“วิโรจน์” มองตัดสิทธิ์นักเรียน “หยก” ทุกฝ่ายต้องหารือ อย่างสร้างสรรค์ เชื่อ หวังดีร่วมกัน อยากให้เด็กได้เรียน ย้ำเดินหน้าแก้โกงข้าวกลางวันนักเรียน
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ให้ความเห็นกรณี เรื่องของหยก เยาวชนอายุ 15 ปีที่มีปัญหา ถูกทำให้พ้นสภาพความเป็นนักเรียนโดยระบุว่า ตนคิดว่ากำลังอยู่ในกระบวนการ กำลังแก้ไข หารือ หาทางออก ด้วยการพูดคุยกันอย่างสร้างสรรค์ เป็นทางออกที่ถูกต้องแล้ว
นายวิโรจน์มองว่า การที่คนฝ่ายหนึ่งที่มีข้อมูลอีกแบบหนึ่ง แล้วมาพูดนอกรอบ ตนว่าไม่เกิดประโยชน์ แต่ตนเขื่อว่าทุกคนพยายามทำให้นักเรียนรวมถึงคุณหยก ได้เรียนอยู่แล้ว ติดขัดตรงไหนก็ต้องคุยกัน
“ต้องพูดคุยกัน ถ้าเรายังตอบคำถามแบบปิงปองแบบนี้ การแก้ปัญหาจะไม่เกิด เราควรเปลี่ยนให้เป็นการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ดีกว่า เพราะว่าจุดยืนคือนักเรียนทุกคนต้องได้รับการเรียนหนังสือ” นายวิโรจน์กล่าว
นอกจากนี้ยังย้ำเดินหน้าแก้โกงข้าวกลางวันนักเรียน มีหลายปัจจัย ต้องแก้ทั้งงบประมาณ และสางหนี้อปท. เตือน ทำลายอนาคตชาติโทษหนัก
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศรว่าที่ ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงประเด็นการตรวจสอบการทุจริตอาหารกลางวันของนักเรียน ว่า เป็นปีญหาที่มีความซับซ้อนการแก้ไขเพียงเรื่องทุจริตเพียงอย่างเดียวไม่สำเร็จ เพราะที่มาของปัญหาคือการจัดสรรงบประมาณที่ไม่สมเหตุสมผล ตามมติของคณะรัฐมนตรีงบประมาณอาหารกลางวันต่อหัว อยู่ที่ 22-36 บาท ขึ้นอยู่กับตำนวนนักเรียน หากหักค่าวัตถุดิบค่าง ๆ ก็แทบไม่เหลือค่าแรงให้แม่ครัว
นายวิโรจน์ยกตัวอย่าง โรงเรียนขนาดใหญ่นักเรียน 1000 คน ขึ้นไป จะไม่มีปัญหานี้ แต่โรงเรียนขนาดเล็ก นักเรียน 300-400 คน จะเหลืองบ 27 บาทต่อหัวและถ้ามีนักเรียน 100-120 คน ก็จะได้ 22 บาทต่อหัว จึงต้องตั้งคำถามว่า งบประมาต่อหัวเพียงพอ ต่อต้นทุนวัตถุดิบและค่าแรงของแม่ครัวหรือไม่
นายวิโรจน์กล่าวถึง อีกปัจจัยคือ บางโรงเรียน เช่น โรงเรียนขยายโอกาส ซึ่งให้นักเรียนมัธยมมาร่วมทานอาหารกลางวันกับนักเรียนชั้นประถม ถึงแม้จะผิดกฎระเบียบแต่ด้วยความขาดแคลนจึงต้องทำ ซึ่งก็ต้องมารับประทานอาหารที่เหลือจากน้อง เพราะตามระเบียบแล้วไม่สามารถรับประทานพร้อมกันได้ งบประมาณต้องไปเจียดให้กับเรื่องนี้ ซึ่งไม่เพียงพอ
นายวิโรจน์ยังกล่าวถึงปัญหาของโรงเรียนขนาดเล็ก ที่มีอุปสรรค จากกฎระเบียบทำให้ไม่สามารถรวมตัวกัน เพื่อจัดซื้อจัดจ้างได้ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบางแห่ง(อปท.) ก็มาอุดหนุนไม่สะดวกนัก เพราะมีปัญหาเนื่องจากการจัดเก็บภาษีที่ดินที่ปรับลดลง 90% ทำให้ตอนนี้รัฐบาลติดหนี้ค้างจ่าย อปท. ทั่วประเทศ กรุงเทพค้างอยู่ 30,000 ล้านบาท ก็ยังไม่มีแผนชำระคืน
“หลังจัดการเรื่องงบประมาณเสร็จแล้ว ต้องไปผมต้องมาดู เรื่องความโปร่งใสต่าง ๆ เพราะ การทุจริตอาหารกลางวันมีโทษหนัก ไม่ใช่เพียงโทษทางกฎหมายโทษทางสังคมก็หนัก เพราะเรารู้อยู่แล้วว่า เยาวชนคืออนาคตของชาติ การโกงอาหารกลางวันคือการทำลายอนาคตของชาติ” นายวิโรจน์กล่าว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews