังตลาดทุน
ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส ระบุว่า นับตั้งแต่วันหลังการเลือกตั้งทั่วไปจนถึงปัจจุบันพบว่านักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่อง แยกเป็นการขายจากตลาดหุ้น 1.6 หมื่นล้านบาท และขายในตลาดตราสารหนี้ 2.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งน่าจะมีส่วนกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลง
ซึ่งวันนี้นักลงทุนต่างชาติมองประเทศไทยอย่างไร และ ผู้นำรัฐบาลแบบบไหนที่จะหนุนความเชื่อมั่น ดันเศรษฐกิจไทยให้เฟื่องฟู สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.คุยกับ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง “ศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช” ในประเด็นดังกล่าว โดยรัฐมนตรีฯสุชาติ กล่าวว่า วันนี้ นักลงทุนต่างชาติให้น้ำหนักว่าใครจะเป็นผู้นำรัฐบาล มีความรู้ ความสามารถมากน้อยแค่ไหน ซึ่งถ้าผู้นำรัฐบาล มีความสามารถไม่มาก ก็จะมาดูรัฐมนตรีฯคลัง รัฐมนตรีฯต่างประเทศ และเมื่อถามว่า บุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ควรมีบุคลิกเป็นอย่างไร คำตอบที่ได้น่าสนใจ
นอกจากนี้ “ศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ” ยังได้กล่าวถึงเศรษฐกิจไทยหลังเลือกตั้งด้วยว่า ยังเติบโตได้ดี โดยมีปัจจัยหนุนมาจากภาคการท่องเที่ยว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศ จะต้องให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาหนี้ด้วยเช่นกัน
จากนี้ต่อไปจะต้องจับตาวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งหากคะแนนเสียงสนับสนุนไม่ถึง 376 เสียงจาก 750 เสียง ก็จะทำให้การจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่สะดุด ทำให้รัฐบาลชุดเดิม “นายกฯลุงตู่” รักษาการไปจนกว่าจะสามารถจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งแน่นอนว่าหากเกิดภาวะสูญญากาศในการบริหารประเทศ ย่อมไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจไทยนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
