@ไม่แต่ปรากฏการณ์ อาการดิ้นล่าสุด ยอมรับ มีการโอนหุ้นITV ปลายเดือนพ.ค.66
โดยอ้างเพื่อ หนีการฟื้นITVที่มองว่าเป็นเกม สกัดตั้งรัฐบาลส้ม และการเป็น “นายกฯคนที่30”ของ“พิธา” ที่หลายฝ่ายแม้กระทั่งอดีตกกต.อย่าง“อ.สมชัย”ก็บอกทำนองไม่น่าจะเป็นประโยชน์ใดกับรูปคดี หากว่าผิดก็ยังคงผิด หากไม่ผิดก็คือไม่ผิดตามคุณสมบัติต้องห้ามของส.ส.ตาม ม.98(3) ที่นับคุณสมบัติในวันสมัคร ที่พรรคก้าวไกลสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ4 เม.ย.66 ก่อนวันขายหุ้น แม้พิธาจะไม่น่าขาดคุณสมบัติในการเป็นนายกฯ เนื่องจากกระบวนการลงมติเลือกของรัฐสภายังไม่เกิดขึ้น แต่ก็อาจมีการตีความจากฝ่ายตรงข้ามว่าต้องนับคุณสมบัติตั้งแต่วันเสนอชื่อ 4 เม.ย.ที่ทำให้การขายหรือโอนหุ้น ทำให้คล้ายว่ามีการยอมรับว่าน่าจะผิดเลยขายทิ้งก่อนเลือกนายกฯ
@หากแต่ยังมีปรากฏการณ์หลายช็อต วันนี้ ที่ถูกวิเคราะห์ ว่า อาจมีความเชื่อมโยงต่อกัน ไม่ว่าจะเป็น “สัญญาณ”ที่ถูกส่งผ่านจากทำเนียบฯ จาก“ลุงตู่”และ“ลุงป้อม”ที่ตีคู่ไปกับ “สัญญาณ”จาก“นักร้อง”อย่าง “ศรีสุวรรณ”ที่วันนี้มาร้องฝ่าย “ลุงตู่”เช่นเดียวกับ “คณะกรรมการญาติวีรชน”ปม การออก พ.ร.ก.แก้พ.ร.บ.อุ้มหาย
ที่ก่อนหน้านี้ “ศาลรัฐธรรมนูญ”ชี้ว่าการออกพ.ร.ก.“ไม่ชอบ”จนมีการเรียกร้อง ให้ “ลุงตู่”
และครม.รับผิดชอบด้วยการ “ลาออก”ที่ต่อมา“อ.วิษณุ”อ้างแทนว่า“ลุงตู่”และครม.ไม่ต้องรับผิดชอบ ที่ พ.ร.ก.ยืดเวลาพ.ร.บ.อุ้มหายไม่มีผล หากตามมารยาทรัฐบาล ต้องลาออก แต่กรณีนี้เป็นศาลชี้ ไม่ใช่สภาตีตก แต่พอดีนายกฯยุบสภาแล้วเป็นรัฐบาลรักษาการ ที่วันนี้ ปรากฏว่า“พี่ศรี”มายื่น ป.ป.ช.เพื่อไต่สวนเอาผิด “ลุงตู่-สมศักดิ์”
และ ครม.โดยอ้างจากที่ศาลรธน.มีคำวินิจฉัยว่าไม่เป็นไปตามรธน.ม.172 การที่รัฐบาลใช้อำนาจโดยพลการเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายที่มีความสำคัญ ถือว่าเป็นการอาจจะเข้าข่ายการทุจริตต่อหน้าที่หรือจงใจที่จะละเลยละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่จนก่อให้เกิดผลกระทบ ซึ่งอาจจะเป็นความผิดทางด้านจริยธรรมอย่างร้ายแรง
@ที่น่าสนใจคือ การยื่นของ “พี่ศรี”จั่วหัวเอาผิดไปที่ “สมศักดิ์”ที่นำเข้าครม.แม้เอาเข้าจริง “ลุงตู่”ฐานะนั่งหัวโต๊ะต้องรับผิดชอบร่วมกับครม.ที่เข้าร่วมประชุมลงมติออกพรก. ที่วันนั้นมีรมต.ลาประชุม 4คนคือ “ลุงป้อม” “ดอน” “สุนทร”และ “อเนก”ที่อาจไม่ต้องรับผิดชอบ ที่อย่าลืมว่า ปปช.ที่ “พี่ศรี”ไปยื่นถูกมองมาตลอดว่ามีความเกรงใจกับ“ลุงป้อม” ซึ่งปมนี้ถูกมองความเชื่อมต่อไปถึงสถานการณ์ถัดไปจากเหตุการณ์ที่“สมการ”การตั้งรัฐบาลส้ม
เกิดปัญหา ไม่ว่าในขั้นตอน “คุณสมบัติส.ส.”จากปมหุ้นITVของพิธา ที่จะไปตกตรงไทม์มิ่งไหนก่อนหรือหลังกกต.รับรองส.ส. ไปจนถึงกระบวนการหากผ่านด่านนี้ไปได้แต่ไปติดอยู่ที่ ด่านสว.250 ในการโหวตนายกฯ ไปจนมีผลคดี ที่อาจทำให้ แคนดิเดตนายกฯของ“เพื่อไทย”มีโอกาสแต่ก็ต้องไปติดด่านสว.250เช่นกัน จนเกิด “ทางตัน”ที่คนที่จะผ่านทางตันถูกมองว่าเป็น “ลุงป้อม”แห่งพรรคพลังประชารัฐ ในการเกิดการ “สลับขั้ว”เกิดขึ้นเป็นอีก สมการ
@ที่จังหวะเวลานั้นถูกมองว่าจากปม“พิธา”ก้าวไกลไม่ได้ไปต่อ จะเกิดเหตุการณ์ “ส้มลงถนน”อย่างที่ “ทนายอานนท์”ออกมาส่งสัญญาน และมีอีกฝั่ง “ฝ่ายอนุรักษ์” เอาบ้างอย่างที่เริ่มมีอดีตแกนนำม็อบพันธมิตร ประกาศพร้อมระดมมวลชนเข้ากรุงฯ เช่นกัน ซึ่งบังเอิญไปสอดรับกับสัญญานจาก “สว.ตัวตึง”ก่อนหน้าที่ส่งสัญญานสื่อไปถึงการอาจเกิดเหตุการณ์เช่น22พ.ค.57ที่ทหารจะออกมา “รัฐประหาร”ที่บังเอิญเช่นกันว่า
ห้วงนี้ฝั่งตำรวจมีการเตรียมการเพิ่มจำนวน “ชุดควบคุมฝูงชน”(คฝ.) ซึ่ง พอยน์ของสถานการณ์บ้านเมืองที่อาจเกิดปฏิกริยาบนถนนถูกมองว่า อาจเกิดการตัดสินใจบางอย่างของใครบางคนที่ทำเนียบฯเพื่อไม่ต้องมารับหน้าเสื่อที่อาจส่งผลไปสู่การเกิดภาพ “รัฐบาลรักษาการซ้อน”
@อย่างที่ มีการวิเคราะห์จากนักสังเกตการณ์การเมืองบางฝ่ายประเมินถึง “ความเคลื่อนไหว”ที่เชื่อมต่อกัน ว่า อาจมีผลลัพธ์บางประการสอดคล้องกับบางสัญญานของ “ลุงตู่”ที่คล้ายถอดใจในที เมื่อถูกถามวันนี้(6มิ.ย.)จะไปต่อหรือไม่ว่า “แล้วตนไปได้หรือไม่ ไปได้ไหม” “ตนยังไม่เห็นโอกาสเลยว่าจะไปได้ยังไง” ซึ่งต่างจากอาการของ “ลุงป้อม”ที่ยิ้มแม้ไม่ตอบเมื่อโดนถามจะเป็นผู้ผ่านทางตันสถานการณ์.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
