สำนักงานเขตเขตห้วยขวาง ติดประกาศเพิกถอนใช้อาคาร เมรี อาบอบนวด 5 ปี -ฝากขัง 51 นักเที่ยว พรุ่งนี้
ตำรวจนครบาลมักกะสันและเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตห้วยขวาง นำคำสั่งของกรุงเทพมหานคร ติดประกาศหน้าอาคาร เมรี อาบอบนวด เพื่อเพิกถอนใบอนุญาตเปิดกิจการอาบอบนวด จากกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี หรือ กก.ดส. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. นำกำลังเข้าตรวจค้นสถานบันเทิง ภายในสถานที่ เมรี อาบอบนวด ย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ กทม. พบนักเที่ยวชาวต่างชาติจำนวน 51 คน เปิดปาร์ตี้มั่วสุมเสพยาเสพติด จึงยึดของกลางทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นจึงนำนักเที่ยวทั้งหมดตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด ก่อนคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน คืนวันที่ 2 มิถุนายน ที่ผ่านมา
นายไพฑูรย์ งามมุข ผู้อำนวยการสำนักงานเขตห้วยขวาง เปิดเผยถึง กรณีสถานบันเทิงไดมอนด์ KTV ว่า ได้จดทะเบียนขอเปิดกิจการประเภทคาราโอเกะ ตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ.2535 เมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยขอจดคนไทยในนามนิติบุคคล แต่จากการตรวจสอบตัวอาคารของสถานที่, สภาพแวดล้อม และระบบสาธารณะสุข ยังไม่ผ่านเกณฑ์ จึงยังไม่ผ่านการพิจารณาออกใบอนุญาต จนกระทั่งได้มีการแอบลักลอบเปิดได้ประมาณ 1 เดือน ส่วนเมรีอาบอบนวด มีการจดทะเบียนในนามนิติบุคคลของ บริษัท เมรี จำกัด ไว้เมื่อ 50 ปีที่แล้วอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
แต่การที่ ไดมอนด์ KTV แอบมาเปิดคาราโอเกะในสถานที่อาบอบนวด ถือว่าเป็นการละเมิดให้การสนับสนุนกระทำผิดกฎหมาย และมีการมั่วสุมสุรา เปิดเกินเวลา และยาเสพติด จึงมีความผิดตามคำสั่ง คสช. ที่ 22/2558 ทางสำนักงานเขตได้ออกคำสั่ง เพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการ ประเภทอาบอบนวด และห้ามใช้สถานที่และออกใบอนุญาตเป็นระยะเวลา 5 ปี
ทั้งนี้ การขออนุญาตเปิดสถานที่อาบอบนวด ทางผู้ประกอบการสามารถจัดสรรพื้นที่ หรือดัดแปลงเปิดกิจการอื่นๆ ได้ตามพรบสาธารณสุข แต่ต้องได้รับอนุญาตจากทางสำนักงานเขต หรือ จังหวัด แต่ ไดมอนด์ เคทีวี ไม่ได้อนุญาตแต่เป็นการลักลอบเปิดให้บริการ
ด้าน พ.ต.อ.จรินทร์ ลำลึก ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลมักกะสัน กล่าวว่า ขณะนี้ได้ควบคุมตัวนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติรวมทั้งหมด 51 คน ควบคุมตัวฝากขังไว้ที่ สน.ดินแดง 18 คน สน.ห้วยขวาง 11 คน สน.มักกะสัน 24 คน โดยมีคนไทย 1 คน ที่เป็นนักท่องเที่ยว จากตรวจสอบพบว่าได้พกพาอาวุธปืนมาเที่ยว พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อหา พกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต
จากการสอบสวนขณะนี้ยังไม่แล้วเสร็จ โดยมีการนำตัวผู้จัดการร้านที่เป็นชาวจีน มาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อหาเจ้าของร้านที่แท้จริงว่าเป็นใคร และจะนำตัวผู้จัดการร้านไปค้นที่บ้านพัก ก่อนที่จะมีการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนจะนำตัวผู้ต้งหาทั้งหมดฝากขังในวันพรุ่งนี้ (4มิ.ย.) เนื่องจากศาลเปิดวันทำการ
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนคัดค้านประกันตัวนักท่องเที่ยวทั้งหมด โดยหลังจากศาลมีคำพิพากษาก็จะส่งตัวนักท่องเที่ยวทั้งหมดไปกักขังที่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองก่อนพิจารณาผลักดันส่งกลับประเทศต้นทาง ส่วนกระแสข่าวที่ว่าในหนึ่งผู้ต้องหามีหมายจับอินเตอร์โพล(หมายแดง) จากการตรวจสอบไม่พบหมายดังกล่าว เชื่อว่าเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews