คงปฏิเสธไม่ได้ว่า หลายหมื่นคน หรือหลายแสนคน หรืออาจจะนับล้านคน ที่ลงคะแนนให้กับผู้สมัคร ส.ส. และพรรคก้าวไกล จนคว้าชัยชนะแบบถล่มทลาย และกำลังเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล
อยู่ในเวลานี้ มาจากนโยบายที่ประกาศจะยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร ปฏิรูปกองทัพ คืนศักดิ์ศรีให้ประชาชนอย่างเท่าเทียมกัน และไม่อยากเห็นทหารมายุ่งเกี่ยวกับการเมือง เป็นตัวถ่วงประชาธิปไตยอีกนั่นเองและผลจากชัยชนะของพรรคสีส้ม แม้จะยังไม่ได้เป็นรัฐบาลอย่างเต็มตัว แต่นโยบายที่ประกาศไว้ก็เริ่มเห็นผลแล้ว สภากลาโหม ได้มีมติเห็นชอบแผนปฏิรูปกองทัพ ที่ริเริ่มทำกันมานาน และเตะถ่วงกันมาหลายปีเมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา
โดยตั้งเป้า จะลดทหารชั้นนายพล 50 % ภายในปี 70 และปรับลดทหารเกณฑ์ สู่ระบบสมัครใจ ตลอดจนปรับปรุงโครงสร้างอื่นให้สอดรับกับสถานการณ์ และการเปลี่ยนแปลงของโลกมากขึ้นซึ่งแกนนำพรรคก้าวไกลหลายคน รวมถึง “พิธา” ว่าที่นายกฯ และอาจจะต้องควบรัฐมนตรีกลาโหม ก็ออกมาแสดงความยินดีทันที ที่เหล่าทัพมีการตอบสนอง
ในทิศทางที่สอดคล้องกับนโยบายของก้าวไกลที่หาเสียงไว้ ส่วนจะตรงจุด ตรงประเด็นที่พรรคต้องการแค่ไหน ถูกใจแฟนคลับ มากน้อยเพียงใด คงต้องติดตามกันต่อไป ว่าแผนปฏิรูปของกองทัพ ที่จะปฏิรูปตัวเองนั้น มีอะไรแอบแฝง หมกเม็ด แบบลับลวงพรางเพื่อหลบหลีก การเข้ามาปฏิรูปกองทัพตามแบบฉบับของพรรคก้าวไกล หรือไม่
ปฏิรูปกองทัพ โดยเหล่าทัพ
1.ยุติแผนเสริมสร้างกองพลทหารราบที่ 7 ของกองทัพภาคที่ 3 โดยไม่มีการบรรจุกำลังพลเพิ่ม
2.ปรับลด กำลังทหารพรานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 1,656 อัตรา
3.ปรับลดนายทหารชั้นยศสูง เพื่อลดงบประมาณ ในห้วงปี 2570 ให้เหลือ 50%
4.การตรวจเลือกทหารกองเกินเข้าเป็นทหารกองประจาการ จะพัฒนาไปสู่การใช้ระบบสมัครใจในอนาคต
5.นำกำลังพลสำรองเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ทหารเป็นการชั่วคราวตามสัญญาจ้าง
6.ดำรงสภาพความพร้อมรบ เพื่อให้กองทัพมีความพร้อมในระดับความต้องการต่ำสุด
7.ขยายขีดความสามารถ เพิ่มขีดความสามารถของอุปกรณ์ที่มีอยู่ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
8.สร้างความทันสมัย เพื่อให้มีสิ่งอุปกรณ์ที่ทันสมัยสอดคล้องกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และรูปแบบภัยคุกคามที่เปลี่ยนไป
ปฏิรูปกองทัพ โดยก้าวไกล
1.ทำให้รัฐบาลพลเรือนอยู่เหนือกองทัพ
2.หยุดการแทรกแซงทางการเมืองโดยกองทัพ
3.ลดขนาดกองทัพ ลดจำนวนนายพล
4.คุ้มครองทหารชั้นผู้น้อย
5. คืนธุรกิจกองทัพให้รัฐบาล
6. คืนที่ดินกองทัพให้ประชาชน
7.ยกเลิกเกณฑ์ทหาร
จะเห็นได้ว่า แผนการที่กองทัพจะปฏิรูปตัวเองนั้น มีแค่ส่วนน้อยเท่านั้น ที่ตรง หรือสอดรับกับนโยบายที่ ก้าวไกล เคยหาเสียงเอาไว้ คือเรื่องเกณฑ์ทหาร ลดจำนวนนายพลและปรับลดขนาดกองทัพ เท่านั้น แต่ก็ยังไม่ชัดเจนถึงขั้นว่าจะยุบ หรือยกเลิกหน่วย ตามที่ก้าวไกลหาเสียงเอาไว้เลย เช่นยกเลิก กอ.รมน. หรือยกเลิกกฎหมาย ความมั่นคงบางประเภท และยิ่งไปกว่านั้นแผนของกองทัพ ไม่มีการพูดถึงเรื่องคืนที่ดิน และธุรกิจกองทัพ ให้กลับไปเป็นของรัฐบาลเลย ซึ่งอาจนับเป็นการโอนอ่อนเพื่อถ่วงเวลาเท่านั้น เพราะอย่างที่รู้กันว่า เรื่องที่ดิน และธุรกิจกองทัพเป็นเรื่องของผลประโยชน์จำนวนมหาศาล
ของทั้งกองทัพ เครือข่าย และตัวบุคคล ที่มีความเชื่อมโยง ทอดยาว และอาจสลับซับซ้อน ยุ่งยากแบบที่ไม่มีใครรู้มาก่อน เพราะระบบผลประโยชน์ของกองทัพนี้ มีการจัดวาง และหยั่งรากลึกในสังคมมานานนับ 100 ปี ไม่ใช่จะมารื้อ หรือจะมาทวงคืนเอาได้แบบทันทีทันใจ ดังนั้น นโยบายปฏิรูปกองทัพ ของก้าวไกลนี้ นับเป็นวาระงานที่หนักหนาสาหัสมากถึงมากที่สุด และท้าทายมาก หากต้องการที่จะทำให้สำเร็จตามที่ประกาศเอาไว้ ว่าจะเป็นผู้นำรัฐบาล เพื่อปฏิรูปกองทัพ ทำให้รัฐบาลพลเรือนอยู่เหนือกองทัพนั้น ในอดีตที่ผ่านมา
หลายรัฐบาลที่พยายามแตะ หรือ ล้วงผลประโยชน์ของกองทัพ ก็มักไปต่อไม่ได้ ดังนั้น การปฏิรูปกองทัพของก้าวไกล จะได้แค่ตามแผนของเหล่าทัพ ที่วางหมากล่อลวงเอาไว้แค่นี้ หรือจะลงลึก ทำสำเร็จมากกว่านั้น เพราะมีมวลชนหนุนหลัง ก็คงต้องรอดูว่า “พิธา” และ ก้าวไกล จะฝ่าด่านที่เหลือ ก้าวขึ้นเป็นนายกฯ และเป็นรัฐบาล เพื่อจะมาอยู่เหนือกองทัพ ได้หรือไม่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews